LIFESTYLE

รู้จักกับ 'Coffee Badging' แนวคิดที่ช่วยเปลี่ยนเช้าวันจันทร์อันน่าเบื่อให้มีสีสันมากขึ้น!

หากใครมีอาการ "เกลียดวันจันทร์" ไม่ควรพลาดบทความนี้

     เชื่อว่าหลายๆ คนที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงานหรือกำลังดำเนินชีวิตบนเส้นทางของการเป็นมนุษย์วัยทำงานแบบเต็มตัว มักเคยพบเจอกับห้วงอารมณ์ที่ชวนหดหู่ เศร้าหมอง และเมื่อยล้าของ “เช้าวันจันทร์” กันอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะวันจันทร์ที่มาหลังช่วงวันหยุดเทศกาลหรือวันหยุดยาว จนทำให้หลายๆ ครั้งการทำงานไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ทว่าความเศร้าหมองในเช้าวันจันทร์นั้นไม่ได้เป็นเพียงห้วงอารมณ์ที่เราคิดไปเองเท่านั้น แต่ยังคงมีทฤษฎีที่ตั้งชื่อเรียกอาการเหล่านี้ว่า “Monday Blues” หรือ “อาการเกลียดวันจันทร์” โดยหลายคนมักมีอาการเบื่อหน่าย เศร้าหมอง ท้อแท้กับการมาทำงานในเช้าวันจันทร์ จนส่งผลกระทบต่อการทำงานในวันนั้นๆ ซึ่งอาการเหล่านี้ยังคงมีงานวิจัยเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยโดย Kuper และ Dewe ในปี 2001 ที่ทำวิจัยร่วมกับพนักงานออฟฟิศ จนทราบผลว่าหนึ่งในปัจจัยของ Monday Blues คือเรื่องของภาระงานต่างๆ ที่รอให้กลับมาจัดการ 

 

ภาพจาก Magnet.me บน Unsplash

     หรือจะเป็นงานวิจัยของ Monk et al. เรื่อง The Impact of Weekend Sleep Patterns on Monday Mood, Work Performance, and Health ที่ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของกลุ่มนักศึกษา พบว่าในช่วงวันหยุดหลายคนมักนอนตื่นสายและนอนหลับน้อยลง ส่งผลทำให้อารมณ์มีความแปรปรวนมากกว่าปกติ มีความเหนื่อยล้าที่เพิ่มขึ้น จนทำให้สมาธิในการทำงานเช้าวันจันทร์นั้นลดลง ซึ่งงานวิจัยเหล่านี้ยังมาพร้อมกับทฤษฎีทางจิตวิทยาอื่นๆ รวมถึงปัญหาสุขภาพเช่นกัน

     แต่ปัญหาเหล่านี้กำลังถูกแก้ไขด้วยเทรนด์การทำงานแบบใหม่ที่เริ่มได้รับความนิยมในช่วงปีที่ผ่านมา และเพิ่มสูงมากขึ้นในช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมานี้กับเทรนด์ “Coffee Badging” แนวคิดที่ช่วยเปลี่ยนอาการ Monday Blues ให้กลายมาเป็นความสดใสรับการทำงานเช้าวันจันทร์แทน โดยแนวคิดหรือเทรนด์ดังกล่าวนั้นไม่ได้ปรากฏที่มาอย่างชัดเจน แต่เป็นแนวคิดที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้คนในช่วงวัยทำงานมีความกระตือรือร้น และรู้สึกสดใสมากขึ้น

 

ภาพจาก Brooke Cagle บน Unsplash

     “Coffee Badging” เป็นคำศัพท์จำกัดความที่มีคำนิยามง่ายๆ เพียงแค่ “มาทำงาน-จิบกาแฟ-พูดคุย-กลับบ้าน” แน่นอนว่ากิจกรรมเหล่านี้อาจดูไม่ได้เป็นการทำงาน ทว่ามันคือการรีเซ็ตอารมณ์ของเช้าวันจันทร์ให้มีความสดใสและลบภาพจำของเช้าวันจันทร์ที่ต้องวิ่งทำงานแบบหัวหมุนออกไปได้อย่างชัดเจน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้ก็ได้มีผลสำรวจของตัวอย่างพฤติกรรม โดยอ้างอิงจากผลสำรวจของบริษัท Owl Labs บริษัทที่ผลิตอุปกรณ์สำหรับการประชุมออนไลน์ พบว่าพนักงานกว่า 58% ที่ทำงานแบบไฮบริด ต่างเดินทางเข้ามาที่ออฟฟิศในช่วงเช้าเพื่อจิบกาแฟ พูดคุยกับทีม และกลับบ้านช่วงบ่ายไปทำงานที่เหลือของวันต่อ 

     หรือจะเป็นพฤติกรรมที่ Yannique Ivey ที่ปรึกษาของบริษัทเทคโนโลยีที่เธอก็ได้เผยว่า ส่วนใหญ่เธอมักจะเข้าออฟฟิศเพียงเดือนละ 2 - 3 ครั้ง แต่ทุกครั้งที่เธอเองต้องเข้ามาที่ออฟฟิศมันมักเป็นการมาเพื่อพบปะและพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมเสียมากกว่า โดยยานนีคจะเข้ามาออฟฟิศช่วงสายๆ ราว 11.00 จากนั้นก็จะดื่มกาแฟ พร้อมพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนร่วมทีม และราวๆ 15.00 เธอก็จะออกจากออฟฟิศเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงรถติด และกลับไปทำงานต่อที่บ้าน ซึ่งทั้ง 2 ตัวอย่างนี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของพนักงานเท่านั้น เพราะปัจจุบันเทรนด์ดังกล่าวต่างก็เป็นที่นิยมประเทศสหรัฐอเมริกามากขึ้น

 



WATCH




ภาพจาก Priscilla Du Preez บน Unsplash

     โดยข้อดีของ Coffee Badging นั้นมีอยู่อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในทีมที่เพิ่มสูงขึ้นจากการพบปะพูดคุย หรือจะเป็นโอกาสในการระดมไอเดีย ซึ่งได้จากบรรยากาศที่ไม่กดดันและเป็นกันเอง ตลอดจนการช่วยรักษาสมดุลของชีวิตและการทำงาน (Work Life Balance) ได้ดีมากขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก็ส่งผลต่อเรื่องของสภาวะทางอารมณ์และสุขภาพจิตของพนักงานในองค์กรที่ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

เรื่อง : Worramate Khamngeon
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim

WATCH

TAGS : CoffeeBadging