![](https://files.vogue.co.th/uploads/5937e62072f6f981098b4842-2.jpg)
FASHION
ถอดรหัส: ทำไมการคว้ารางวัล CFDA ในปีนี้ของ Raf Simons ถึงยิ่งใหญ่ ทั้งที่เขาเคยได้รางวัลมาแล้ว?Raf Simons ดีไซเนอร์มือทองแห่ง Calvin Klein สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการกวาดรางวัลดีไซเนอร์แห่งปีทั้งสาขาเสื้อผ้าผู้ชายและเสื้อผ้าผู้หญิงไปครองสองรางวัลรวด โว้กพาไปถอดรหัสว่าทำไมการได้รางวัลครั้งนี้ถึงยิ่งใหญ่กว่าครั้งก่อน และยุคของเขาที่ Calvin Klein เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง? |
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดตามความเคลื่อนไหวการเปลี่ยนเก้าอี้ของแฟชั่นดีไซเนอร์ ชื่อของ Raf Simons ย่อมไม่ได้คุ้นหูน้อยไปกว่า Karl Lagerfeld หรือ Alexander Wang ล่าสุดดีไซเนอร์เชื้อสายเบลเยียมคนนี้เพิ่งจดชื่อตัวเองลงในอีกหน้าประวัติศาสตร์ของเวที CFDA รางวัลอันทรงเกียรติของวงการแฟชั่นอเมริกา ด้วยการคว้ารางวัลใหญ่ของรายการ อย่างรางวัลดีไซเนอร์แห่งปีสาขาเสื้อผ้าผู้หญิง และรางวัลดีไซเนอร์แห่งปีสาขาเสื้อผ้าผู้ชาย ไปครองถึง 2 รางวัลรวดจากคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง 2017 ภายใต้แบรนด์ Calvin Klein แต่คำถามคือทำไมการได้รางวัลในครั้งนี้ของ Raf Simons ถึงเป็นที่ฮือฮา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาก็เคยคว้ารางวัล CFDA สาขา International Award มาแล้วครั้งยังนั่งเก้าอี้ Creative Director ที่ Dior เมื่อปี 2014 เหตุใดการได้รางวัลในปีนี้ถึงมีนัยสำคัญ จนอาจทำให้เขากลายเป็นดีไซเนอร์ในตำนานอีกคนหนึ่ง
ความพิเศษของรางวัล CFDA ที่ Raf Simons ได้ในปีนี้
![]( http://i.share.pho.to/4b6bf45c_l.jpeg)
ในประวัติศาสตร์ของ CFDA มีดีไซเนอร์เพียง 6 คนเท่านั้นที่สามารถคว้ารางวัลใหญ่ไปครองถึง 2 สาขา นั่นคือสาขาเสื้อผ้าผู้หญิงและเสื้อผ้าผู้ชาย เมื่อปี 1990 Donna Karan คือดีไซเนอร์คนแรกที่หอบรางวัลใหญ่ครั้งแรกกลับบ้านไปก่อนและคว้ารางวัลที่สองตามมาในอีก 2 ปีให้หลัง แถมยังซ้ำรางวัลใหญ่อีกครั้งในสาขาเสื้อผ้าผู้หญิงปี 1996 ตามมาติดๆ ด้วย Ralph Lauren ที่กวาดไปถึง 3 รางวัลในปี 1995, 1996 และ 2007 ส่วน Michael Kors เองก็เคยรวบสองรางวัลมาแล้วเมื่อปี 1999 ในสาขาเสื้อผ้าผู้หญิง และปี 2003 ในสาขาเสื้อผ้าผู้ชาย นอกจากนี้ยังมี Marc Jacobs ที่เคยได้ไปถึง 3 รางวัล ตามมาด้วย Tom Ford เจ้าของรางวัล CFDA ถึง 2 ครั้ง ล่าสุดมาถึง Raf Simons ซึ่งเป็นดีไซเนอร์คนที่ 7 แห่งประวัติศาสตร์ที่คว้ารางวัล CFDA ไปครอง 2 สาขารวดนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ใต้ชายคา Calvin Klein ตามรอยผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่เคยควบรางวัลกลับบ้านสองสาขารวดเช่นกันเมื่อปี 1993 และได้รางวัลใหญ่ไปประดับบ้านเพิ่มอีกหนึ่งตอนปี 1999 นั่นหมายความว่าชื่อของ Raf Simons ได้ถูกจดลงในลิสต์ 1 ใน 7 ดีไซเนอร์ที่สามารถควบรางวัลใหญ่ถึงสองสาขา จากดีไซเนอร์หลายร้อยคนที่เคยได้รางวัล CFDA นับแต่ปี 1980 เป็นต้นมา
การย้ายจาก Dior มาที่ Calvin Klein คือการตัดสินใจที่ถูกหรือไม่
![](http://i.share.pho.to/09c1efdd_l.jpeg)
“หลายอย่างผมทำไม่ได้ที่ Dior แต่ที่ Calvin Klein ผมทำได้” Raf Simons เคยให้สัมภาษณ์กับ Amuse ถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจทิ้งเก้าอี้ creative director ในแฟชั่นเฮาส์ที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆ อย่าง Dior มานั่งแท่น chief creative officer ที่ Calvin Klein ดูแลทั้งเสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิง “ทุกคนย่อมอยากทำงานอะไรก็ตามที่เชื่อมโยงกับตัวเองได้ บอกตรงๆ เลยว่าเหตุผลที่ผมเลือกมาดูแล Calvin Klein เป็นเพราะที่นี่มีความหลากหลาย มีทั้งแฟชั่นระดับสูง ระดับกลาง ไปจนถึงติดดินกว่านั้นก็มี นั่นแปลว่าผมจะสามารถเข้าถึงคนทุกคนในโลกนี้ได้ สิ่งที่ผมทำที่นี่ มันไม่สามารถไปทำกับ Dior ได้” ดังนั้นถ้าเป้าหมายของดีไซเนอร์คนนี้คือการเข้าถึงโลกแฟชั่นให้ได้ทุกซอกทุกมุมแล้วล่ะก็ Calvin Klein คือตัวเลือกที่เอื้อให้เขาเดินตามอุดมการณ์ได้อย่างเปิดกว้างที่สุด
Calvin Klein ในยุคของ Raf Simons เป็นอย่างไร?
![](http://i.share.pho.to/c23ea5ef_o.jpeg)
ย้อนกลับไปช่วงปี 1980s และ 1990s สมัยนั้น Calvin Klein นำเสนอโฆษณาชุดชั้นในที่มีหญิงสาวมาดเซ็กซี่และหุ่นสุดเพอร์เฟ็กต์อย่าง Brooke Shields และ Kate Moss เป็นนางแบบ และเพื่อเป็นการพิสูจน์อุดมการณ์ที่เขาเคยประกาศไว้ ทันที่ที่เข้าสู่ยุคใหม่ Raf Simons จัดการปล่อยแคมเปญชุดชั้นในล้างภาพจำแบบเก่าๆ ที่แบรนด์เคยสร้างไว้ในทันที เขากลับเข็มทิศและพาแบรนด์ก้าวไปสู่ทิศทางที่ผู้คนจะเข้าถึงชุดชั้นในของ Calvin Klein ได้มากขึ้นด้วยการเชิญ Lauren Hutton นักแสดงและนางแบบชื่อดังวัย 73 ปี มาเป็นนางเอกของแคมเปญนี้ในชุดชั้นในดีไซน์เรียบๆ และเสื้อเชิ้ตสีขาวสุดคลาสสิก และเชิญ Sofia Coppola ผู้กำกับหญิงเจ้าของรางวัลออสการ์มาลั่นชัตเตอร์ โดยไม่จำกัดว่าคุณจะต้องเป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟ็กต์เท่านั้น ชุดชั้นใน Calvin Klein ถึงจะคู่ควรกับคุณเหมือนที่หลายคนเคยรู้สึก เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายหลักของเขาคือการนำ Calvin Klein ไปสู่ทุกตลาดบนโลกแฟชั่นอย่างไร้เส้นแบ่ง
เหตุผลที่ต้องมี Calvin Klein by Appointment
![](http://i.share.pho.to/c0f2e6a4_o.jpeg)
ได้ชื่อว่าอดีตผู้สร้างสรรค์งานกูตูร์แห่ง Dior คงไม่ปล่อยให้ประสบการณ์เสียเปล่า ในเมื่อมีเสื้อผ้าเรดี้ทูแวร์ที่ใส่ได้ประจำวันแล้ว ก็ต้องมีผลงานเสื้อผ้าชั้นสูง ซึ่งถือเป็นงานถนัดของเขาด้วย ด้วยเหตุนี้ Raf Simons จึงจัดการเปิดตัวบริการใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยมีมาก่อนในแฟชั่นเฮาส์แห่งนี้ นั่นคือบริการสั่งตัดพิเศษแบบส่วนตัว โดยใช้ชื่อว่า Calvin Klein by Appointment ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ขั้นตอนพูดคุยตอนเซ็ปต์ วัดตัว ออกแบบ ไปจนถึงการตัดเย็บ ในทุกขั้นตอนคุณจะมี Raf Simons คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ผลลัพธ์คือแบรนด์นี้กลายเป็นที่พึงปราถนาแห่งใหม่ของเซเลบริตี้และคนดังทั่วโลก อย่างชุดเดรสผ้าทูลล์สีขาวซ้อนผ้ากว่า 70 ชั้นที่ Nicole Kidman ใส่อวดโฉมบนพรมแดงเมืองคานส์ครั้งล่าสุด จนได้ฉายา Belle of The Ball จากสื่อทุกสำนักก็เป็นผลงานของ Calvin Klein by Appointment เช่นกัน
นี่คือยุคที่น่าจดจำของ Calvin Klein
![](http://i.share.pho.to/0019e18d_o.jpeg)
หลังจากย้ายมา Calvin Klein ได้ไม่ถึงปี ผลงานของเขาก็นำพาให้ Raf Simons ได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในเจ็ดดีไซเนอร์ของ CFDA ที่คนต้องพูดถึงไปตลอดกาล ไม่นับเม็ดเงินที่หลั่งไหลเข้ามา 8,400 ล้านเหรียญในปี 2016 หรือเกือบ 3 แสนล้านบาท ทำให้ Calvin Klein ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในเครือ PVH ในขณะที่เจ้าของแบรนด์หรือดีไซเนอร์หลายคนกำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำแบรนด์ของตนก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ที่จับต้องได้ยาก ขณะเดียวกัน Raf Simons กลับพยายามดึง Calvin Klein จากฟ้าลงมาสู่พื้นโลกเพื่อให้ปุถุชนคนธรรมดาได้สัมผัส โดยไม่ได้ละทิ้งความหรูหราที่โลกแฟชั่นต้องการอยู่เสมอ การได้รับรางวัล CFDA ถึง 2 สาขารวดในปีนี้จึงเปรียบเหมือนการเดินตามรอยเท้าผู้ก่อตั้งแบรนด์ Calvin Klein ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเหมาะสมของเขาในฐานะผู้นำคนใหม่ของแบรนด์อเมริกันหลังนี้ แม้ว่าทิศทางของเขาในวันนี้กับทิศทางของผู้ก่อตั้งในวันนั้นจะไปในทางตรงกันข้าม แต่ทั้งคู่ได้พาแบรนด์มาสู่จุดหมายเดียวกัน การันตีด้วยรางวัล CFDA ที่ทั้งคู่กวาดมาครองได้แบบเดียวกันเป๊ะ!
ความพิเศษของรางวัล CFDA ที่ Raf Simons ได้ในปีนี้
![]( http://i.share.pho.to/4b6bf45c_l.jpeg)
ในประวัติศาสตร์ของ CFDA มีดีไซเนอร์เพียง 6 คนเท่านั้นที่สามารถคว้ารางวัลใหญ่ไปครองถึง 2 สาขา นั่นคือสาขาเสื้อผ้าผู้หญิงและเสื้อผ้าผู้ชาย เมื่อปี 1990 Donna Karan คือดีไซเนอร์คนแรกที่หอบรางวัลใหญ่ครั้งแรกกลับบ้านไปก่อนและคว้ารางวัลที่สองตามมาในอีก 2 ปีให้หลัง แถมยังซ้ำรางวัลใหญ่อีกครั้งในสาขาเสื้อผ้าผู้หญิงปี 1996 ตามมาติดๆ ด้วย Ralph Lauren ที่กวาดไปถึง 3 รางวัลในปี 1995, 1996 และ 2007 ส่วน Michael Kors เองก็เคยรวบสองรางวัลมาแล้วเมื่อปี 1999 ในสาขาเสื้อผ้าผู้หญิง และปี 2003 ในสาขาเสื้อผ้าผู้ชาย นอกจากนี้ยังมี Marc Jacobs ที่เคยได้ไปถึง 3 รางวัล ตามมาด้วย Tom Ford เจ้าของรางวัล CFDA ถึง 2 ครั้ง ล่าสุดมาถึง Raf Simons ซึ่งเป็นดีไซเนอร์คนที่ 7 แห่งประวัติศาสตร์ที่คว้ารางวัล CFDA ไปครอง 2 สาขารวดนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ใต้ชายคา Calvin Klein ตามรอยผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่เคยควบรางวัลกลับบ้านสองสาขารวดเช่นกันเมื่อปี 1993 และได้รางวัลใหญ่ไปประดับบ้านเพิ่มอีกหนึ่งตอนปี 1999 นั่นหมายความว่าชื่อของ Raf Simons ได้ถูกจดลงในลิสต์ 1 ใน 7 ดีไซเนอร์ที่สามารถควบรางวัลใหญ่ถึงสองสาขา จากดีไซเนอร์หลายร้อยคนที่เคยได้รางวัล CFDA นับแต่ปี 1980 เป็นต้นมา
การย้ายจาก Dior มาที่ Calvin Klein คือการตัดสินใจที่ถูกหรือไม่
![](http://i.share.pho.to/09c1efdd_l.jpeg)
“หลายอย่างผมทำไม่ได้ที่ Dior แต่ที่ Calvin Klein ผมทำได้” Raf Simons เคยให้สัมภาษณ์กับ Amuse ถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจทิ้งเก้าอี้ creative director ในแฟชั่นเฮาส์ที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆ อย่าง Dior มานั่งแท่น chief creative officer ที่ Calvin Klein ดูแลทั้งเสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิง “ทุกคนย่อมอยากทำงานอะไรก็ตามที่เชื่อมโยงกับตัวเองได้ บอกตรงๆ เลยว่าเหตุผลที่ผมเลือกมาดูแล Calvin Klein เป็นเพราะที่นี่มีความหลากหลาย มีทั้งแฟชั่นระดับสูง ระดับกลาง ไปจนถึงติดดินกว่านั้นก็มี นั่นแปลว่าผมจะสามารถเข้าถึงคนทุกคนในโลกนี้ได้ สิ่งที่ผมทำที่นี่ มันไม่สามารถไปทำกับ Dior ได้” ดังนั้นถ้าเป้าหมายของดีไซเนอร์คนนี้คือการเข้าถึงโลกแฟชั่นให้ได้ทุกซอกทุกมุมแล้วล่ะก็ Calvin Klein คือตัวเลือกที่เอื้อให้เขาเดินตามอุดมการณ์ได้อย่างเปิดกว้างที่สุด
Calvin Klein ในยุคของ Raf Simons เป็นอย่างไร?
![](http://i.share.pho.to/c23ea5ef_o.jpeg)
ย้อนกลับไปช่วงปี 1980s และ 1990s สมัยนั้น Calvin Klein นำเสนอโฆษณาชุดชั้นในที่มีหญิงสาวมาดเซ็กซี่และหุ่นสุดเพอร์เฟ็กต์อย่าง Brooke Shields และ Kate Moss เป็นนางแบบ และเพื่อเป็นการพิสูจน์อุดมการณ์ที่เขาเคยประกาศไว้ ทันที่ที่เข้าสู่ยุคใหม่ Raf Simons จัดการปล่อยแคมเปญชุดชั้นในล้างภาพจำแบบเก่าๆ ที่แบรนด์เคยสร้างไว้ในทันที เขากลับเข็มทิศและพาแบรนด์ก้าวไปสู่ทิศทางที่ผู้คนจะเข้าถึงชุดชั้นในของ Calvin Klein ได้มากขึ้นด้วยการเชิญ Lauren Hutton นักแสดงและนางแบบชื่อดังวัย 73 ปี มาเป็นนางเอกของแคมเปญนี้ในชุดชั้นในดีไซน์เรียบๆ และเสื้อเชิ้ตสีขาวสุดคลาสสิก และเชิญ Sofia Coppola ผู้กำกับหญิงเจ้าของรางวัลออสการ์มาลั่นชัตเตอร์ โดยไม่จำกัดว่าคุณจะต้องเป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟ็กต์เท่านั้น ชุดชั้นใน Calvin Klein ถึงจะคู่ควรกับคุณเหมือนที่หลายคนเคยรู้สึก เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายหลักของเขาคือการนำ Calvin Klein ไปสู่ทุกตลาดบนโลกแฟชั่นอย่างไร้เส้นแบ่ง
เหตุผลที่ต้องมี Calvin Klein by Appointment
![](http://i.share.pho.to/c0f2e6a4_o.jpeg)
ได้ชื่อว่าอดีตผู้สร้างสรรค์งานกูตูร์แห่ง Dior คงไม่ปล่อยให้ประสบการณ์เสียเปล่า ในเมื่อมีเสื้อผ้าเรดี้ทูแวร์ที่ใส่ได้ประจำวันแล้ว ก็ต้องมีผลงานเสื้อผ้าชั้นสูง ซึ่งถือเป็นงานถนัดของเขาด้วย ด้วยเหตุนี้ Raf Simons จึงจัดการเปิดตัวบริการใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยมีมาก่อนในแฟชั่นเฮาส์แห่งนี้ นั่นคือบริการสั่งตัดพิเศษแบบส่วนตัว โดยใช้ชื่อว่า Calvin Klein by Appointment ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ขั้นตอนพูดคุยตอนเซ็ปต์ วัดตัว ออกแบบ ไปจนถึงการตัดเย็บ ในทุกขั้นตอนคุณจะมี Raf Simons คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ผลลัพธ์คือแบรนด์นี้กลายเป็นที่พึงปราถนาแห่งใหม่ของเซเลบริตี้และคนดังทั่วโลก อย่างชุดเดรสผ้าทูลล์สีขาวซ้อนผ้ากว่า 70 ชั้นที่ Nicole Kidman ใส่อวดโฉมบนพรมแดงเมืองคานส์ครั้งล่าสุด จนได้ฉายา Belle of The Ball จากสื่อทุกสำนักก็เป็นผลงานของ Calvin Klein by Appointment เช่นกัน
นี่คือยุคที่น่าจดจำของ Calvin Klein
![](http://i.share.pho.to/0019e18d_o.jpeg)
หลังจากย้ายมา Calvin Klein ได้ไม่ถึงปี ผลงานของเขาก็นำพาให้ Raf Simons ได้ก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในเจ็ดดีไซเนอร์ของ CFDA ที่คนต้องพูดถึงไปตลอดกาล ไม่นับเม็ดเงินที่หลั่งไหลเข้ามา 8,400 ล้านเหรียญในปี 2016 หรือเกือบ 3 แสนล้านบาท ทำให้ Calvin Klein ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในเครือ PVH ในขณะที่เจ้าของแบรนด์หรือดีไซเนอร์หลายคนกำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำแบรนด์ของตนก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ที่จับต้องได้ยาก ขณะเดียวกัน Raf Simons กลับพยายามดึง Calvin Klein จากฟ้าลงมาสู่พื้นโลกเพื่อให้ปุถุชนคนธรรมดาได้สัมผัส โดยไม่ได้ละทิ้งความหรูหราที่โลกแฟชั่นต้องการอยู่เสมอ การได้รับรางวัล CFDA ถึง 2 สาขารวดในปีนี้จึงเปรียบเหมือนการเดินตามรอยเท้าผู้ก่อตั้งแบรนด์ Calvin Klein ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเหมาะสมของเขาในฐานะผู้นำคนใหม่ของแบรนด์อเมริกันหลังนี้ แม้ว่าทิศทางของเขาในวันนี้กับทิศทางของผู้ก่อตั้งในวันนั้นจะไปในทางตรงกันข้าม แต่ทั้งคู่ได้พาแบรนด์มาสู่จุดหมายเดียวกัน การันตีด้วยรางวัล CFDA ที่ทั้งคู่กวาดมาครองได้แบบเดียวกันเป๊ะ!
WATCH