LIFESTYLE
ชวนอ่าน 3 นิยาย LGBTQ+ ที่ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์และซีรี่ส์จนครองใจทุกคนชวนอ่านนิยาย LGBTQ+ ที่ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์และซีรี่ส์ จนได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามทั้งบท ตัวละคร และนักแสดง |
หลายปีที่ผ่านมานี้ทีมผู้จัดหรือผู้กำกับภาพยนตร์และซีรี่ส์หลายคนต่างก็ได้หยิบเอานิยายชื่อดังมาพลิกโฉมเข้าสู่หน้าจอจนสร้างปรากฏการณ์และสร้างความชื่นชอบให้กับผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยมกับผลงานที่มีคุณภาพทั้งบท ตัวละคร และนักแสดงที่มาถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ให้ได้รับชม ดังนั้นบทความนี้โว้กขอพาอ่านนิยาย LGBTQ+ ที่ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์หรือซีรี่ส์จนทำให้คุณได้หลงใหลและชื่นชอบ
1.Call me by your name
ภาพยนตร์ชื่อดังที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลกและเข้าชิงรางวัลมากมายจนขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ในดวงใจของใครหลายคนจากการดัดแปลงนิยายโรแมนติกของ André Aciman สู่ภาพยนตร์โดย Luca Guadagnino กับเรื่องราวความรักอันบริสุทธิ์และซับซ้อนที่เกิดขึ้นในฤดูร้อนปี 1983 ทางตอนเหนือของอิตาลีเมื่อโอลิเวอร์ (แสดงโดย Armie Hammer) นักศึกษาหนุ่มชาวอเมริกันวัย 24 ปีได้ปรากฏตัวมาช่วยงานวิจัยของพ่อเอลิโอเด็กหนุ่มเชื้อสายอิตาลีวัย 17 ปี (แสดงโดย Timothee Chalamet) หากมองเผินๆ Call me by your name คือภาพยนตร์ที่พูดเรื่อง Coming of age ตามสไตล์หนังวัยรุ่นทั่วไปที่ทำให้เราได้ข้อคิดที่ควรค่าแก่การดูและการอ่าน ซึ่งอรรถรสทั้งสองรูปแบบนั้นก็ถูกนำมาถ่ายทอดได้อย่างดีเยี่ยม
WATCH
หนังสือ CALL ME BY YOUR NAME (ราคา 450 บาท)
ซื้อได้ที่ : Kinokuniya , B2S
2. Red, White & Royal Blue
อีกหนึ่งเรื่องราวความรักที่ใครหลายคนต่างหลงรักสำหรับ Red, White & Royal Blue ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายสุดโรแมนติกชื่อเดียวกันของ Casey McQuiston เล่าเรื่องความรักเกี่ยวกับ LGBTQ+ ที่กล้าหาญและท้าทายของ Prince Henry Fox-Mountchristen-Windsor (แสดงโดย Nicholas Galitzine) เจ้าชายลำดับที่สามแห่งอังกฤษ และ Alex Claremont-Diaz (แสดงโดย Taylor Zakhar Perez) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเเรื่องยากที่ทั้งคู่นั้นจะเปิดเผยความสัมพันธ์และตัวตนที่แท้จริง เนื่องจากทั้งคู่ต่างเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นคนชั้นสูง โดยตัวละครและนักแสดงต่างถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้มีเสน่ห์ แฝงไปด้วยความอบอุ่น ความน่ารักของเนื้อเรื่อง ทำให้ผู้ชมหลายคนต่างหลงรักทั้งนักแสดงและภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตามใครอยากจะซึมซับความรักของทั้งคู่ให้มากยิ่งขึ้นขอแนะนำให้อ่านนิยายเพราะภาพยนตร์นั้นไม่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของทั้งคู่ได้หมดนั่นเอง
หนังสือ Red, White & Royal Blue (ราคา 390 บาท)
ซื้อได้ที่ : Kinokuniya , B2S , SE-ED
3. Heartstopper
ปิดท้ายด้วยซีรี่ส์ LGBTQ+ เรื่อง Heartstopper สุดน่ารักและอบอุ่นหัวใจที่ได้รับการดัดแปลงมาจากกราฟิกโนเวลแนวความรักวัยทีน Coming of age ของ Alice Oseman กับการเล่าเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นในโรงเรียนชายล้วนระหว่าง Charlie Spring ( แสดงโดย Joe Locke) หนุ่มเนิร์ดผู้สันโดษที่โดนเพื่อนกลั่นแกล้งเพราะเขาได้เปิดตัวว่าเป็นเกย์ และ Nick Nelson (แสดงโดย Kit Connor) นักรักบี้ดาวเด่นของโรงเรียน ซึ่งทั้งคู่ได้ตกหลุมรักกันหลังจากที่นั่งข้างกันในชั้นเรียน แต่ความสัมพันธ์ของชาร์ลีกับนิกก็ไม่สามารถพัฒนาไปเกินเพื่อนได้ เพราะชาร์ลีรู้ดีว่านิกชอบผู้หญิง ส่วนนิกที่เคยคิดว่าตัวเองชอบผู้หญิงมาตลอดชีวิตก็เริ่มหวั่นไหวกับชาร์ลีโดยไม่รู้ตัว และเมื่อนิกได้คลายความสับสนและชาร์ลีได้เปิดเผยความรู้สึกที่มีกับนิกทำให้เรื่องราวดำเนินต่อไปด้วยความน่ารักที่ได้รับกระแสตอบรับจากคอซีรี่ส์อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวซีซั่นแรกและตั้งตารอคอยซีซั่น 3 อย่างใจจดจ่อในการชมความน่ารักของตัวละครและเรื่องราว ซึ่งในส่วนของหนังสือนั้น Heartstopper มีทั้งสิ้น 5 เล่ม สำหรับใครที่ตกหลุมรักความน่ารักและเสน่ห์ของตัวละครเข้าแล้วต้องไม่พลาดอ่านนิยายกราฟิกโนเวลเลยทีเดียว
WATCH