นิวยอร์กแฟชั่นวีกกำลังจะกลับมาอีกครั้งพร้อมคอนเซปต์ใหม่ล่าสุด!

     หลังจากเชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดก็สร้างความปั่นป่วนให้กับปฏิทินแฟชั่นทั้งโลก นิวยอร์กซึ่งเป็น 1 ใน 4 หัวเมืองใหญ่ด้านแฟชั่นได้รับผลกระทบโดยตรงจนต้องเลื่อนตารางกันอย่างปั่นป่วน แบรนด์มากมายหันมานำเสนอคอลเล็กชั่นในรูปแบบของตัวเอง ภายใต้ปฏิทินเฉพาะตัวไม่อิงตามแฟชั่นวีกแต่อย่างใด หลายคนจึงคาดการณ์ว่าหรือนี่จะเป็นความปกติรูปแบบใหม่ที่นิวยอร์กแฟชั่นวีกต้องเผชิญและโดนตั้งคำถามว่าจะได้รับความสนใจจากแบรนด์ต่างๆ น้อยลงหรือไม่ วันนี้นิวยอร์กแฟชั่นวีกประกาศกลับมาแล้วและมีแบรนด์หวนกลับมาโชว์ในปฏิทินนี้อีกครั้ง พร้อมทั้งมีคอนเซปต์ใหม่มานำเสนอให้สาวกแฟชั่นทั่วโลกได้ชมอีกด้วย

สีสันจากแบรนด์ LaQuan Smith ที่เราจะได้เห็นในนิวยอร์กแฟชั่นวีกครั้งต่อไป / ภาพ: @laquan_smith

     ตอนนี้ IMG องค์กรผู้จัดนิวยอร์กแฟชั่นวีกประกาศอย่างชัดเจนว่าพวกเขาจะกลับมาในช่วงต้นเดือนกันยายนเพื่อเปิดพื้นที่ให้แบรนด์นำเสนอคอลเล็กชั่นสำหรับปี 2022 ในปฏิทินที่คุ้นเคย โดยแบรนด์ดังที่ยืนยันแล้วว่าจะกลับมาเผยโฉมคอลเล็กชั่นที่นี่คือ Rodarte, Telfar, Prabal Gurung, Altuzarra และอีกหลายต่อหลายแบรนด์ รวมถึงแบรนด์ LaQuan Smith แบรนด์มาแรงขวัญใจเซเลบริตี้บ้าน Kardashian/Jenner ที่จะมาโลดแล่นในสัปดาห์แฟชั่นแห่งมหานครนิวยอร์กด้วยคอนเซปต์ “See-Now, Buy-Now” ซึ่งเป็นการกลับมาของแฟชั่นฉบับเร็วจี๋ที่ได้โอกาสทดลองกลไกใหม่อีกครั้งในโลกแฟชั่นยุคหลังโควิด และนอกจากนี้โปรเจกต์แฟชั่นวีกครั้งใหม่ยังมีการเซ็นสัญญากับสปอนเซอร์ใหม่อย่าง After Pay ซึ่งเป็นบริษัททางการเงินที่มีจุดขายสำคัญคือ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” ที่จะมาเปลี่ยนแปลงวิถีการช็อปของคนแฟชั่นยุคใหม่อีกด้วย

การนำเสนอโชว์บนโลกเสมือนของ Raisa Vanessa ในปฏิทินนิวยอร์กแฟชั่นวีกปี 2020 / ภาพ: @nyfw

     เป้าหมายสำคัญของการกลับมาครั้งนี้คือความต้องการในการรวมกลุ่มดีไซเนอร์ให้แน่นแฟ้นกลมเกลียวอีกครั้งในรูปแบบปฏิทินแฟชั่นฉบับดั้งเดิม ทางไอเอ็มจีเองก็พร้อมสนับสนุนด้านการลงทุนและการตลาดครั้งนี้อย่างจริงจังเพื่อดึงดูดให้แบรนด์กลับมาสู่ระบบแฟชั่นที่คุ้นเคย และการประกาศครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลแค่กับวงการแฟชั่น เพราะนิวยอร์กแฟชั่นวีกเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้านความสวยงามและศิลปะของเมืองแอปเปิ้ลยักษ์อีกด้วย เมื่อสถานการณ์ในหลายพื้นที่เริ่มผ่อนคลายลงก็ถึงเวลาแล้วที่โลกแฟชั่นจะได้เดินหน้าขับเคลื่อนกันอย่างเต็มที่อีกครั้ง

 

ข้อมูล: WWD, NYFW, CFDA