Charles หรือ Charlie Chaplin คือสุดยอดตำนานตลกดาวค้างฟ้าที่คนทุกรุ่นอายุรู้จักมักคุ้นกับคาแรกเตอร์อันมีเอกลักษณ์เป็นอย่างดี แม้เขาจะเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1977 ด้วยวัย 88 ปี แต่ทุกคนยังคงจดจำเรื่องราวและช่วงเวลาแห่งความสุขที่เขามอบให้กับโลกนี้ได้ไม่เปลี่ยนแปลง วันนี้ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ‘The Real Charlie Chaplin’ กำลังชุบชีวิตชาร์ลีให้หวนกลับมาอยู่ในความทรงจำหลายคนอย่างชัดเจนมากขึ้น และแสดงให้เห็นชีวิตที่แท้จริงของดาวตลกคนนี้ว่าเขามีเบื้องหลังชีวิตเป็นอย่างไร

ภาพ: Stacker

     จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือผู้กำกับ Peter Middleton และ James Spinney เสาะหาฟุตเทจจำนวนมหาศาลและครบถ้วนที่สุดในแบบที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นฟุตเทจการเล่นตลก แสดงภาพยนตร์ หรือแม้แต่บทสัมภาษณ์เมื่อครั้งอดีต ดังนั้นเรื่องราวจึงไม่ได้ออกมาเป็นการรวมผลงานพร้อมเล่าเรื่องชีวิตหน้าฉากของชาร์ลีเท่านั้น แต่หมายถึงการนำเสนอแง่มุมชีวิตจริงของชาร์ลีแบบจริงจังมากขึ้น และตรงจุดนี้เองก็เป็นจุดเด่นที่ทำให้ภาพยนตร์ความยาว 1 ชั่วโมง 53 นาทีได้บอกเล่าเรื่อง “ชาร์ลี 2 ร่าง” ซึ่งหมายถึงตัวตนหน้าฉากและหลังฉากที่น้อยคนจะเคยสัมผัสการเทียบความแตกต่างแบบนี้ในสื่อหลัก

 

     ความโดดเด่นของการใช้ฟุตเทจต่างๆ ที่แทบไม่มีใครเคยเห็นหรือได้ยินมาก่อนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูน่าตื่นเต้นขึ้นมาทันใด เพราะผู้ชมจะได้เห็นแง่มุมความทุกข์ระทมเบื้องหลังของดาวตลกคนนี้ ความทุกข์ที่แตกต่างจากสีหน้าท่าทางเวลาอยู่หน้าฉากอย่างสิ้นเชิง เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนที่ตลกที่สุดอาจเป็นคนที่เก็บซ่อนความเจ็บปวดไว้มากที่สุดเช่นกัน เป็นโอกาสดีที่ผู้ชมทั่วโลกจะได้เห็นว่าแท้จริงแล้วสุดยอดดาวตลกอาจเป็นเพียงบุคคลซึมเศร้าที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนด้วยคาแรกเตอร์ในการทำงานเท่านั้น

ภาพ: SHOWTIME

     ถึงแม้จะได้เห็นการนำเสนอที่แปลกใหม่และบอกเล่าเรื่องราวของชาร์ลีในอีกมุมมองหนึ่ง แต่นักวิจารณ์หลายสำนักก็เห็นตรงกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไปไม่สุด เพราะการมีฟุตเทจเยอะก็อาจทำให้ทีมงานเน้นย้ำการใช้มันอย่างสิ้นเปลืองเกินไปบ้าง อีกทั้งเรื่องราวบางอย่างกลับดูไม่ค่อยมีน้ำหนัก กลายเป็นเรื่องเล่าที่มีความผิวเผิน และยังมีอีกหลายองค์ประกอบที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าไม่ได้ดำดิ่งไปในชีวิตของชาร์ลีอย่างแท้จริง เพียงแค่รับทราบมุมมองหนึ่งของชีวิตเขาเพิ่มเติมมากกว่า แต่ยังดีที่บางส่วนในเรื่องนี้ยังมีมุมที่คว้านลึกไปถึงเบื้องหลังชีวิตของเขาได้จริงๆ บ้าง ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จึงได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นสารคดีที่เล่าเรื่องได้ทั้งเจาะลึกและผิวเผินในเวลาเดียวกัน

 

     นอกจากความผิวเผินแล้วยังมีบางส่วนที่ทีมงานเลือกไม่แตะต้องเท่าไรนัก หลายช่วงเวลาของชีวิตชาร์ลีอาจถูกละเลยไปในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมบันเทิงก็มีความเห็นว่าบางส่วนที่ข้ามไปก็เป็นส่วนที่สำคัญต่อชีวิตชาร์ลีไม่น้อย แต่ก็ชื่นชมเช่นกันว่าทีมงานเลือกใช้รูปแบบการสัมภาษณ์ในมุมที่ไม่มีใครเคยสัมผัสมาก่อน ซึ่งทำออกมาได้ค่อนข้างดี จากคำวิจารณ์หลากหลายรูปแบบนี้เราก็ยังไม่อยากให้ทุกคนตัดสินว่า ‘The Real Charlie Chaplin’ จะออกมาดีหรือไม่ เพราะสุดท้ายแก่นของการสร้างภาพยนตร์ แม้จะเป็นเชิงสารคดีก็คือการสร้างความสุขให้กับผู้ชม ดังนั้นการเลือกนำเสนอและคัดแยกเรื่องราวชีวิตของชาร์ลีอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ผู้กำกับคิดไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว ใครสนใจภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้รอติดตามกันต่อไปว่าจะเข้าฉายในไทยผ่านช่องทางไหนบ้าง เพราะนี่เป็นเพียงเสียงตอบรับเมื่อครั้งฉายรอบปฐมทัศน์ ณ เทศกาลหนังเมืองเตลลูไรด์เท่านั้น ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้

 

ข้อมูล:

hollywoodreporter.com

indiewire.com