ิbillie-eilish
LIFESTYLE

Billie Eilish กับบทบาทการเคลื่อนไหวทางสังคมที่ทำเธอกลายเป็นศิลปินขวัญใจหนุ่มสาวยุคใหม่

เธอไม่ได้เป็นแค่ศิลปิน แต่เธอกลายเป็นตัวแทน และกระบอกเสียงให้กับคนรุ่นใหม่อีกด้วย

       นับตั้งแต่ปี 2015 ที่เด็กสาวจากลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียอย่าง Billie Eilish ซึ่งในตอนนั้นอายุเพียง 14 ปี ได้อัปโหลดเพลง “Ocean Eyes” ลงบนช่อง Sound Cloud ของเธอเองโดยไม่คาดคิดว่ามันจะทำให้ชีวิตของเธอได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เพลงของเธอดังเป็นพลุแตกกลายเป็นปรากฏการณ์แห่งโลกดนตรี ประทับตราการันตีด้วยยอดวิวรวมบนยูทูบหลายพันล้านวิว อีกทั้งยังได้ขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Coachella และได้รับเกียรติให้เป็นผู้สร้างสรรค์บทเพลงประกอบภาพยนตร์เเฟรนไชส์สายลับ 007 ทั้งๆ ที่อายุยังไม่ครบ 20 ปี

       อย่างไรก็ตามนอกจากบทเพลงของเธอแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอกลายเป็นมากกว่าศิลปิน แต่เป็นตัวแทน กระบอกเสียง และขวัญใจหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ซึ่งโว้ก ประเทศไทยจะหยิบยกมากล่าวถึงในบทความนี้

ิbillie-eilish

ภาพ: Teen Vogue

 

       หนึ่งในเรื่องที่ผู้คนพูดถึงเกี่ยวกับบิลลี ไอลิชมากที่สุดคือเรื่องอายุที่ดูน้อยจนน่าทึ่งเมื่อเทียบกับผลงานที่เธอสร้างสรรค์ออกมา และเมื่อนำประเด็นนี้มาผูกเข้ากับความเป็นไปทางสังคม ก็พอที่จะทำให้เห็นภาพอะไรบางอย่างชัดเจนขึ้น โดยจากรายงานของ Statista ระบุว่าในปัจจุบันกลุ่มคนที่มีช่วงอายุระหว่าง 18-34 ปี นั้นคิดเป็น 50% หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก ยังไม่นับรวมกับกลุ่มที่อายุน้อยกว่า 18 ปี ซึ่งทาง Statista ไม่ได้เก็บสถิติมา ดังนั้นจึงอาจสรุปได้ว่าจากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วทั้งโลกนั้น มีมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ถือเป็น กลุ่มคนรุ่นใหม่

       เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่จะรู้สึกเชื่อมโยงกับคนที่อายุไล่เลี่ยกับตัวเองมากกว่าคนที่มาจากอีกเจนเนอเรชั่น เช่นการที่เรามักจะสนิทกับพี่น้องรุ่นราวคราวเดียวกันมากกว่าพ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ นั่นก็เพราะเราผ่านสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกัน เสพสื่อแบบเดียวกัน เป็นความสัมพันธ์แบบเปิดทุกมิติ ไม่ใช่ความสัมพันธ์เชิง ผู้ปกครองที่เรามีต่อคนอายุมากกว่า ดังนั้นด้วยอายุของบิลลีทำให้นอกจากการเป็นศิลปินสร้างสรรค์เพลงแล้ว เธอยังเปรียบเสมือนหนึ่งในผู้นำด้านความคิด แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ทรงอิทธิพลและมีบทบาทมากที่สุดในโลกอินเทอร์เน็ต 

ิbillie-eilish

ภาพ: YourEDM

 

       นับตั้งแต่บิลลี ไอลิชเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา นอกจากบทบาทการเป็นศิลปินนักร้องแล้ว เธอยังเป็นกระบอกเสียงสำคัญในเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิต่างๆ ในสังคม หนึ่งในนั้นคือเรื่อง Sexual Harassment ซึ่งบิลลีกังวลกับรูปร่างของตัวเอง ทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอจะปรากฏตัวในเสื้อผ้าโอเวอร์ไซซ์อยู่เสมอ ก่อนที่เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2020 เธอจะอัปโหลดวิดีโอชื่อว่า 'NOT MY RESPONSIBILITY' ลงในช่องยูทูบส่วนตัว เพื่อถ่ายทอดมุมมองความคิดของเธอต่อการคุกคามทางเพศ

       ปัจจุบันวิดีโอดังกล่าวมียอดเข้าชมถึง 30 ล้านวิว ถือเป็นหนึ่งในวิดีโอเกี่ยวกับการรณรงค์เพื่อสิทธิเพศหญิงที่เข้าถึงผู้คนได้มากที่สุด บิลลี ไอลิชประสบความสำเร็จอย่างงดงามในความพยายามครั้งนี้ และในปัจจุบันเธอก็เปลี่ยนมาสวมใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยร่างกายมากขึ้น เพื่อสนับสนุนแคมเปญ My body, my choice ที่กำลังเป็นระลอกคลื่นลูกสำคัญของสิทธิสตรีทั่วโลก 



WATCH




ิbillie-eilish

ภาพ: Vogue Australia

 

       นอกจากประเด็นสิทธิด้านเพศแล้ว จากเหตุการณ์การของ George Floyd ชาวผิวดำที่ถูกนายตำรวจผิวขาวกดต้นคอจนเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระแส Black Lives Matter ที่เรียกร้องสิทธิของคนผิวดำ และไวรัลไปทั่วโลก ทำให้ได้รู้ว่าบิลลีก็เป็นศิลปินอีกคนที่สนับสนุนเรื่องสิทธิความเท่าเทียมอย่างตรงไปตรงมา

       จากประเด็นดังกล่าว บิลลีก็ได้โพสต์ข้อความส่วนหนึ่งลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอว่า ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ สังคมให้คุณค่าคุณในฐานะคนผิวขาว คุณอาจจะยากจน ชีวิตลำบาก แต่สีผิวคุณก็ได้อภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่น มันคือสิทธิในการใช้ชีวิตอย่างไร้ความกังวล อภิสิทธิ์ที่ได้มันเป็นเพราะสีผิว ถ้า “All Lives Matter” แล้วทำไมคนดำยังถูกฆ่าเพราะสีผิว ทำไมคนอพยพถึงยังถูกเล่นงาน แต่พอคนผิวขาวถือปืนกลออกมาประท้วงทั้งที่ควรกักตัวอยู่บ้าน แล้วไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ส่วนคนดำออกมาประท้วงเรื่องการฆาตกรรม ดันโดนประนามว่าเป็นโจร เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะคนขาวได้รับอภิสิทธิ์ที่เหนือกว่า” และ แล้วการเป็นคนผิวขาวมันไปส่งผลกระทบอะไรกับคนเชื้อสายฮิสแปนิก คนเชื้อสายพื้นเมือง คนเอเชียหรือเปล่า มันส่งผลร้อยเปอร์เซนต์ แต่เวลานี้เรากำลังเจอปัญหาการกดขี่คนผิวสีที่มีมานานกว่า 100 ปี ฉันอยากบอกว่าสโลแกน Black Lives Matter ไม่ได้หมายความว่าชีวิตคนผิวสีอื่นๆ ไม่สำคัญ แต่มีขึ้นเพื่อให้คนตระหนักว่า ตอนนี้สังคมไม่ได้ให้ค่าอะไรคนผิวสีเลย ทั้งที่พวกเขาสำคัญเท่ากับทุกผิวสี” ซึ่งนอกจากการเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดียแล้ว บิลลียังออกไปเดินขบวนประท้วงร่วมกับคนอื่นๆ ด้วย

ิbillie-eilish

ภาพ: BBC

       ใจความสำคัญของเรื่องราวนี้คือไม่ว่าจะยุคไหน สมัยใด การเป็นศิลปินนั้นไม่เคยแยกขาดจากเรื่องของสังคมหรือการเมือง เพียงแต่ในยุคสมัยนี้ช่องทางในการแสดงออกมันง่ายกว่าเดิมมาก การที่บิลลีแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ คงมีคนกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกไม่ชอบใจนัก แต่ในทางกลับกันแฟนคลับที่มีความคิดเดียวกับเธอก็จะยิ่งรักเธอขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าบิลลี ไอลิชไม่ได้เป็นเพียงศิลปินอีกต่อไป แต่เธอคือตัวแทนและกระบอกเสียงของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ซึ่งหากเธอยังคงส่งเสียงเรียกร้องความเป็นธรรม เชื่อว่าพวกเขาก็พร้อมที่จะยืนหยัดเคียงข้างสนับสนุนเธอต่อไปเช่นกัน

ภาพ : Independent
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim

WATCH

คีย์เวิร์ด: #BillieEilish