LIFESTYLE
ทายาทสุดยอดอัจฉริยะ Albert Einstein คนสุดท้ายคือใครกันแน่...ตอนนี้มีประเด็นว่าศาสตราจารย์ท่านหนึ่งใน M.I.T. ถูกแอบอ้างว่าเป็นทายาทของอัจฉริยะผู้โด่งดัง |
หลังจากในประเทศไทยมีกระแสสังคมเกิดขึ้นมากมายเมื่อมีคนกล่าวอ้างถึงทายาท Albert Einstein สุดยอดอัจฉริยะที่ทุกคนรู้จักกันดี โดยเขาเป็นหนึ่งในผู้มีความฉลาดทางปัญญาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ และนับเป็นสุดยอดมนุษย์ผู้คิดค้นทฤษฎีดังก้องโลกหลายทฤษฎี ความคาดหวังของมวลมนุษยชาติก็ตกไปอยู่กับเหล่าทายาทของเขาอย่างปฏิเสธไม่ได้ ทว่าสายเลือดไอน์สไตน์กลับไม่ได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้น เพราะทายาทที่แท้จริงและมีชื่อเสียงของเขาสิ้นสุดลงเพียงทายาทรุ่นที่ 3 เท่านั้น...
Eduard Einstein หรือ Tete ลูกชายคนเล็กของ Albert Einstein / ภาพ: Leo Beck Institute
เริ่มกันที่ทายาทรุ่นที่ 2 กันก่อน อัลเบิร์ตมีลูกชายคนเล็กชื่อ Eduard Einstein หรือที่มีชื่อเล่นว่า Tete เขาคือเด็กชายผู้โดดเด่นเรื่องการศึกษาไม่แพ้คุณพ่อเลยทีเดียว เตเต้ชื่นชอบดนตรีและศิลปะ แต่เลือกศึกษาด้านการแพทย์ และผนวกเรื่องราวด้านจิตใจจนเชี่ยวชาญด้านจิตแพทย์ ก่อนเขาจะมีอาการผิดปกติทางจิตตั้งแต่วัยเพียง 21 ปีเท่านั้น เขารับยาและรับการบำบัดด้วยไฟฟ้า ซึ่งภายหลังเชื่อว่ามันทำให้อาการเขาทรุดโทรมลงมากกว่าที่จะดีขึ้น จากเด็กหนุ่มผู้มีอนาคตสดใสกลายเป็นผู้มีความผิดปกติทางจิต และเคยกล่าวว่า “เกลียดพ่อ” และแล้วอัลเบิร์ตก็ย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกาในช่วงนาซีกำลังเถลิงอำนาจในเยอรมัน ทิ้งภรรยาและลูกคนเล็กไว้เบื้องหลัง พวกเขาไม่เคยเจอกันอีกเลย สุดท้ายภรรยาของอัลเบิร์ตเสียชีวิตลงในปี 1948 ก่อนเตเต้จะเสียชีวิตด้วยอาการสโตรกในปี 1965 และไม่มีทายาทสืบต่อตระกูลในสายนี้แต่อย่างใด
Albert Einstein กับลูกชายคนโต Hans Albert Einstein ในปี 1927 / ภาพ: Lotte Jacobi
ลูกชายอีกหนึ่งคนของอัลเบิร์ตคือลูกชายคนโตชื่อ Hans Albert Einstein เขาคือความหวังสุดท้ายเนื่องจาก Lieserl ลูกสาวคนแรกของตระกูลได้เสียชีวิตลงตั้งแต่เกิดมาเพียงขวบเดียวเท่านั้น เขาโดดเด่นมากเรื่องวิศวกรรม ฮานส์คือนักศึกษาผู้เจริญรอยตามพ่อด้วยการศึกษาที่ ETH ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สถาบันที่ขึ้นชื่อเรื่องกลศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรม ฮานส์ถือเป็นวิศวกรหนุ่มผู้มีผลงานระดับท็อปประดับพอร์ตอย่างหลากหลาย และเขาก็ตัดสินใจย้ายไปสหรัฐอเมริกาในปี 1938 ตามคำแนะนำของพ่อที่เกรงกลัวอำนาจของกองทัพนาซีในยุคนั้น วิศวกรหนุ่มโลดแล่นบนเส้นทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง เขาทำงานให้กับภาครัฐของประเทศ อีกทั้งยังเป็นศาสตราจารย์สอนในมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง UC Berkeley อีกด้วย ระหว่างช่วงชีวิตที่สหรัฐอเมริกาเขามีทายาทถึง 4 คนแต่ก็ไม่ได้สืบสายเลือดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะเล่าต่อไปในบทความนี้
WATCH
Bernhard Einstein หลานชายแท้ๆ คนเดียวของ Albert Einstein / ภาพ: Wiki Library
ทายาทที่แท้จริงเหลือเพียงหนึ่งเดียว! ความน่าใจหายของตระกูลไอน์สไตน์คือทายาทพวกเขาประสบชะตากรรมที่ต้องจบชีวิตตั้งแต่ลืมตาดูโลกมาได้ไม่นาน ฮานส์มีลูกชายคนโตกับภรรยาชื่อ Bernhard Caesar Einstein ซึ่งเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตสืบต่อสายเลือด เพราะน้องชายอีก 2 คนทั้ง Klaus Martin และ David จบชีวิตตั้งแต่วัยเพียง 6 ขวบและ 1 เดือนตามลำดับ ซึ่งต่อมาฮานส์ก็รับ Evelyn Einstein เข้ามาเป็นบุตรบุญธรรม แต่ก็ไม่นับว่าเป็นสายเลือดที่แท้จริง เท่ากับว่าตอนนี้ตระกูลไอน์สไตน์สืบต่อกันนับจากอัลเบิร์ตจนถึงรุ่นหลานของเขามีเบอร์นาร์ดคนเดียวที่รอดชีวิต
Evelyn Einstein หลานสาวบุญธรรมของ Albert Einstein / ภาพ: The New York Times
เบอร์นาร์ดถือเป็นทายาทที่เชื้อไม่ทิ้งแถวทีเดียวเพราะเขาก็กลายเป็นบุคคลที่โดดเด่นด้านวิชาการไม่น้อย ถึงแม้จะมีประวัติว่าเขาไม่ได้สนใจด้านการเรียนมากนัก แต่เขาก็สอบเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยได้ใน UC Berkeley ซึ่งถือเป็นสถาบันชั้นนำและเป็นสถาบันเดียวกับที่พ่อของเขาเคยสอน ก่อนจะออกมารับใช้ชาติด้วยการสมัครเข้ากองทัพเพื่อฝึกระเบียบวินัยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เดินตามรอยเท้าปู่และพ่อด้วยการสอบเข้าเรียนที่ ETH และศึกษาด้านฟิสิกส์อย่างจริงจัง สิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดคือเรื่องเกี่ยวกับหลอดสุญญากาศ หรือที่เราคุ้นเคยกันดีกับข้าวของเครื่องใช้ประเภทหลอดไฟนั่นเอง เขาเชี่ยวชาญด้านการผลิตแสงสว่าง นอกจากนี้ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำอุปกรณ์มองกลางคืนหรือ “Night Vision” ที่เราคุ้นหูกันอีกด้วย หลังจากประสบความสำเร็จด้านวิทยาศาสตร์อย่างมากในสหรัฐอเมริกา เขาก็ย้ายไปที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะสิ้นลมที่กรุงเบิร์นในปี 2008 ด้วยวัย 78 ปี เขามีสืบต่อสายเลือดไอน์สไตน์ด้วยการมีลูกกับภรรยาถึง 5 คน
Thomas Martin Einstein ทายาทสายตรงลำดับที่ 4 ของ Albert Einstein / ภาพ: @TEinsteinMD
Thomas Martin, Paul Michael, Eduard Albert, Mira และ Charles Quincy Ascher ชื่อทั้งหมดคือชื่อของทายาทรุ่นที่ 4 ของอัลเบิร์ต แต่พวกเขาและเธอไม่ได้โดดเด่นขึ้นมาเหมือนกับรุ่นทวด ปู่ และพ่ออีกแล้ว บางคนอาจมีชื่อเป็นผู้เก่งกาจด้านวิชาการอยู่บ้าง ทว่าไม่ได้พิเศษเหนือมนุษย์หรือโดดเด่นมากจนได้รับความสนใจมากนัก ความพิเศษของตระกูลไอน์สไตน์จึงจบลงที่รุ่น 4 ถ้านับจากอัลเบิร์ต และรุ่น 11 หากนับจากต้นตระกูลไอน์สไตน์ ความเคลื่อนไหวหลังจากนี้ไม่มีข้อมูลระบุได้อย่างชัดเจน พวกเขาทั้ง 5 คนใช้ชีวิตเหมือนปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้ถูกติดตามชีวิตและบอกเล่าชีวประวัติเหมือนรุ่นก่อนหน้าอีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าสายเลือดไอน์สไตน์อาจยังคงสืบทอดกันต่อไป แต่คงไม่ใช่ตระกูลที่ได้รับการจับตามองอีกแล้ว นั่นก็นับเป็นข้อดีที่ทั้ง 5 คน รวมถึงลูกหลานจะได้ใช้ชีวิตโดยอิสระเต็มที่เสียที
Herbert H. Einstein ศาตราจารย์ของสถาบัน M.I.T. ที่ไม่ได้เป็นทายาทของ Albert Einstein / ภาพ: MIT CEE
Herbert H. Einstein คือใคร...จริงๆ เหตุการณ์ในประเทศไทยที่กำลังเป็นที่พูดถึงในช่วงปลายปี 2021 นั้นมุ่งเป้ามาที่อัจฉริยะผู้นี้เสียมากกว่า จากหลักฐานการไล่เรียงทายาทของอัลเบิร์ตไม่ปรากฏชื่อเฮอร์เบิร์ตแต่อย่างใด เขาเป็นศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมโยธา ณ สถาบัน M.I.T. สถาบันด้านวิศวกรรมศาสตร์ชื่อดังของโลก ความละม้ายคล้ายคลึงที่ทำให้คนสนใจคือเขาก็จบการศึกษาระดับปริญญาเอกที่ ETH เช่นเดียวกับตระกูลไอน์สไตน์ด้วย เขาเก่งกาจจนได้รับการจับตามองไม่แพ้ทายาทตระกูลไอน์สไตน์ที่แท้จริงเลยทีเดียว เพราะหลักฐานการตีพิมพ์ผลงานวิชาการกว่า 300 ฉบับการันตีว่าเขาคือหนึ่งในสุดยอดนักวิชาการด้านกลศาสตร์หินของโลกใบนี้
Herbert H. Einstein กับกองหนังสือมหาศาลที่สะท้อนตัวตนความใฝ่รู้ระดับศาตราจารย์ / ภาพ: MIT LGO
เฮอร์เบิร์ตคืออัจฉริยะผู้มีนามสกุลตรงกับตระกูลดังเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นสุดยอดนักวิชาการคือผลงานที่เขาทำจนเป็นประจักษ์ อีกทั้งยังเป็นคนออกแบบการเรียนรู้หลักการกลศาสตร์ในรูปแบบที่แตกต่างจากเดิม ซึ่งเขามุ่งเน้นการนำหลักการไปวิเคราะห์และใช้จริง ซึ่งเป็นแนวทางการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์รูปแบบใหม่ของโลกยุคโมเดิร์นที่ความรู้ไม่ได้อยู่แต่ในตำราอีกต่อไป แม้เขาจะโดดเด่นราวกับเป็นทายาทลับของอัลเบิร์ตแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเกี่ยวข้องกับตำนานอัจฉริยะของโลกใบนี้แต่อย่างใด มากไปกว่านั้นเขายังไม่เคยระบุว่าเขามีความเกี่ยวข้องอีกด้วย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าตอนนี้ทายาทไอน์สไตน์อาจสืบต่อกันไปหลายต่อหลายรุ่นนับจากนี้ แต่ความยิ่งใหญ่ระดับโลกอาจจบลงเพียงรุ่นของเบอร์นาร์ดเท่านั้น และเฮอร์เบิร์ตผู้นี้ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงแต่เขากำลังสร้างตำนานความเฉลียวฉลาดด้วยชื่อของตัวเอง และจารึกให้ทุกคนจดจำเขาว่าเป็น “เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์” ไม่ใช่ผู้สืบต่อสายเลือดจากอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
ข้อมูล:
WATCH