FASHION

พวกเขาคือใคร? ทำไมสำคัญ? เกร็ดที่ต้องรู้จากเจ้าของประเด็นฉาว Mario Testino และ Bruce Weber!

สองช่างภาพตัวเป้งแห่งวงการแฟชั่นกับประเด็นที่ฉาวที่สุดในเวลานี้ คุณรู้จักพวกเขาแค่ไหน?

     ประเด็นข่าวร้อนแรงแซงรันเวย์ Fall 2018 Menswear Fashion Show ในเวลานี้ต้องยกเรื่องฉาวของสองช่างภาพแฟชั่นขั้นเทพ Mario Testino และ Bruce Weber ที่ล่าสุดนิตยสาร The New York Times จับมือนายแบบและผู้ช่วยช่างภาพหลายสิบชีวิตออกมาเปิดเผยถึงการล่วงละเมิดทางเพศมากมายซึ่งเกิดขึ้นตลอดหลายปีภายใต้อิทธิพลคับวงการของทั้งคู่ โดยล่าสุด Condé Nast หัวเรือใหญ่ของนิตยสารอย่าง Vogue, GQ และ Vanity Fair ได้ออกมาประกาศยุติการร่วมงานกับทั้งคู่แล้ว แต่หลังจากเสพข่าวกันมาพอประมาณ ลองมาดูเกร็ดน่ารู้เล็กๆ น้อยๆ ของทั้ง มาริโอ เทสติโน และ บรูซ เวเบอร์ กันดีกว่าว่าทำไมถึงทั้งสองถึงได้สำคัญกับวงการแฟชั่นโลกกันขนาดนี้?

Mario Testino คือใคร?

ช่างภาพเลือดผสมไอริช - สเปนิช - อิตาเลียนจากเปรูวัย 63 ปีผู้เคยร่วมงานกับนิตยสารชั้นนำระดับโลกมาแทบเกลี้ยง โดยเฉพาะ Vogue, Vanity Fair, GQ, V Magazine ที่เป็นเจ้าประจำ รวมทั้งเคยกวาดโฆษณาแคมเปญของแบรนด์แฟชั่นหัวใหญ่ตั้งแต่ Gucci, Burberry, Versace, Dolce & Gabbana ไปจนถึง Chanel ความสำเร็จของเขาพุ่งจนถึงจุดที่ (เคย) ได้การยอมรับจากคนแฟชั่นทั้งวงการตั้งแต่นางแบบ ดีไซเนอร์ ไปจนถึงบรรณาธิการนิตยสารชั้นนำ

แล้ว Bruce Weber คือใคร?

ช่างภาพแฟชั่นเลือดอเมริกันวัย 71 ปีที่ดังไม่แพ้ Testino ผลงานของเขามีทั้งใน Vogue, GQ, Vanity Fair, Elle, Life, Interview รวมถึง Rolling Stone Magazine รวมทั้งแคมเปญโฆษณาของบรรดาแบรนด์อเมริกันทั้ง Ralph Lauren, Calvin Klein, Perry Elllis แถมยังเป็นช่างภาพขวัญใจ Nicolas Ghesquière แห่ง Louis Vuitton จนเรียกใช้บ่อยสุดๆ!

ผลงานแจ้งเกิดของ Mario Testino

ถ้าไม่นับโฆษณาแคมเปญ Gucci ที่ถ่ายนางแบบ Carine Roitfeld ในปี 1996 ก็ต้องยกให้ภาพเซ็กซี่ของ Madonna ในแคมเปญ Versace ปี 1995 นี่ล่ะที่ทำให้ Testino พุ่งแรงสุดๆ แถมหลังจากนั้น Madona ยังติดใจเรียกใช้ Testino เป็นช่างภาพให้กับงานต่างๆ ของเธอด้วย



WATCH




1 / 3



2 / 3



3 / 3



ผลงานดังเปรี้ยงของ Bruce Weber

ต้องยกให้แคมเปญ Calvin Klein ปี 1982 ที่ได้นายแบบ Tom Hintnaus สวมกางเกงในสีขาวตัวเดียวตามภาพ ว่ากันว่าภาพนี้นี่เองที่เปลี่ยนสไตล์ภาพโฆษณาแฟชั่นในอเมริกาให้เปลี่ยนไป!

Weber เคยมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง

ในชื่อว่า Weberbilt เปิดตัวในปี 2003 พร้อมสโลแกนก๋ากั่นที่ว่า For the guys who don't wear underwear ซึ่ง "eat, swim, sex, sleep" คือชื่อของคอลเล็กชั่นแรกที่สยิวไม่แพ้กัน 

Testino ช่างภาพผู้เป็นขวัญใจราชวงศ์อังกฤษ

ในปี 1997 Testino มีโอกาสได้ถ่ายภาพเจ้าหญิงไดอาน่าสำหรับปก Vanity Fair กลายเป็นจุดสำคัญที่ทำให้หลังจากนั้นราชวงศ์เรียกใช้จนเป็นช่างภาพคู่ใจ ไม่ว่าจะภาพในวาระสำคัญครั้งไหนก็มักจะเป็นฝีมือของเขาคนนี้!

1 / 3



2 / 3



3 / 3



ถ้าจะให้เรียกชื่อเต็มๆ ก็ต้อง Mario Testino OBE

ราชวงศ์อังกฤษรักช่างภาพคนนี้ขนาดไหนคงดูได้จากปี 2014 ที่ Testino ได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์ OBE จากควีนเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งจะมอบให้กับคนที่ทำคุณงามความดีในด้านต่างๆ ให้แก่ประเทศ

ถึงจะดังในสายช่างภาพ แต่ที่จริงแล้ว Bruce Weber รักภาพยนตร์มาก

นอกจากบรรดาโฆษณาแคมเปญแบรนด์แฟชั่นเรตเอ็กซ์แล้ว Weber มีผลงานภาพยนตร์และภาพยนตร์สั้นถึง 16 เรื่องด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Let’s Get Lost ที่เกี่ยวกับตำนานแจ๊ซ Chet Baker ซึ่งได้เข้าชิงออสการ์ในปี 1998 ด้วย

รวมโฆษณาแคมเปญน่าหวาดเสียวของสองช่างภาพแฟชั่นที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวท็อปของวงการ

1 / 4

Gucci Spring/Summer 2013 by Mario Testino


2 / 4

Miu Miu (2011) by Bruce Weber


3 / 4

Barneys Spring 2015 by Bruce Weber


4 / 4

Wolford (2015) by Mario Testino


     สำหรับประเด็นฉาวของทั้งคู่ที่กำลังถูกเปิดโปงกันอยู่ในตอนนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป? แล้วจะมีเหยื่อรายใหม่ #thesilencebreakers ออกมาแสดงตัวอีกหรือไม่? เตรียมติดตามอัพเดตไปกับโว้กประเทศไทยได้เลย!

WATCH