Hyukoh วงดนตรีสายร็อกจากเกาหลีใต้ อิทธิพลแห่งเสน่ห์อินดี้ที่โด่งดังไม่แพ้ไอดอล

     นอกจากประเทศแห่งแดนกิมจิที่ผู้ถือครองดนตรีกระแสหลักส่วนมากเป็นพวกบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ป อีกมุมหนึ่งในย่านฮงแดเองคุณก็ยังหาวงดนตรีสายอินดี้นอกกระแสที่โด่งดังและมีเอกลักษณ์ไม่แพ้กันได้จากที่นี่เช่นเดียวกัน ในบทความนี้เราจะพูดถึงวง Hyukoh กันโดยเฉพาะ วงโนเนมที่มากด้วยเสน่ห์และไต่เต้าขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดมาด้วยความจัดจ้านจนทุกคนต้องอึ้ง ฮยอกโอเป็นวงดนตรีสายอินดี้ร็อกที่ประกอบไปด้วยฟรอนต์แมนร้องนำและเล่นกีตาร์ที่ควบตำแหน่งในการทำเพลงอย่าง Oh Hyuk มือเบส Donggun ตามด้วยมือกลองอย่าง Inwoo และ Hyunje มือกีตาร์

ภาพ: Vogue US

     จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 หนุ่มโอฮยอกเบิกทางด้วยการเป็นศิลปินเดี่ยวตามความฝันโดยใช้ชื่อว่าฮยอกโอ หากระหว่างทางเขามีโอกาสได้รู้จักคนมากหน้าหลายตา จาก One-Man Band ที่เคยตั้งใจไว้กลายเป็นวงดนตรีที่มีสมาชิกรวมแล้ว 4 คน แนวเพลงของวงนี้ค่อนข้างแตกต่างและแปลกใหม่ เนื่องจากมีเนื้อเพลงถึง 3 ภาษาทั้งเกาหลี จีน และอังกฤษ ด้วยความที่โอฮยอกผู้รับหน้าที่แต่งเพลงนั้นคล่องแคล่วถึง 3 ภาษา จากการที่เขาเติบโตและใช้ชีวิตวัยรุ่นที่ประเทศจีนแล้วค่อยย้ายกลับมาปักหลักที่เกาหลีใต้เพื่อตามความฝันในการเป็นนักร้อง กลิ่นอายของเพลงจึงมีความสดใหม่ที่คลุกเคล้าวัฒนธรรมและการบอกเล่าผ่านเสียงเพลงได้อย่างไม่มีใครเหมือน

ภาพ: Pinterest

     แนวดนตรีแปลกหูทำให้ผู้คนต้องหยุดฟังแล้วค่อยๆ ซึมซับตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของคนทั้งสี่คนอย่างที่เลี่ยงไม่ได้ ใครที่ไม่เคยฟังมาก่อนเราขอให้นึกถึงแนวเพลง British Rock กลิ่นอายคล้ายกับ The 1975 แต่ก็มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งเสียงลีดกีตาร์และเบสในระดับรัวเร็ว จังหวะกลองอันแน่นหนัก และน้ำเสียงทุ้มสากๆ ยามร้องเพลงที่ดูเหมือนไม่ใส่ใจมากนักของโอฮยอก แต่มันกลับดูซื่อตรงและไร้การปรุงแต่ง เราจะไม่บอกว่าพวกเขาดีกว่าวงไหนๆ เพราะแต่ละวงเองก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน เราจะพูดแค่ว่าถ้าคุณกำลังตามหาพลังเสียงกล้าแกร่งที่ฟังแล้วสะเทือนหู ฉะนั้นวงฮยอกโอเองก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณอยากได้ฟีลลิ่งล่องลอยไปในอากาศ หรือกระโดดโลดเต้นไปมาในโลกของคุณเอง เราว่านี่คือวงที่น่าจะเข้าทางคุณได้ดี 

     เส้นทางบนโลกแห่งเสียงเพลงเกิดขึ้นแบบจริงจังหลังจากปี 2014 วงปล่อยเดบิวต์อีพีเป็นของตัวเองครั้งแรกภายใต้ชื่อว่า 20 ที่มาจากเลขอายุของทุกคนในวง โดยมีซิงเกิลดัง WI ING WI ING ที่เรียกว่าแหวกตลาดแบบสุดขั้วในเกาหลีใต้ พวกเขาสร้างชื่อขึ้นมาได้ประมาณหนึ่งและมีแฟนคลับเหนียวแน่นอยู่เป็นกลุ่มก้อนเล็กๆ จากนั้นการเดินทางของวงอินดี้วงนี้ก็คล้ายกับวงดนตรีทั่วไปที่เร่ไปเล่นดนตรีสดในย่านกลางคืนที่พลุกพล่านอย่างย่านฮงแด แหล่งรวมตัวของวัยรุ่นและเด็กรุ่นใหม่ที่เปิดกว้างทั้งเรื่องวัฒนธรรม การดื่มกิน และเสียงเพลง 

ภาพ: Enjoy Korea

     ฮยอกโอเริ่มเป็นที่รู้จักบนกระแสหลักมากขึ้นจากรายการ Infinite Challenge ในปี 2015 รายการวาไรตี้ที่จับคนดังมากมายมาร่วมกันแต่งเพลงในงานเทศกาลดนตรี ซึ่งพวกเขาก็ตัดสินใจเข้าร่วมรายการเพื่อเปิดกว้างสายเพลงของตัวเองให้มากขึ้น ที่นั่นพวกเขาได้โอกาสโชว์ฝีมือจนเป็นที่ประทับใจของศิลปินหลายคน รวมไปถึงการขึ้นแสดงเพลง Wonderful Barn ที่ผสมผสานแนวดนตรีคันทรี่อย่างการใช้แบนโจเข้ามาผสมโรงความเป็นอินดี้ร็อกร่วมกับพิธีกร Jung Hyung-Don กระทั่งเจ้าแม่ล้างชาร์ตอย่าง IU ที่มาเข้าร่วมรายการเองยังเอ่ยปากไม่ขาดสายเลยด้วยว่า เธอเป็นแฟนคลับตัวยงของวงนี้ แฟนคลับหลายเสียงเองก็ตอบรับเขาอย่างดีเยี่ยมพร้อมชื่นชมเลยว่าถ้าจะไปงานเทศกาลดนตรีล่ะก็ สิ่งที่ต้องมองหาเลยคือวงนี้ว่าจะมาร่วมเล่นด้วยหรือเปล่า

     จากรายการที่พวกเขาตัดสินใจไปออกนี้เองทำให้ซิงเกิลที่เพิ่งปล่อยไปในเวลาไล่เลี่ยกันอย่าง Comes and goes ในอัลบั้มใหม่ 22 กลายเป็นซิงเกิลยอดฮิตของวัยรุ่นแดนโสม และอัลบั้มนี้ยังแซงหน้าวงบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปขึ้นชาร์ต Billboard World Albums Chart อีกด้วย ถือเป็นจุดพลิกผันในลำดับที่สอง เพราะวงโนเนมวงนี้กลายมาเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของค่ายดังมากมาย จนกระทั่งพวกเขาตกลงเซ็นสัญญากับบริษัทลูกของค่ายยักษ์ใหญ่ YG Entertainment อย่าง HIGHGRND (High Ground) เนื่องจากความต้องการแสดงเพลงในระดับโลก โดยมี Tablo ศิลปินฮิปฮอปคนดังแห่งวง Epik High เป็นผู้ดูแล

ภาพ: 1thek

     อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นว่ารายการอินฟินิต ชาเลนจ์ สร้างชื่อเสียงให้กับวงเขาเป็นอีกเท่าตัว ยังไม่เท่านั้นเพราะรายการนี้ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างศิลปินต่อศิลปินอีกด้วย เพราะระหว่างการออนแอร์ ฟรอนต์แมนของวงเองยังได้โอกาสร้องดูเอตกับเจ้าแม่ไอดอลอย่างไอยูในเพลง Gondry ของเจ้าตัว รวมไปถึงฟีเจอริ่งกันในเพลงของไอยูอย่าง Can’t Love You Anymore ที่ต้องบอกเลยว่าเสียงของทั้งคู่กลมกล่อมเข้ากันได้อย่างลงตัวราวกับมาร์ชแมลโลว์เยิ้มๆ ในถ้วยช็อกโกแลตร้อนๆ ก็ไม่ปาน มากไปกว่านั้นยามที่วงไปแสดงสดที่ไหนบางครั้งก็จะมีไอยูเป็นแขกรับเชิญพิเศษโผล่มาเซอร์ไพรส์ร่วมร้องด้วยเช่นกัน

ภาพ: Pinterest

     คนสี่คนที่แตกต่างทั้งหน้าตา รูปร่าง เอกลักษณ์ และความครีเอทีฟกลับร่วมกันสร้างงานศิลปะทางดนตรีให้มีความแตกต่างได้อย่างลงตัว ฮยอกโอจึงไม่ได้เป็นวงดนตรีที่อินดี้แค่ในด้านดนตรีและเสียงเพลงเท่านั้น แต่ตัวตนของแต่ละคนเองก็ฉายชัดผ่านทั้งการแต่งตัว อาร์ตเวิร์กบนปกอัลบั้ม ภาพถ่ายโปรโมตต่างๆ รวมไปถึงเอ็มวีเพลง ราวกับว่าไม่ต้องการยึดติดกับอะไรทั้งสิ้น และได้โอกาสทดลองค้นหาความเป็นฮยอกโอให้ได้มากที่สุด อย่างการใช้ภาพถ่ายของช่างภาพชื่อดัง Wolfgang Tillmans มาเป็นปกอัลบั้มล่าสุด Through Love ในขณะที่ปกอัลบั้มก่อนหน้าทั้งหมดพวกเขาใช้บริการอาร์ตติส Sangho No (Nemonan) มาเป็นผู้รังสรรค์ให้ 

 

ภาพ: KoreanNews

     เพลงของฮยอกโอถือเป็นแนวที่ผู้เขียนรู้สึกว่าอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ยาก เพลงแนวนี้ต้องเปิดหูเปิดใจฟังด้วยตัวเอง แล้วจะพบกับความแปลกใหม่ที่ปลุกความรู้สึกที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ทุกเลเยอร์ของซาวด์ ทุกเสียงร้อง และลีลาความจัดจ้านบนเวที นับว่าเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่น่าติดตามไม่น้อยเลยทีเดียว และในบทความนี้โว้กเองก็นำเพลงดังมาให้ได้ทดลองฟังกัน ก่อนที่จะโดนตกไปเป็นแฟนคลับของวงนี้อย่างเต็มตัวเหมือนผู้เขียน