FASHION

2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่จากอิตาลีซื้อบริษัททอผ้าแคชเมียร์ เพื่อรักษาสายการผลิตในประเทศ

เมื่อระบบครบวงจรมากขึ้น นิยามความสมบูรณ์แบบจึงไม่ได้หยุดอยู่แค่การทำเสื้อผ้าให้ดีที่สุด แต่หมายถึงการพัฒนาเบื้องหลังการผลิตด้วย

     Prada Group และ Ernemegildo Zegna Group บริษัทแม่ของแบรนด์ดังภายใต้ชื่อเดียวกันนั้นดำเนินการซื้อกิจการบริษัทผลิตผ้าแคชเมียร์และสิ่งทอประณีตท้องถิ่นเพื่อปกป้องสายการผลิตในประเทศอิตาลี โดยทั้ง 2 บริษัทถือเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในวงการแฟชั่นที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์บางอย่างให้เกิดขึ้นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ดังนั้นกลายเคลื่อนไหวด้านธุรกิจนี้จึงมีนัยยะสำคัญซ่อนอยู่มากมาย และกลายเป็นต้นแบบของเทรนด์ใหม่ที่มีละเอียดอ่อนกว่าแค่การนำเสนอแฟชั่นอย่างสวยงามในฉากหน้า

เบื้องหลังการทอผ้าคุณภาพสูงของ Filati Biagioli Modesto SpA / ภาพ: Filati Biagioli Modesto

     ทั้งปราด้าและเซนญ่าจับมือกันซื้อหุ้นบริษัท Filati Biagioli Modesto SpA ซึ่งถือเป็นบริษัทที่มีความโดดเด่นอย่างมากในเรื่องผ้าแคชเมียร์ โดยแต่ละแบรนด์จะได้แบ่งจำนวนหุ้นกันที่ฝั่งละ 40 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์จะแบ่งเป็นของครอบครัวผู้ก่อตั้ง 15 เปอร์เซ็นต์ และอีก 5 เปอร์เซ็นต์เป็นของ Renato Cotto ผู้คร่ำวอดในแวดวงสิ่งทอของประเทศอิตาลี เป้าหมายหลักของผู้ถือหุ้นหลักรายใหม่ไม่ใช่แค่การทำกำไรอย่างท่วมท้นจากบริษัท แต่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการการผลิตผ้าที่มีคุณภาพสูงสุดและให้ความสำคัญกับสายการผลิตเฉพาะทางจากพื้นที่ท้องถิ่นมากขึ้น

การจัดแสดงตัวอย่างผ้าของ Filati Biagioli Modesto SpA ที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญและความหลากหลายในการรังสรรค์ผลงาน / ภาพ: October.eu

     ตอนนี้เหมือนกับว่าแบรนด์แฟชั่นต้องการพัฒนาในรูปแบบครบวงจรมากขึ้น รวมถึงควบคุมสายการผลิตให้อยู่ในประเทศนั้นๆ เพื่อรักษาคุณภาพและเอกลักษณ์ต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน เซนญ่าเองก็โดดเด่นเรื่องผ้าเป็นทุนเดิม ดังนั้นการขยายเส้นทางส่วนนี้ยิ่งทำให้แบรนด์สามารถรักษาเสถียรภาพความมั่นคงไปพร้อมกับสนับสนุนการเดินหน้าของบริษัทสิ่งทอทั่วทั้งอิตาลี ปราด้าก็มีงานออกแบบเสื้อผ้าแคชเมียร์ที่น่าดึงดูดมาตลอดหลายทศวรรษ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จึงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแบรนด์แฟชั่นเริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพไปพร้อมกับรักษามาตรฐานการผลิตผ่านองค์กรภายในประเทศ อีกทั้งยังส่งเสริมให้แบรนด์แฟชั่นอื่นๆ สนับสนุนคนท้องถิ่นด้วยกันเองมากขึ้น ถือเป็นตัวอย่างวิสัยทัศน์ของผู้บริหารองค์กรแฟชั่นยุคใหม่ที่เดินหน้าอย่างเป็นระบบโดยให้ความสำคัญต่อทุกกระบวนการอย่างแท้จริง

 

ข้อมูล:

wwd.com

yahoo.com

ugolini.co.th



WATCH




WATCH