เจ้าแห่งการคอลแลบกับดารา! NVENVY แบรนด์แว่นตาไทยที่ดึงตัวตนคนดังมาสร้างเทรนด์

ภาพ: สุดเขต จิ้วพานิช

     เป็นที่นิยมกันขึ้นเรื่อยๆ สำหรับแบรนด์แว่นตากันแดดคุณภาพพรีเมียม NVENVY ที่ก่อตั้งโดยคู่รัก 2 สัญชาติ กิฟท์ - ลลิดา เพริศวิวัฒนา โช ทายาทหนึ่งในผู้ก่อตั้งเสื้อตราห่านคู่ที่คนไทยทั้งประเทศเป็นต้องรู้จัก และซองแล โช ทายาทผู้ผลิตแว่นตาคุณภาพแห่งเกาหลีใต้ จากจุดเริ่มต้นการทำแบรนด์ในปี 2015 และผ่านไปเพียง 2 ปีเท่านั้น ในที่สุดทั้งคู่ก็สามารถพาแว่นตาสัญชาติไทยยี่ห้อนี้ไปอวดโฉมในระดับโลก ณ งาน SILMO Paris ปีที่ผ่านมา นับเป็นก้าวสำคัญของวงการแฟชั่น...โดยเฉพาะวงการแว่นตาไทยที่น้อยคนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะว่าไปแล้ว NVENVY ถือเป็นแบรนด์แว่นที่ขยันคอลแลบกับบรรดาคนดังมากที่สุดไม่ว่าจะ วุ้นเส้น - วิริฒิพา ภักดีประสงค์, ฮิวโก้ - จุลจักร จักรพงษ์, วู้ดดี้ - วุฒิธร มิลินทจินดา, เวย์ ไทเทเนียม มาดูกันว่ากลยุทธแบบนี้คือเบื้องหลัง ความสำเร็จของพวกเขารึเปล่า?

 

มองวงการแว่นตาไทยตอนนี้เป็นยังไง แบรนด์ของเราแตกต่างตรงไหน

โช: ถ้าเดินดูแว่นตาในไทยตอนนี้ ผมสังเกตว่าหลายๆ ร้านเหมือนก๊อปปี้สไตล์มาจากไฮแบรนด์หรือตามแต่เทรนด์ดังๆ จนมีประมาณห้าหกเจ้าที่ขายแว่นตาคล้ายๆ กัน ซึ่งมันน่าเบื่อ ถ้าพูดตรงๆ ผมมองว่าส่วนใหญ่ที่ไทยจะยังไม่ค่อยมีดีไซน์เป็นของตัวเองเท่าไหร่

สำหรับตัวแบรนด์ของเรา พอได้ร่วมงานกับคนเยอะขึ้นก็รู้สึกว่าสไตล์มันมีหลากหลายมากจนแทบไม่ซ้ำ ในแต่ละครั้งที่คอลแลบกับดารา เราก็จะดึงคาแร็คเตอร์แต่ละคนเข้ามาเจอกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ NVENVY เหมือนรุ่นที่มีโซ่ (จากคอลเล็กชั่นที่ทำกับ เวย์ ไทเทเนียม) ถ้าให้ผมคิดเองก็คงไม่ได้แบบนั้นแน่ๆ การทำโปรเจคท์กับดาราจึงเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์จริงๆ 

มีเซเลบริตี้คนไหนที่เราฝันอยากร่วมงานด้วยอีกบ้าง

กิฟท์: คือเราจะมีไอเดียของคนที่เราอยากทำงานด้วยตลอด จริงๆ ไม่ถึงกับฝันว่าอยากทำกับใครแต่จะชอบคนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมากกว่า เพราะสไตล์ของเขาจะมาช่วยเติมเต็มคอลเลคชั่นของเรา เหมือนไอเดียใหม่ๆ เข้ามา

อย่างคอลเล็กชั่นที่ทำกับฮิวโก้ ไอเดียของเขามีอะไรบ้าง

กิฟท์: คุณฮิวโก้จะมีไอเดียเยอะมากๆ รุ่นแรกจะออกแนวเรโทรช่วงยุค 60 - 70’s ไม่ใช้เลนส์ปรอท จะเป็นเลนส์สีๆ ที่สามารถมองเห็นตาได้ เขาก็เอาสีสนุกๆ มาเล่น อย่างเลนส์สีแดง สีส้มที่ใช้ชื่อเท่ว่า Tequila Sunset แล้วก็สีฟ้า คึอลเล็กชั่นนี้ลูกค้าก็ชอบกันมาก อีกรุ่นนึงคือรุ่น Biker จะเป็นแนวแว่นกันแดดสำหรับนักขี่มอเตอร์ไซค์เลย ผู้ชายปลื้มกันมาก ตัวภาพโปรโมตเราก็นำไปถ่ายกับพวกรถฮาร์เลย์ กลายเป็นอีกแนวที่ไม่ใช่แนวที่เราทำอยู่เลยแต่จะโชว์ความเป็นตัวตนของคุณฮิลโก้เอง กลายเป็นเราได้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

 

1 / 7

2 / 7

3 / 7

4 / 7

5 / 7

6 / 7

7 / 7

คอลเล็กชั่นที่ทำกับวูดดี้

กิฟท์: พี่วูดดี้เขาอยากทำแว่นตาทรงกลมที่ใส่ได้กับทุกทรงหน้า และมีความคลาสสิกให้ใช้ได้นานๆ ก็เลยจะให้ความสำคัญในเรื่องความสมมาตรของความกลมเป็นพิเศษ ต้องเป็นไซส์ที่พอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ไม่ว่ารูปหน้าไหนใส่ก็สวยได้ ก็เลยต้องนำมาออกแบบกันประมาณนึง อีกไิเดียคือพี่วู้ดดี้อยากให้มีลูกเล่นตรงบริเวณขาแว่น เราก็ทำเป็นสปริงขึ้นมา พอสวมแล้วน้ำหนักจะถ่วงไปด้านหลังทำให้ด้านหน้าจะมีน้ำหนักเบาจนรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่

เรียกได้ไหมว่าสไตล์ของแว่นตา NVENVY คือการให้ดารามาช่วยคิด

กิฟท์: ใช่ค่ะ เราชอบแบบนี้ บางคนมองว่าเราเอาชื่อเค้าไปใช้ แต่จริงๆ คืออยากให้เขามามีส่วนร่วมจริงๆ เราจะได้เห็นอะไรในแบบใหม่จากคนที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง เราชอบทำงานแบบนั้นมากกว่า

โช: เวลาทำงานด้วยกันเราไม่ได้เอาชื่อเขามาอย่างเดียว ต้องเจอกันไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้งเพื่อคุยเรื่องแบบโดยเฉพาะ อย่างคุณวุ้นเส้นก็เจอกันประมาณ 4-5 รอบแล้วเพราะเขาอยากเลือกสีด้วยตัวเอง

เอาผลงานไปโชว์ที่ SILMO Paris ที่ปารีสได้ไง

กิฟท์: ตั้งแต่เราคอลแลบกับ ZEISS แบรนด์ท็อประดับโลกเรื่องเลนส์ก็ทำให้ต่างชาติรู้จักเรามากขึ้น จนทาง SILMO ก็มาเชิญเราให้เราไปร่วมโชว์ผลงานที่นั่น ซึ่งพอดีกับที่ SILMO ครบรอบ 50 ปีก็เลยมีการคัดเลือกแบรนด์ที่น่าจับตามอง ซึ่ง NVENVY ก็ได้อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย พอรู้ว่าจะได้ไปงานนี้เลยทำแว่นตารุ่นพิเศษโดยเฉพาะ ผลตอบรับที่ได้กลับมาก็ดีมาก ได้ลูกค้ากลุ่มใหม่จากทั้งฝั่งเอเชียและยุโรป

อีกความภูมิใจคือเราเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรกที่ได้ไปงานนี้ จริงๆ แล้ว SILMO จัดขึ้นในหลายประเทศ ทั้งซิดนีย์,  อิสตันบูล, กรุงเทพ แต่ถ้าจะยิ่งใหญ่และเป็นตำนานจริงๆ ต้องเป็นที่ปารีส เรียกได้ว่ามันคือแฟชั่นวีคของวงการแว่นตาเลย 

โดนก็อปปี้บ้างไหม

กิฟท์: ล่าสุดไปเจอมาเองเลย แว่นตารุ่นที่ทำกับพี่เวย์ก็มีคนก๊อปแล้ว รุ่ยที่ทำกับพี่วู้ดดี้ก็ได้ยินมาว่ามีคนก๊อปแล้วเหมือนกันแต่ยังไม่รู้ว่าเขาขายอยู่ที่ไหน เรามองว่าแบรนด์เราคงดัง สินค้าเราก็คงสวย เราไม่ได้โกรธนะ ตัวศิลปินที่ทำกับเราเองก็บอกว่าไม่ได้คิดอะไร ให้ปล่อยไป แต่จริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อยากฝากผ่านโว้กถึงพวกเขาว่า ถ้าจะก็อปแล้วเพิ่มอะไรที่ดีขึ้นก็คงจะดูดีกว่าการก๊อปไปเฉยๆ ลองเอาไปประยุกต์อะไรนิดนึง เพิ่มอะไรใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคจะดีกว่านะ