รู้จักกับ ‘Afrobeat’ สไตล์เพลงสุดไอคอนิก ที่มีจุดกำเนิดจากความหรรษาของคนดำ

   เรื่อง: วรเมษ คำเงิน  

 

     ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้กระแสของอุตสาหกรรมเพลงได้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก สามารถสังเกตได้ตั้งแต่การแจ้งเกิดของเหล่าศิลปินหน้าใหม่ ไปตลอดจนแนวแพลงที่มีความหลากหลายมากขึ้น บทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับอีกสไตล์เพลงอย่าง “Afrobeat” แนวเพลงสุดไอคอนิกที่เริ่มต้นจากวัฒนธรรมและความหรรษาของเหล่าคนดำ

 

 ภาพจาก afropop.org

     “Afrobeat” มีจุดกำเนิดจากประเทศไนจีเรียโดยได้ “Fela Kuti” บิดาแห่งแอฟโฟรบีต มาเป็นผู้สร้างสรรค์และผสานแต่ละท่วงทำนองเข้ากับดนตรีพื้นเมืองของแอฟริกาตะวันตกเข้ากับอิทธิพลของดนตรีจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นพังก์ โซล แจ๊ส และอื่นๆ ทำให้ Afrobeat กลายเป็นสื่อกลางในการแสดงออกทางความคิดและอุดมการณ์ นอกจากนี้แนวเพลงนี้ยังได้สอดแทรกและสะท้อนถึงปัญหาสังคมและการเมืองของไนจีเรีย ณ ขนาดนั้นอีกด้วย

     ด้วยจุดกำเนิดที่ความสนุกสนานและสอดแทรกไปด้วยเนื้อหาทางด้วนสังคมและการเมือง ตลอดจนการทุจริตคอร์รัปชั่นและความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ทำให้ในช่วงแรกเริ่มนั้น Afrobeat จึงเปรียบเสมือนกระบอกเสียงของประชาชน ที่สะท้อนปัญหาใต้พรมเหล่านี้ผ่านเนื้อเพลงและแผ่ขยายออกไปยังผู้คนในหลากหลายพื้นที่ในที่สุด ทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ผู้คนใช้ในการต่อต้านกับอำนาจนิยมเช่นกัน

 

ภาพจาก freaksonar.com  

     ไม่เพียงจะโดดเด่นด้วยเนื้อหาของเพลงที่แฝงไปด้วยประเด็นต่างๆ เท่านั้น ทว่าจังหวะและท่วงทำนองของ Afrobeat ยังเป็นอีกเสน่ห์ที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นท่วงทำนองที่ติดหู โดย Afrobeat มักมีการใช้จังหวะเพลงที่ซับซ้อนและมีชีวิตชีวา ตลอดจนเครื่องดนตรี ที่มักนำเอาเครื่องดนตรีพื้นเมืองของแอฟริกาเข้ามาสอดประสาน หรือแม้กระทั่งท่าเต้นที่มีเอกลักษณ์และทรงพลัง ทั้งนี้ Afrobeat ยังถือเป็นอีกหนึ่งแนวเพลงที่มีอิทธิพลต่อวงการเพลงทั่วโลกอย่างมาก โดยเฉพาะในแนวเพลง HipHop, R&B และ Dance Music อื่นๆ และด้วยท่วงทำนองที่มีความเฉพาะตัวและเข้ากันได้ดีกับสไตล์ดนตรีอื่นๆ ทำให้ยุคหลัง Afrobeat เข้ามามีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมป๊อบเช่นกัน โดยเรามักเห็นศิลปินสมัยใหม่หลากหลายคนนำเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของเพลงไม่ว่าจะเป็น Tyla ในหลากหลายบทเพลงอย่าง Water, Art และ Jump หรือจะเป็น Selena Gomez, Libianca, Terms และศิลปินฮิปฮอปอื่นๆ อีกมากมาย

     เราจะเห็นได้ว่า Afrobeat อาจไม่ได้เป็นเพียงแนวเพลงทั่วไปที่ได้รับความนิยมเท่านั้น แต่ถือเป็นสไตล์เพลงที่เชื่อมโยงผู้คนจากอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังเป็นสไตล์เพลงที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ตลอดจนสังคมและการเมืองที่เชื่อมถึงกันผ่านแนวเพลงสุดไอคอนิก