ปรับพฤติกรรมด่วน เมื่อรู้สึกติดโซเชียลมากไป! ด้วย Social Media Detox ละเพื่อเห็นคุณค่ารอบตัว

ปัจจุบันเลี่ยงไม่ได้ว่าโซเชียลมีเดีย เข้ามามีอิทธิพลและเป็นส่วนหนึ่งของการทำกิจวัตรประจำวัน ทั้งการติดต่อสื่อสาร ติดตามข่าวสาร หรือแม้กระทั่งการเข้าสังคม แน่นอนว่าข้อดีของโซเชียลมีเดียมีมากมาย ทว่าหากใช้เกินความจำเป็นอาจเป็นพิษส่งผลกระทบต่อตนเองและคนรอบข้าง ไปจนถึงด้านร่างกายและจิตใจได้เช่นกัน เพราะอาการ "เสพติดโซเชียล" มากเกินไปนี้ เสมือนสร้างโลกส่วนตัวอีกหนึ่งมิติ บางครั้งอาจหละหลวมจนมองไม่เห็นความสำคัญของคนรอบข้าง ทำให้เกิดความขัดแย้งในเรื่องของความสัมพันธ์ได้อีกด้วย วันนี้โว้กขอชวนทุกคนมาทำความเข้าใจกับการทำ Social Media Detox และเช็กลิสต์ไปพร้อมกันได้ในบทความนี้

Social Media Detox วิธีการบำบัดหรือวิธีล้างพิษ เพื่อละจากโซเชียลมีเดียให้น้อยลง เพลาลงจากโลกเสมือนจริง อินเทอร์เน็ต เครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่าง เสมือนการดีท็อกซ์ชั้นดีที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุด อีกทั้งยังสามารถลดความเครียดที่เกิดจากการเล่นโซเชียลมีเดียได้ ถือว่าเป็นทางเลือกการฟื้นฟูสภาพจิตใจอย่างหนึ่งที่ยอดเยี่ยม หากปล่อยปะละเลยอาจส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวันไปมากกว่าที่เราคิด สิ่งสำคัญคือ เราสามารถเสพสื่อได้พอเหมาะพอควร ลองหากิจกรรมต่างๆ เพื่อกระชับมิตร ลองละโทรศัพท์แล้วหันมามองหน้ากันจะดีเสียกว่า 

 

เมื่อคุณมีความรู้สึกผิดปกติทางด้านร่างกายและจิตใจเช่นนี้ คุณกำลังต้องการดีท็อกซ์ด้วย Social Media Detox อย่างแน่นอน

สัญญาณกำลังเตือนว่าคุณกำลัง....

1. ปวดนิ้ว ข้อมือ แขน หลัง และคอ ท้ายทอย
2. ตาพร่ามัว ปวดกระบอกตา 
3. ใจจดจ่ออยู่กับโซเชียลมีเดีย และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหนักหน่วง
4. สิ่งที่อยู่ในโซเชียลมีเดียมีผลกระทบต่อจิตใจ อารมณ์ 

การดีท็อกซ์ขั้นตอนแรกที่อาจดูยากแต่แท้จริงแล้วทำง่ายกว่าที่คิด! คุณลองตั้งการแจ้งเตือนน้อยลง หรือปิดการแจ้งเตือนชั่วขณะดู วิธีนี้อาจทำให้คุณเลือกโฟกัสกับสิ่งรอบตัวมากกว่าจ้องมองมือถือ ถ้าให้ดียิ่งขึ้นกำหนดเวลาการเล่นโซเชียลมีเดียด้วย นอกจากนี้การออกไปในสถานที่อื่นๆ เพื่อช่วยในการผ่อนคลายและเป็นกิจกรรมร่วมกับคนรัก ครอบครัว และเพื่อนก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการไปปิกนิก เที่ยวคาเฟ่ ออกเดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัด หรือ One day trip ไม่เพียงเท่านี้การค้นหาความชื่นชอบทั้งงานอดิเรกและอาชีพอาจเกิดถ้าคุณมีเวลาอยู่กับตัวเองมากยิ่งขึ้น คุยกับตัวเองให้เยอะๆ ทั้งบอกรักและสอบถามตัวเองว่าเรากำลังต้องการอะไรอยากทำอะไร การคุยกับตัวเองเป็นเรื่องที่ดีไม่ว่าจะเป็นการขอบคุณตัวเอง ขอโทษตัวเอง และให้อภัยตัวเองในวันที่รู้สึกว่าผิดพลาดไป อีกหนึ่งสิ่งสำคัญอย่างการพักผ่อน หลีกเลี่ยงการนำเครื่องมือสื่อสารวางไว้ใกล้ตัวและใกล้ศีรษะ เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อสมองแล้ว ยังทำให้ไม่รบกวนการพักผ่อนอีกด้วยเนื่องจากแสงที่เกิดจากการแจ้งเตือนอาจเป็นตัวก่อกวนชิ้นดีที่ทำให้หลับพักผ่อนไม่เพียงพอเพราะต้องสะดุ้งตื่นจากแสง 

 สุดท้ายแล้วการรักตัวเองเป็นสิ่งที่ควรทำที่สุด ร่างกาย จิตใจเป็นของเรา ถ้าผู้อ่านได้เช็กลิสต์ไปพร้อมๆ กันแล้ว คุณพร้อมจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเหล่านี้ได้หรือยัง