Audrey Hepburn คือชื่อของดาวค้างฟ้าในวงการฮอลลีวู้ดที่ใครๆ ต่างยกย่องให้เป็นต้นแบบและชื่นชอบมานาน จนกระทั่งปัจจุบันชื่อของเธอก็ยังโลดแล่นอยู่ในวงการเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน ทั้งในด้านการแสดง แฟชั่นการแต่งตัว และขีดความสามารถของเธอที่มากมายนับไม่ถ้วน อย่างน้อยที่ทำเอาใครหลายคนอึ้งนอกจากการฝีมือการแสดงแล้ว ยังอยู่ที่ความสามารถด้านภาษาของเธอที่ออดรีย์นั้นพูดได้มากถึง 6 ภาษา

 

ภาพ: Pinterest

     ออดรีย์เติบโตขึ้นในครอบครัวที่เป็น Bilingual หรือการพูดสองภาษาอย่างภาษาอังกฤษและดัชต์ เนื่องจากเธอเป็นชาวอังกฤษเชื้อสายดัชต์ที่เติบโตในประเทศเบลเยียม โดยมีพ่อเป็นนายธนาคารใหญ่สัญชาติอังกฤษ ส่วนแม่ของเธอนั้นมีเชื้อสายขุนนางของประเทศเนเธอร์แลนด์ ชีวิตของเธอถูกโยกย้ายไปมาบ่อยครั้ง เริ่มต้นที่การไปอังกฤษสืบมาจากที่พ่อทิ้งครอบครัวไป แต่แล้วก็ต้องย้ายต่อไปเนเธอร์แลนด์เนื่องจากสงครามเข้ารุกคืบที่แผ่นดินอังกฤษ 

     อีกหนึ่งภาษาที่คลานตามกันมาคือฝรั่งเศส เนื่องจากเธอได้มีโอกาสเรียนในโรงเรียนเอกชนชื่อดังที่มีการจัดสอนหลากหลายกลุ่มภาษา ที่สำคัญเบลเยียมนั้นมีการใช้ภาษาฝรั่งเศสร่วมกับดัชต์ด้วย จึงไม่น่าแปลกใจว่าเธอจะสามารถพูด 3 ภาษานี้ได้คล่องและไม่ติดสำเนียงแม้แต่น้อย 

 

ภาพ: Ground Control 

     มีคนเคยพูดไว้ว่าเมื่อการเรียนมากกว่า 2 ภาษาไปพร้อมๆ กันอาจฟังดูยากและสับสน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่สมองเริ่มแยกแยะได้ เมื่อนั้นการเรียนภาษาอื่นๆ ต่อไปก็จะทำให้ง่ายต่อการจดจำมากขึ้น นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ออดรีย์นั้นสามารถเรียนภาษาที่ 4-6 ได้อย่างง่ายดาย หลังตัดสินใจจากแผ่นดินยุโรปเพื่อตามความฝันเป็นนักแสดงที่ฮอลลีวู้ด เธอก็ประสบความสำเร็จกับชื่อเสียงมากมายตั้งแต่ภาพยนตร์ Roman Holiday,  Breakfast at Tiffany’s และ My Fair Lady 

     การได้โบยบินไปถ่ายทำภาพยนตร์ในหลายประเทศ และการได้ออกเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ทำให้เธอได้โอกาสเรียนรู้ภาษามากมายตามมา ทั้งเยอรมัน สเปน และอิตาลี แน่นอนว่าภาษาอิตาลีที่เธอพูดได้นั้นส่วนหนึ่งมาจากการที่เธอแต่งงานกับคนรักชาวอิตาลี และมีลูกชายตัวน้อยด้วยกัน แต่แล้วความรักโรแมนติกดุจเทพนิยายกลับไม่ได้มีอยู่จริง เพราะทั้งเธอและเขาต่างไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อกันมากพอ และปันใจไปให้หญิงชายคนอื่นจึงต้องจบความสัมพันธ์ไปในที่สุด

 

 

ภาพ: People

     อย่างไรก็แล้วแต่ออดรีย์คือตัวอย่างของบุคคลที่น่ายกย่องและเชิดชู เพราะไม่ใช่แค่งานด้านการแสดง และแฟชั่นของเธอที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมรุ่นหลัง แต่ยังรวมถึงการอุทิศตนเพื่อเพื่อนมนุษย์ และทำงานร่วมกับ UNICEF เสมอมา เนื่องจากประสบการณ์ในวัยเด็กของเธอที่มีต่อสงครามโลก รวมไปถึงความมุมานะในการเรียนรู้ที่จะพูดได้หลากหลายภาษา เหมือนดั่งที่เคยพูดไว้เสมอว่า “ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”