สำหรับเมืองไทยที่มีอากาศร้อนและแดดแรง ‘แว่นกันแดด’ จึงเป็นไอเท็มที่ควรมีเพื่อช่วยปกป้องดวงตาจากรังสียูวีโดยเฉพาะเวลาขับรถ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดแสงสะท้อนเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนขึ้นแล้วยังเพิ่มวิสัยทัศน์ที่ดีในการขับรถด้วย แต่ในขณะเดียวกันหากเลือกแว่นกันแดดคุณภาพต่ำที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจเป็นการทำร้ายสุขภาพตาในระยะยาว ด้วยเหตุนี้โว้กจึงอยากมาบอกต่อ 5 คุณสมบัติที่แว่นกันแดดที่ดีควรมีไว้ด้านล่างนี้แล้ว

 

 

สามารถป้องกันรังสียูวีได้

     แสงแดดไม่เพียงแค่ทำร้ายผิวเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นอันตรายต่อดวงตาได้ในระยะยาว เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ โดยแว่นกันแดดที่ได้มาตรฐานควรป้องกันรังสียูวีเอได้อย่างน้อย 95 เปอร์เซ็นต์ และยูวีบีได้อย่างน้อย 99 เปอร์เซ็นต์ หากอยากรู้ว่าแว่นกันแดดใดสามารถป้องกันรังสียูวีได้ สังเกตได้จากสัญลักษณ์ CE ที่บริเวณขาแว่นด้านใน ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานของยุโรป

 

ตัดแสงสะท้อนได้ดี

     แสงสะท้อนจากไฟและแสงแดดถือเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคในการขับรถที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนตามมาได้ ด้วยเหตุนี้จึงควรมองหาแว่นกันแดดโพลาไรซ์ ซึ่งนอกจากปกป้องดวงตาจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อดวงตาแล้ว ยังถูกออกแบบมาเพื่อลดแสงสะท้อนต่างๆ เช่น แสงสะท้อนจากกระจก, พื้นน้ำ, พื้นหญ้า และพื้นหิมะ เป็นต้น โดยแว่นกันแดดที่ดีควรตัดแสงได้ประมาณ 70-90 เปอร์เซ็นต์

 

 

สีของเลนส์

     แว่นกันแดดมีสีเลนส์ให้เลือกหลากหลาย ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยเสริมลุคเท่านั้น แต่เลนส์แต่ละสียังมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้

• สีดำ หรือสีเทาดำ: มีคุณสมบัติช่วยลดความเข้มของแสงได้ดีที่สุด จึงเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง
• สีเทา: ช่วยกรองแสงและลดแสงจ้า โดยไม่ทำให้สีเพี้ยน มองc]h;สบายตาขึ้น เหมาะกับทำกิจกรรมกลางแจ้งและขับรถตอนกลางวัน
• สีน้ำตาล หรือสีชา: ช่วยลดแสงฟุ้งและเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองเห็น ส่งผลให้ภาพที่เห็นมีความคมชัดมากขึ้น เหมาะสำหรับใส่ตอนขับรถ
• สีส้ม หรือสีเหลือง: ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์การมองเห็น โดยเฉพาะในช่วงที่มีแสงน้อยอย่างช่วงเย็นหรือกลางคืน แต่จะมีการเพี้ยนของสี จึงไม่เหมาะสำหรับการใส่ขับรถ
• สีเขียว: ช่วยกรองแสงและตัดแสง ทำให้รู้สึกสบายตามากขึ้น เหมาะกับใส่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง

 

เลือกเลนส์ให้เหมาะกับกิจกรรม

     สำหรับเลนส์ของแว่นกันแดดสามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ซึ่งเลนส์แต่ละชนิดก็ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

• เลนส์ย้อมสี: เป็นเลนส์มาตรฐานเริ่มต้นของทุกเลนส์ โดยสีที่นำมาย้อมมีให้เลือกหลากหลายเฉดสี โดยแต่ละสีก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เนื้อเลนส์จะมีสีเข้มและสามารถตัดแสงทุกสีได้ในปริมาณเท่าๆ กัน เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
• เลนส์ Polalized: เลนส์แว่นกันแดดที่ไม่เพียงแค่ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงแดดเท่านั้น แต่ยังถูกออกแบบมาเพื่อลดแสงสะท้อนจากพื้นผิว ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับใส่ขับรถและทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานๆ 
• เลนส์ Photochromic: เลนส์ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการปรับเปลี่ยนสีความเข้มตามปริมาณแสงที่ได้รับโดยอัตโนมัติ กล่าวคือเมื่ออยู่ในร่มเลนส์จะใสเหมือนปกติ แต่เมื่อออกไปเผชิญแสงแดดเลนส์จะเปลี่ยนจากใสเป็นสีที่เข้มขึ้นเพื่อปกป้องดวงตา ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีค่าสายตาและไม่อยากเปลี่ยนแว่นตากับแว่นกันแดดสลับไปมา

 

 

กรอบแว่นมีน้ำหนักเบาแต่ทนทาน

     หลังจากเลือกเลนส์ที่เหมาะสมต่อการใช้ได้แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ‘น้ำหนักของกรอบแว่น’ หากเลือกกรอบแว่นที่หนักจนเกินไปอาจทำให้เกิดการกดทับบริเวณสันจมูกจนเกิดการบาดเจ็บตามมาได้ ด้วยเหตุนี้จึงควรเลือกแว่นกันแดดที่มีน้ำหนักเบาและทนทานต่อการใช้งาน โดยสามารถเลือกได้จากวัสดุที่ใช้ในการผลิต เช่น Acetate, Optyl, TR90, ULTEM, Carbon, Stainless Steel และ Titanium