ก่อนถูกโค่นแชมป์โดย Squid Game ตำแหน่งซีรี่ส์ยอดวิวสูงสุดตลอดกาลของ Netflix ตกเป็นของ Bridgerton ด้วยจำนวนผู้ชมสูงถึง 82 ล้านครัวเรือนในเดือนแรกของการฉาย และครองอันดับ 1 มากกว่า 76 ประเทศ จึงไม่แปลกใจที่ซีรี่ส์จะได้รับการอนุมัติให้สร้างซีซั่นถัดมาทันที แถมประกาศสร้างล่วงหน้าไปถึงซีซั่น 3 และ 4 ก่อนฤดูกาลใหม่จะออกฉายเสียด้วยซ้ำ เป็นการการันตีว่าแฟนละครจะได้ดูกันยาวๆ แน่นอน

Phoebe Dynevor และ Jonathan Balley

     เช่นเดียวกับหนังสือต้นฉบับของ Julia Quinn เรื่องราวความรักของพี่น้องตระกูลบริดเจอร์ตันในยุครีเจนซีของอังกฤษจะสลับสมาชิกของตระกูลเพื่อผลัดกันเป็นตัวเอกในแต่ละภาค หลังจากภาคแรกเล่าเรื่องราวของดาฟนีที่รักกับท่านดุ๊ก ในภาค 2 นี้ตัวละครหลักจะสลับเป็นแอนโทนี พี่ชายคนโตและหัวหน้าครอบครัวโดย Jonathan Bailey กลับมาสานต่อบทเดิม รอบนี้เขาต้องตามหาสตรีเพื่อมาเป็นภรรยา โจนาทานกล่าวถึงตัวละครในซีซั่นนี้ว่าต้องรับมือกับเรื่องราวต่างๆ เยอะมากซึ่งเขายังไม่เคยเผชิญมาก่อน ในขณะเดียวกันตัวละครตัวนี้ก็ชอบการควบคุม เราจะได้เห็นความซับซ้อนขึ้นไปอีกขั้น

Simone Ashley

     สำหรับสมาชิกใหม่ของ Bridgerton ที่จะมาคว้าหัวใจของพี่ใหญ่ตระกูลดังคือ Simone Ashley นักแสดงสาวลูกครึ่งอังกฤษ-อินเดีย เคยแจ้งเกิดจากละครสยิวเรื่อง Sex Education “ทั้งพลอตและงานสร้างยอดเยี่ยมมาก แต่สิ่งที่ประทับใจฉันคือทีมนักแสดงและทีมงานที่น่ารักติดดินกันทุกคน” ซิโมนบอก เธอเล่าว่ารู้สึกกังวลพอรู้ว่าต้องเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในซีรี่ส์ที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว และทุกคนสนิทสนมกันมาก่อน “มันเหมือนเข้าไปในโรงอาหารที่โรงเรียนเลย แบบว่าฉันจะนั่งตรงไหนดีเนี่ย ยังไม่รู้จักใครเลยแต่ปรากฏว่าได้รับการต้อนรับดีมากๆ”

     Bridgerton ซีซั่นใหม่ยึดโครงเรื่องจากหนังสือเล่มที่ 2 คือ The Viscount Who Loved Me เพื่อรักษาชื่อเสียงของตระกูล แอนโทนีต้องคัดสรรหาภรรยาที่เหมาะสม จนกระทั่งได้พบเคต หญิงสาวที่เดินทางมาจากอินเดีย ซิโมนพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตัวละครนี้ว่า “เราจะเห็นพวกเขาทะเลาะกัน เถียงกันเยอะมากต่างท้าทายกันและกัน”