LIFESTYLE

นี่คือวิธียืดอายุดอกไม้สดให้อยู่ได้นานขึ้น

คงสภาพดอกไม้ให้สวยสดชื่นได้นานเหมือนอยู่บนต้นได้อย่างไร

เรื่อง: ปัญยภัสรร์ พรหมชัยวัฒนา

 

     การดูแลดอกไม้สดให้อยู่ได้ยาวนานไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แต่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เราต้องคอยเอาใส่ใจและสังเกตความเปลี่ยนแปลงของดอกไม้ ทั้งในเรื่องของชนิดของดอกไม้ ภาชนะที่ใส่ดอกไม้ และปัจจัยเสี่ยงรอบข้างที่อาจส่งผลถึงการลดอายุของดอกไม้โดยที่เราไม่รู้ตัว โว้กมาบอกวิธีการยืดอายุดอกไม้สดให้คงความสดชื่นและสวยงามเหมือนวันแรกที่ได้รับ

 

ตัดก้านมุม 45 องศา

     ตัดก้านดอกไม้เป็นแนวเฉียงประมาณ 45 องศา เพื่อเพิ่มพื้นผิวในการดูดน้ำ เทคนิคคือตัดให้ขาดในครั้งเดียวและไม่ตัดย้ำๆ เพื่อไม่ให้เนื้อเยื่อบริเวณก้านที่โดนตัดเกิดความเสียหาย เพราะอาจทำให้เกิดอุปสรรคในการดูดน้ำเมื่อนำไปปักลงในแจกัน หลังจากนั้นจุ่มลงในแจกันที่มีน้ำทันที เพราะเมื่อก้านดอกไม้สัมผัสอากาศ เนื้อเยื่อบริเวณก้านที่เป็นรอยตัดจะปิด อาจทำให้เกิดการสูญเสียน้ำและสารอาหารได้

 

ไม่ควรวางในพื้นที่ที่มีแดดส่องตลอดเวลา

     ไม่วางแจกันดอกไม้ในที่ที่ได้รับแสงแดดหรือความร้อนโดยตรง เช่น ริมหน้าต่างหรือห้องครัว รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ปล่อยความร้อนออกมา เพราะจะทำให้ดอกไม้สูญเสียน้ำ นอกจากนี้ควรวางให้ห่างจากเครื่องปรับอากาศ พัดลม หรือพัดลมดูดอากาศ เพราะลมที่ออกมาจากอุปกรณ์เหล่านี้จะเร่งการระเหยของน้ำจากแจกันและตัวดอกไม้ได้

 

เปลี่ยนน้ำอย่างสม่ำเสมอ

     การเปลี่ยนน้ำในแจกันไม่ใช่แค่เป็นการเพิ่มความสดชื่นให้กับดอกไม้เท่านั้น เราควรทำความสะอาดแจกัน เพื่อลดโอกาสการเกิดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ที่สะสมในแจกัน ช่วงคงความสดชื่นให้ดอกไม้เบ่งบานยาวนานยิ่งขึ้น หากที่บ้านมียาแอสไพริน สามารถใส่ลงไปในแจกันประมาณ 2-3 เม็ด เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียและไม่ทำให้ดอกไม้เหี่ยวเฉาได้

 

พรมน้ำบนดอกไม้โดยตรง

     หากไม่มีเวลาเปลี่ยนน้ำและทำความสะอาดแจกันทุกวัน สิ่งที่สามารถทำได้ทุกวันก็คือการพรมน้ำสะอาดลงบนดอกไม้โดยตรง เพราะเป็นการเพิ่มความสดชื่นให้กลีบดอกสดชื่นและเบ่งบานได้นาน แต่ถ้าหากอยากรักษาให้ดอกไม้ทั้งต้นอยู่นานยิ่งขึ้น ควรทำตามวิธีข้างต้นด้วยเช่นกัน

 

ตัดส่วนที่เหี่ยวเฉาออกให้ไวที่สุด

     หากสังเหตเห็นดอกเน่าหรือก้านใบบางส่วนที่เน่าเสีย ให้รีบตัดทิ้งโดยด่วน เพราะในส่วนที่เหี่ยวเฉานี้จะปล่อยก๊าซเอทิลีน (Ethylene) ออกมาทำให้ดอกไม้สดรอบข้างเหี่ยวเฉาตามไปด้วยนั่นเอง เช่นเดียวกันกับการวางแจกันดอกไม้ไว้ใกล้ผลไม้ เพราะผลไม้ที่กำลังสุกจะผลิตฮอร์โมนพืชในรูปของก๊าซเอทิลีนออกมา เมื่อดอกไม้ได้รับฮอร์โมนนี้ก็จะเร่งให้ดอกไม้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยมีผลกับดอกไม้แต่ละชนิดแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเหี่ยวเฉา เปลี่ยนสี หรือมีกลิ่นเหม็น

 

เลือกแจกันให้ถูกขนาด

     เลือกภาชนะหรือแจกันให้มีลักษณะปากกว้าง ไม่ควรเลือกที่มีขนาดเล็กเกินไป เพราะก้านดอกไม้จะถูกเบียดจนช้ำและไม่สามารถดูดน้ำขึ้นมาเลี้ยงดอกได้ เช่น แจกันขนาด 4-6 นิ้ว เหมาะสำหรับดอกไม้ก้านสั้น แจกันขนาด 7-12 นิ้ว เหมาะสำหรับดอกไม้ทั่วไป และแจกันขนาด 12 นิ้วขึ้นไป เหมาะสำหรับดอกไม้ก้านยาว

 

ภาพ : Freepik

WATCH

 
Close menu