ความฝันกับความจริงต่างกันที่การลงมือทำ นี่คือสิ่งที่แจน-ใบบุญ อรุณปรีชาชัยเชื่อเสมอมา จากเด็กสาวที่เริ่มต้นชีวิตนางแบบบนเวทีไทยซูเปอร์โมเดลปี 2011 มาถึงวันนี้เธอได้เดินแบบให้แบรนด์ระดับโลกมากมาย ทั้ง Burberry, Simone, Rocha, Stella McCartney, Kenzo และล่าสุดบนเวทีปารีสแฟชั่นวีกในฐานะนางแบบไทยคนแรกบนรันเวย์ของ Chanel

       “ตอนอายุ 16 แจนเคยคุยเล่นๆ กับเพื่อนว่าอยากไปยืนอยู่หน้าหอไอเฟลสักครั้ง เราไม่คิดเลยว่าอาชีพนางแบบจะพาไปถึงที่นั่นจริงๆ” แจนส่งยิ้มหวานผ่านซูม ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ทีมโว้กคุ้นเคยมาเป็นเวลาหลายปี และหลังจากปรากฏตัวในโว้กประเทศไทยอยู่หลายฉบับจนเรียกได้เต็มปากว่าเป็น “Vogue girl” เธอก็ตัดสินใจย้ายไปปักหลักที่กรุงลอนดอนในปี 2019 เพื่อทำตามฝันของตัวเอง และนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิตของเธอ

       “ในช่วงปีแรก ถ้าคิดเปอร์เซ็นต์ของการไปแคสต์แล้วได้งาน มีแค่ 5-10 เปอร์เซ็นต์เองค่ะ ต้องปรับตัวเยอะ เนื่องจากยังไม่เข้าใจระบบการทำงานที่นั่น บางทีเอเจนซี่จะบอกชั่วโมงต่อชั่วโมงว่ามาแคสต์งานนี้ ไปฟิตติ้งงานนั้น ต้องสแตนด์บายตลอดเวลา และบางแบรนด์พูดกับเราแค่ 2 ประโยคคือ ‘Walk’ กับ ‘Thank you for coming’ โดยไม่มีคำตอบว่าเราจะได้งานหรือเปล่า มันเป็นจุดที่ทำให้แจนต้องเข้มแข็งขึ้น ยากที่สุดคือการแคสต์งานแฟชั่นวีก ทั้งลอนดอน มิลาน และปารีส ยังจำตอนไปแคสต์ที่มิลานครั้งแรกได้ว่าเหนื่อยมาก ขึ้นรถไฟก็ยังงงๆ ทีมงานก็ไม่พูดภาษาอังกฤษกับเรา เสร็จงานก็แอบยืนร้องไห้ข้างถนนเหมือนกันนะ”

       นับเป็นเวลา 1 ปีเต็มที่แจนตระเวนแคสต์งานกับแบรนด์ต่างๆ จนแคสติ้งไดเร็กเตอร์เริ่มจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อแจน ใบบุญ ทำให้เธอมีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ท้องถิ่นในลอนดอน จากนั้นจึงสามารถต่อยอดไปสู่แบรนด์ระดับโลกที่ใหญ่ขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งทั้งหมดนี้แจนบอกว่าต้องใช้เวลา มีวินัย และอดทน

       “ตอนเดินให้เบอร์เบอร์รี่ แจนเคยคิดว่างานนี้จะช่วยเปิดทางให้เรา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย คนที่นั่นไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาชอบให้ไปแคสต์ เพื่อจะได้เห็นกันแบบ Face to face มากกว่า แล้วความยากคือคู่แข่งชาวเอเชียมีเยอะ เราต้อง Outstanding ให้ได้ อย่างตอนนี้แจนเปลี่ยนสีผม เวลาไปแคสต์ก็พยายามบอกว่ามาจาก Bangkok ประเทศไทย เขาจะสนใจมากขึ้น สิ่งสำคัญคือทัศนคติของตัวเอง ก่อนหน้านี้แจนชอบคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้ปรับแนวคิดใหม่ว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ และอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด หรือถ้าช่วงไหนท้อจะใช้วิธีกดดันตัวเองแบบโหดๆ ว่า ถ้าทำไม่ได้ก็กลับไทยไป พอคิดแบบนี้แล้วจะมีแรงฮึดสู้ใหม่”

       Chanel

       ความฝันหนึ่งที่แจนเคยบอกโว้กเมื่อหลายปีก่อนคืออยากร่วมงานกับชาเนลบนรันเวย์ที่ปารีสสักครั้ง ซึ่งในที่สุดฝันนั้นก็เป็นจริง เมื่อชาเนลเลือกให้เธอเดินคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2022 ในงานแฟชั่นวีกกรุงปารีส วันนั้นเธอโพสต์รูปลงอินสตาแกรมพร้อมข้อความ “Finally my dream came true”

      “ตอนนั้นเป็นความรู้สึกที่บอกตัวเองว่าได้แตะคำว่าฝันเป็นจริงแล้วนะ (ยิ้มกว้าง) วันที่ไปแคสต์แล้วเจอ Virginie Viard ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของชาเนลก็ตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่าเขาจะมาด้วยตัวเอง จำได้ว่าแจนยิ้ม จากนั้นเดิน 3-4 ก้าวสั้นๆ แล้ววีร์ฌีนีก็ยิ้มให้ คือแค่นั้นก็ดีใจมากแล้วค่ะ (ยิ้ม) วันถัดมาแจนถูกเรียกไปฟิตติ้ง ซึ่งก็ยังไม่คอนเฟิร์มว่าจะได้เดินไหม กระทั่งมีชื่อเราอยู่บนไม้แขวนเสื้อ ต่อด้วยการถ่ายรูป นาทีนั้นรู้สึกว่า เฮ้ย...นี่จริงแล้วใช่ไหม แต่ความรู้สึกเทียบไม่ได้กับวันโชว์ ตอนก้าวเท้าออกไปที่เวทีรู้สึกเหมือนหัวใจจะระเบิดออกมา ทั้งตื่นเต้นและมีความสุขมาก ยิ้มคนเดียวทั้งวันเลยค่ะ (ยิ้ม)”

       สำหรับฝันต่อไปของเธอในปี 2022 คือการย้ายไปอยู่ปารีส เพื่อหาโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ที่ยังไม่เคยทำงานด้วย วันนี้แจน ใบบุญเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ รุ่นใหม่ในวงการแฟชั่นมากมาย “มีน้องๆ หลายคนส่งข้อความมาหาว่า ‘วันหนึ่งหนูจะทำแบบพี่แจนให้ได้’ พออ่านแล้วก็รู้สึกขอบคุณมากนะคะ ไม่คิดว่าเราจะสร้างพลังบวกให้คนอื่นได้ และอยากบอกว่าลุยให้เต็มที่ เป็นตัวของตัวเอง และไปให้ไกลกว่าแจนให้ได้ สิ่งสำคัญในอาชีพนางแบบคือเราจะแค่รู้สึกอยากเป็นอย่างเดียวไม่ได้ คุณต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมตลอดเวลา เพราะเราไม่รู้ว่าโอกาสจะมาเมื่อไร แต่เมื่อวันนั้นมาถึง เราจะพร้อมกว่าคนอื่น”