LIFESTYLE
'Friends' ซิตคอมจากยุค 90 ที่มอบบทเรียนความรักและชีวิตคู่ที่ยังคงปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวันถึงแม้ชื่อซีรี่ส์จะมีความหมายตรงตัวว่า ‘เพื่อน’ แต่บทเรียนความรักที่มอบให้กับผู้ชมก็ถือว่าเฉียบแหลมไม่แพ้กัน |
เชื่อว่าแทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก Friends ซิตคอมจากช่วงกลางยุค ’90s ถึงช่วงกลางยุค 2000s ที่ออกฉายทางช่อง NBC และประสบความสำเร็จอย่างมากจนกลายเป็นหนึ่งในซีรี่ส์ที่ได้รับความนิยมที่สุดตลอดกาล ซึ่ง Friends ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตประจำวันของกลุ่มเพื่อนสนิท 6 คน ในย่านแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีครบทุกรสชาติ บ้างก็ขำจนกรามค้าง บ้างก็ซึ้งจนต้องคอยซับน้ำตา และนอกจากความสนุกที่ซีรี่ส์เรื่องนี้มอบให้กับผู้ชมแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Friends พิชิตใจผู้ชมได้อย่างเหนียวแน่นก็เพราะบทเรียนชีวิตมากมายที่พวกเขามอบให้ โดยเฉพาะในแง่มุมความรักและการประคับประคองชีวิตคู่ ที่ถึงแม้ชื่อซีรี่ส์จะมีความหมายตรงตัวว่า ‘เพื่อน’ แต่บทเรียนความรักที่มอบให้กับผู้ชมก็ถือว่าเฉียบแหลม และถึงแม้จะผ่านกาลเวลามากว่าสองทศวรรษ แต่มันก็ยังคงไม่ล้าสมัย และหากจะปัดฝุ่นหยิบมาดูอีกครั้ง มันก็ยังคงปรับใช้กับยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
ภาพจากซิตคอมเรื่อง Friends / ภาพ: Cheatsheet
เริ่มจากเรื่องราว ‘Lobster ของ Ross’ โดย ‘Lobster’ เป็นคำที่ตัวละคร Phoebe ให้ความหมายไว้ว่า ‘คู่แท้ ที่ต่อให้พลัดพรากกันยังไงสุดท้ายก็กลับมาเจอกันอยู่ดี’ โดยเธอได้บอกกับ Ross ว่า Rachael คือ Lobster ของเขา ผิดหวังครั้งนี้ก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะยังไงเธอก็จะกลับมาแน่นอน และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ก็ต้องใช้เวลารอเกือบ 10 ปีเลยทีเดียว
ในตอนสุดท้ายหลังจากผ่านทุกข์สุขร่วมกันมามากมาย เมื่อถึงเวลาที่ใช่ รอสส์กับเรเชลก็ได้กลับมาครองรักกันอีกครั้ง พร้อมประโยค ‘I Got Off the Plane’ ที่ทำให้ผู้ชมทั้งโลกแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เรื่องราวของรอสส์กับเรเชลจึงสะท้อนบทเรียนความรักครั้งสำคัญว่า คนที่ใช่ยังไงมันก็ใช่อยู่ดี และไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็คุ้มค่าแก่การรอเสมอ
ภาพจากซิตคอมเรื่อง Friends / ภาพ: NBC News
อย่างไรก็ตาม ต่อให้เป็นคนที่ใช่ แต่ถ้ามาในเวลาที่ไม่ใช่ ก็หมายความว่าคือคนที่ไม่ใช่ โดยบทเรียนนี้สะท้อนอย่างชัดเจนผ่านเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวละคร Phoebe และ David ที่ถึงแม้ทั้งสองจะรักกันมาก แต่ด้วยหน้าที่การงานทำให้เดวิดต้องย้ายไปอยู่ประเทศเบลารุสเป็นเวลาหลายปี โดยมีโอกาสกลับมานิวยอร์กเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ทำให้สุดท้ายต่อให้รักกันแค่ไหน ก็ต้องตัดใจและยอมรับความเป็นจริง เช่นเดียวกับความรักของรอสส์กับตัวละคร Emily หญิงสาวชาวอังกฤษที่ทั้งคู่รักกันถึงขั้นเข้าพิธีแต่งงาน แต่สุดท้ายความสัมพันธ์นี้ก็ไปไม่รอด เพราะเอมิลี่ปรากฏตัวช้าไป ทั้งใจของรอสส์ไม่มีพื้นที่เหลือให้ใครนอกจากเรเชล
WATCH
ภาพจากซิตคอมเรื่อง Friends / ภาพ: IMDb
อีกหนึ่งบทเรียนความรักที่ได้จากซีรี่ส์เรื่อง Friends ก็คือ ‘ความรักคือการยอมรับข้อเสียซึ่งกันและกัน’ เพราะไม่ว่าจะเป็นคู่ของ Monica กับ Chandler ที่ฝ่ายหญิงเจ้าระเบียบตัวแม่ รักความสะอาดจนเกินเหตุ ขี้บ่นจู้จี้จุกจิก ส่วนฝ่ายชายก็ทำตัวไร้แก่นสารอยู่บ่อยครั้ง แต่ทั้งคู่ก็ค่อยๆ เรียนรู้และประคับประคองความสัมพันธ์นี้ไปได้จนตลอดรอดฝั่ง เช่นเดียวกับคู่ของรอสส์กับเรเชล รวมถึง Phoebe และ Mike ที่ทุกคนล้วนมีข้อเสียข้อใหญ่เป็นของตัวเองเช่นกัน แต่ถ้าความรักยิ่งใหญ่กว่า ข้อเสียเหล่านั้นก็จะดูเล็กลงจนสามารถมองข้ามมันไปได้ในที่สุด เรียกได้ว่าการตามหาความรักว่ายากแล้ว แต่การประคับประคองความรักให้ตลอดรอดฝั่งนั้นยากยิ่งกว่า โดยเฉพาะการแต่งงานที่เปรียบเสมือนหมุดหมายครั้งสำคัญของชีวิต เป็นการเปิดประตูสู่บทใหม่ที่ไม่ว่าสำหรับใครก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
เรื่องราวของซีรี่ส์ Friends จะเริ่มต้นขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเรเชลไม่ตัดสินใจทิ้งงานแต่งงานของตัวเอง หนีออกมาทั้งชุดเจ้าสาวเพื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ตามที่ตัวเองต้องการ ซึ่งสุดท้ายทั้งตัวเรเชลและผู้ชมก็คงได้คำตอบเหมือนๆ กันว่านั่นคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง เป็นบทเรียนให้ได้เรียนรู้ว่าถ้ายังไม่มั่นใจกับการแต่งงานจริงๆ ก็อย่าเพิ่งกระโจนลงไป และอย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลง เพราะถ้าไม่กล้าพอก็อาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองอยากใช้อีกแล้ว
ภาพจากซิตคอมเรื่อง Friends / ภาพ: Film Daily
เมื่อพูดถึงบทเรียนเรื่องการแต่งงาน คงเป็นไปไม่ได้ถ้าจะไม่เอ่ยถึงชื่อตัวละครรอสส์เพราะเขาคือชายผู้ผ่านการหย่าร้างมาถึง 3 ครั้ง ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่เหมือนกันคือความเศร้าเสียใจ ความรู้สึกหมดหวังที่ตามมา โดยในเรื่องประเด็นนี้จะสะท้อนออกมาอย่างชัดเจนมากๆ ผู้ชมสามารถรับรู้ได้ว่ารอสส์รู้สึกผิดหวังกับชะตาชีวิตของตัวเองสุดๆ แต่ถ้าพิจารณาอย่างละเอียดก็จะพบว่าทุกครั้งหลังจากที่มีการหย่าร้าง รอสส์จะได้พบกับความสัมพันธ์ใหม่ๆ เสมอ เป็นการพิสูจน์ว่าการหย่าร้างแต่ละครั้งเกิดขึ้นเพราะความสัมพันธ์ดังกล่าวมันยังไม่ใช่ ดังนั้นการหย่าร้างจึงไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นต่างหาก สุดท้ายรอสส์ก็ได้เจอกับความสัมพันธ์ที่ลงตัวและมีความสุขกับมันอย่างเต็มที่
ภาพจากซิตคอมเรื่อง Friends / ภาพ: Cheatsheet
ขอจบบทความนี้ด้วยเรื่องราวของแชนด์เลอร์กับโมนิก้า ที่นอกจากจะเป็นหนึ่งในคู่รักที่ผู้ชมชื่นชอบที่สุดในประวัติศาสตร์ซีรี่ส์อเมริกันแล้ว ทั้งคู่ยังให้บทเรียนเรื่องการแต่งงานได้ดีอีกด้วย โดยทุกคนคงทราบดีว่าทั้งคู่คือขั้วตรงข้ามที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะครั้งหนึ่งพวกเขาเคยทะเลาะกันอย่างรุนแรงว่าจะใช้ห้องในบ้านที่เหลือเป็นห้องอะไรดี แชนด์เลอร์ต้องการให้มันเป็นห้องเล่นเกม ส่วนโมนิก้าอยากให้มันเป็นห้องนอนสำหรับแขก แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ปรับความเข้าใจกันได้ด้วยการประนีประนอม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ชีวิตคู่ต้องมี และที่ทำให้ทั้งคู่เข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี อาจจะเป็นเพราะพวกเขาเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนก็เป็นได้
จากเรื่องราวความรักของแต่ละตัวละครที่เกิดขึ้นในซิตคอมเรื่อง Friends ก็เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่านอกจากความสนุกที่มอบให้กับผู้ชมได้อย่างครบรสทุกแขนง เรื่องราวเกี่ยวกับการให้บทเรียนความรักในแง่ต่างๆ ก็นำมาปรับใช้ในยุคประจำวันได้อย่างแท้จริง
ข้อมูล : Netflix
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim
WATCH