LIFESTYLE
มีมเป็นเหตุ! Chloë Grace Moretz ต้องทรมานกับการถูกวิจารณ์จนเป็นโรคเก็บตัวความสนุกของใครบางคน กลับสร้างปมในใจของใครอีกคนไปตลอดกาล |
คำพูดเป็นได้ทั้งกำลังใจที่ดีและเป็นได้ทั้งอาวุธร้ายทำลายคนคนหนึ่ง เธอคนนี้เองก็เป็นเหยื่อของคำพูดสนุกปากจากคนภายนอก และมันส่งผลกระทบให้เธอสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง เก็บตัว และเป็นโรคเกลียดตัวเองไปช่วงหนึ่งของชีวิต Chloë Grace Moretz คือนักแสดงสาววัย 25 ปี ผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง (500) Days of Summer, Kick-Ass, Hugo, Carrie และ The 5th Wave ในช่วงชีวิตที่ขาขึ้นที่สุด ทั้งการงานโด่งดังเป็นที่พูดถึง และความรักผลิบานสดใสกับแฟนหนุ่มในตอนนั้น Brooklyn Beckham สายตาคนนับล้านทั่วโลกก็จับจ้องมาที่เธอคนนี้อย่างเสียไม่ได้ หากแล้ววันปกติทั่วไปของเธอกลับทำให้ชีวิตของโคลอี้เปลี่ยนไปตลอดกาล
ภาพ: CNN
ปี 2016 บ่ายวันหนึ่งปาปารัสซี่จับภาพของเธอขณะเดินถือกล่องพิซซ่าเข้าไปในโรงแรม ซึ่งมันก็ดูไม่ได้มีอะไรผิดปกติแต่อย่างใด แต่ชาวโซเชียลกลับมือดีหยิบภาพของเธอไปทำ “มีม” ล้อเลียนคาแร็กเตอร์หนึ่งในการ์ตูน Family Guy ที่ชื่อว่า Legs Go All the Way Up Griffin คือเป็นตัวการ์ตูนผู้หญิงผมบลอนด์ที่ขายาวขึ้นมาถึงหน้าอกและไม่มีช่วงตัว โดยวันนั้นโคลอี้สวมเสื้อยืดสีน้ำเงินและกางเกงขาสั้นโชว์เรียวขายาวๆ พร้อมด้วยรองเท้าส้นสูง หลายคนจึงพูดว่ามีความคล้ายคลึงกับตัวละครนี้ และมีมที่ถูกทำขึ้นก็แพร่ไปอย่างรวดเร็วราวกับเชื้อหวัด ทุกคนเปิดภาพดูกันอย่างสนุกสนาน และล้อเล่นกันอย่างสนุกปาก โดยที่ไม่รู้เลยว่าพฤติกรรมเหล่านี้สร้างบาดแผลให้กับคนที่ถูกพาดพิงถึงขนาดไหน
ภาพ: Pinterest
ไม่นานมานี้โคลอี้เปิดอกพูดถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรกกับ Hunger Magazine ว่า “จริงๆ ฉันไม่เคยพูดเรื่องนี้ที่ไหนเลย แต่มันมีมีมอันหนึ่งที่ส่งผลกับตัวฉันมาก มันคือรูปที่ฉันกำลังเดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมกล่องพิซซ่า และรูปนั้นก็ถูกนำไปทำเป็นคาแร็กเตอร์ในแฟมิลี่กาย ที่มีขายาวๆ และตัวสั้นๆ และมันเป็นมีมที่โด่งดังมากๆ ในตอนนั้น ทุกคนล้อเลียนร่างกายของฉัน มีครั้งหนึ่งฉันเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกับคนคนหนึ่ง แล้วเขาดันตอบว่า ‘โอ้ย หุบปากน่า นี่มันตลกจะตายไป’ และฉันจำได้ว่าฉันนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วก็คิดว่า ร่างกายของฉันถูกเอามาทำเป็นมุกตลก และมันเป็นอะไรที่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ จนทุกวันนี้ทุกครั้งที่ได้เห็นมีมนี้ มันยังเป็นอะไรที่ยากสำหรับฉันในการเอาชนะมันได้เลย”
WATCH
ภาพ: Time
โคลอี้เล่าด้วยความตันใจ พร้อมเสริมด้วยว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เธอประสบกับโรค Body Dysmorphia หรือโรคที่เรียกว่าไม่ชอบรูปร่างของตัวเองไปเลย และแม้เธอจะรู้ว่าเราทุกคนบนโลกหลายคนก็ประสบกับเหตุการณ์เหล่านี้เช่นกัน เพราะมันถูกยุยงส่งเสริมโดยโซเชียลมีเดีย แต่ก็ต้องใช้เวลาในการเยียวยาจิตใจไม่น้อย ซึ่งสำหรับโคลอี้เองมันทำให้เธอกลายเป็นคนปลีกตัวจากคนอื่น และกลายเป็นคนสันโดษไปโดยปริยาย “ฉันกลายเป็นคนสันโดษไปเลย มันก็ดีนะเพราะฉันได้หลุดออกจากโลกปาปารัสซี่ และฉันได้โอกาสเป็นตัวเองเต็มที่ และไม่ต้องโดนถ่ายรูปอีก แต่ในขณะเดียวกันมันก็สร้างความวิตกให้ฉัน เพราะเมื่อไหร่ที่ฉันโดนถ่ายรูป หัวใจฉันจะเต้นเร็วมาก และหายใจเกิน”
เธอทิ้งท้ายไว้ว่า “ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง และฉันก็รู้สึกว่าฉันไม่ใช่เด็กสาวคนเดิมอีกแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นผู้ใหญ่แล้วล่ะ” แม้โคลอี้จะสามารถเยียวยาจิตใจได้บ้าง แต่เราเชื่อว่ามันยังคงเป็นปมในใจของเธอจนถึงทุกวันนี้ ปมที่เธอไม่ได้เป็นคนผูก แต่กลับต้องมานั่งแก้ด้วยมือของตัวเอง ยังมีคนอีกมากที่ประสบกับการถูกรังแกหรือถูกล้อเลียน เพียงแค่เพราะเราแตกต่างกัน ลองหยุดมองแล้วพิจารณาให้ดีเราทุกคนเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจเหมือนกัน แต่ในขณะเดียวกันเราก็แตกต่างกัน ไม่มีใครเกิดมาน่าเกลียดหรอก เราแค่เกิดมาบนโลกที่มีแต่การตัดสินกันก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีกหลายคน เราควรหยุด เปิดใจให้กว้าง และมองดูว่าสิ่งที่แตกต่างทำให้เราสวยงามในแบบของแต่ละคน
ข้อมูล : Hunger Magazine
WATCH