FASHION

คนไทยหนึ่งเดียว! อีกครั้งที่ ณิชาภัทร เหยียบพรมแดง Met Gala กับชุดสุดพีคของดีไซเนอร์ญี่ปุ่น

บทเรียนจากปีก่อนสอนให้เธอรู้ว่า…อย่าเซลฟี่

ในปีที่งานเมท กาล่า หรืองานกาล่าที่ได้ชื่อว่าเป็นออสการ์แห่งวงการแฟชั่นมาในธีม CAMP เชิดชูเฉลิมฉลองให้กับความเป็นตัวของตัวเอง จะน่าเกลียดและเกินจริงก็แล้วแต่ ทุกอย่างถูกปรับมุมมองเสียใหม่ให้กลายเป็นของดีของงามตามยุคสมัย ปีนี้เป็นปีที่สองแล้วที่ ป่าน-ณิชาภัทร สุภาพ คนไทยเพียงหนึ่งเดียวได้จดหมายตอบรับให้เข้าร่วมงานอีกครั้ง หลังจากปีที่แล้วเธอปรากฏตัวบนพรมแดงในชุดสีม่วงที่กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในชั่วข้ามคืน 

 

“ไปร่วมงานเมท กาล่าปีแรก ต้องบอกว่าเราประสบความสำเร็จมากทั้งในแง่ของคนไทยที่ให้ความสนใจ และความประทับใจที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองจากการที่ได้เข้าไปสัมผัสภายในงาน ก็เลยมีความตั้งใจว่าอยากจะไปให้ครบทุกปี ถึงแม้ว่าเมทจะเป็นงานที่มีค่าใช้จ่ายเยอะก็จริง แต่มันก็เป็นอะไรที่เอ็กซ์คลูซีฟมาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เข้า มีคนมากมายที่พร้อมจ่ายค่าตั๋ว อยากมาร่วมงาน แต่ก็ไม่มีโอกาส ในเมื่อเราได้รับโอกาสนี้ก็ต้องใช้มันให้เต็มที่” ณิชาภัทรเล่าถึงประสบการณ์ปีก่อนที่เธอขอเรียกมันว่าเป็น “ความสำเร็จ” หลังจากได้ทำความฝันที่รอคอยมานานให้เป็นจริง

 

ณิชาภัทร สุภาพ ในชุดของ Tomo Koizumi บนพรมแดง Met Gala 2019

 

“การเตรียมตัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าเราจะไปงานอะไรก็ตาม หรือทำอะไรก็ตาม” แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลากหลาย แต่งานเมทปีก่อนสำหรับณิชาภัทร เธอยืนยันว่าเตรียมตัวไปเป็นอย่างดี และเธอโอบรับทุกคำติชมว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับเธอ “ปีที่แล้วเราถือว่าเราเตรียมตัวไปดีมากเลยนะ สำหรับเราแล้วเรารู้สึกว่า รูปมันออกมาดี ชุดก็ออกมาดี ฟีดแบ็กออกมาดี”

 

ช่างภาพ : Matteo Plandoni / ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ : Silvia Mella

 

อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงไม่น้อยไปกว่าชุดและการเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เหยียบพรมแดงเมท คือเรื่องของตั๋วค่าเข้างานที่เธอลงทุกควักกระเป๋าหลักล้านเมื่อปีก่อน “ปีนี้เสียค่าเข้าแพงกว่าเดิมอีกค่ะ ค่าเข้าปีนี้เราจ่ายไปถึง 40,000 เหรียญ” หรือราวๆ 1.3 ล้านบาท!

 

“ด้วยความที่เป็นปีที่สองแล้วสำหรับเรา เราก็เลยไม่ได้ตื่นเต้นเท่ากับปีแรก อย่างปีก่อนเราเคร่งเครียดกับตัวเองมาก คุมอาหารโหด ของมันของทอดงดหมด แต่ปีนี้เราผ่อนคลายมากขึ้น กินได้ตามสมควร ไม่เคร่งกับตัวเองมาก อย่างปีก่อนเราไปเข้าคอร์สลดน้ำหนักจริงจังเลย แต่ปีนี้ก็ออกกำลังกายนะคะแค่ไม่ได้หักโหม เราว่าเอาตามสภาพที่เราแฮปปี้ดีกว่า ไม่ได้กดดันตัวเองจนเกินไปเหมือนปีที่แล้ว”

 

ช่างภาพ : Matteo Plandoni / ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ : Silvia Mella

 

บทเรียนจากปีก่อนสอนให้เธอรู้ว่า…อย่าเซลฟี่! “พอเข้าไปในงานเรารู้เลยว่าไม่ควรใช้โซเชียลมีเดียเยอะ เพราะอย่างที่บอกว่างานนี้เขาเอ็กซ์คลูซีฟ สิ่งที่เกิดขึ้นข้างในงานเขาจะไม่ให้เล็ดลอดออกมาเลย เพราะทุกคนที่มาในงานต้องมีความเป็นส่วนตัว ดาราและเซเลบริตี้ทุกคนที่มาจะต้องสนุกได้เต็มที่ ดังนั้นเขาไม่อนุญาตให้ถ่ายวิดีโอหรือสตอรี่ใดๆ ทั้งสิ้น”

 

เมื่อพูดถึงธีมของงานเมทปีนี้ซึ่งถือได้ว่าเป็นธีมที่สนุกที่สุดในรอบทศวรรษ “คำว่า CAMP สำหรับเรามันยากมาก เพราะแคมป์มันตีความได้เยอะมาก มันแปลว่าอะไรได้หลายอย่าง แปลว่าเกย์ แปลว่าเล่นใหญ่ แปลว่าเสียดสี คือความหมายมันลื่นไหล พอเราเห็นตัวอย่างจากภาพในมู้ดบุคของงานก็รู้สึกได้เลยว่าเป็นธีมที่ยาก แต่พอเอามาตีความดูอีกทีแล้วเราก็ได้ไอเดียว่าจริงๆ แล้วเราทำในแบบของเราได้” 

 

ช่างภาพ : Matteo Plandoni / ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ : Silvia Mella

 

ความฮือฮาที่สุดของปีนี้คือการที่ณิชาภัทรเยือนพรมแดงเมทในชุดของดีไซเนอร์ญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงที่สุดในอุตสาหกรรมแฟชั่นโลกอย่าง Tomo Koizumi “เราเพิ่งได้รับการคอนเฟิร์มจากทางผู้จัดงานเมทเมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เองว่าเราได้เข้างานปีนี้นะ ซึ่งช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่ดีไซเนอร์เขาจัดโชว์กันไปหมดแล้ว สัปดาห์กูตูร์ก็ผ่านไปแล้ว เราก็มานั่งคิดว่าจะเอาอย่างไรดีกับชุด หรือจะบินไปดูชุดที่ลอนดอน จะนัดคุยกับดีไซเนอร์คนไหนที่ปารีสดีไหม เรานั่งคิดกับตัวเอง แล้วอยู่ดีๆ เปิดอินสตาแกรมก็เห็นโชว์ของโทโมะที่ตอนนั้นเป็นกระแสมาก มาแรงมาก ใครๆ ก็พูดถึงเขา นางแบบดังระดับโลกอย่างเบลล่า ฮาดิด หรือเอมิลี่ ราทาจโคว์สกี้ก็เดินแบบให้เขา แล้วเราก็รู้สึกว่าสไตล์เสื้อผ้าเขาตรงกับธีมดี สุดท้ายเลยลงเอยที่ชุดของโทโมะ โคอิสุมิ ค่ะ”

 

ช่างภาพ : Matteo Plandoni / ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ : Silvia Mella

 

และแม้ว่าตอนนี้โทโมะ โคอิสุมิจะเป็นดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นที่กำลังเนื้อหอมที่สุด แต่ณิชาภัทรเล่าว่าการทำงานด้วยกันนั้นราบรื่นเกินคาด “เชื่อไหมว่าเราอีเมลไปหาเขาหลังจากวันที่เขาจัดโชว์ (ใช่แล้ว! โชว์ที่คนพูดถึงกันทั้งโลก) ตกใจมากเพราะเขาตอบรับทันที ก็นัดเจอกัน โทโมะเป็นคนที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนที่สุดคนหนึ่งที่เราเคยเจอ แล้วก็เป็นคนใจดีมาก ทั้งที่เขาเป็นดาวดังของวงการตอนนี้แต่เขาไม่ถือตัวแม้แต่น้อย เราตกลงกันว่าจะตัดชุดขึ้นมาใหม่สำหรับงานนี้เลย ไม่ได้เป็นชุดที่มีอยู่ในคอลเล็กชั่น เหตุผลเพราะเราไม่ใช่นางแบบ หุ่นเราไม่ได้สูง 6 ฟุต ดังนั้นโทโมะเลยต้องออกแบบชุดใหม่ที่ทำเพื่อเราโดยเฉพาะ”

 

 ช่างภาพ : Matteo Plandoni / ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ : Silvia Mella

 

ป่าน-ณิชาภัทร คือคนแรกในโลกและคนเดียวที่สวมชุดตัดพิเศษของโทโมะ โคอิสุมิในงานเมท กาล่า ซึ่งมีผลงานถึง 2 ชุดจัดแสดงภายในนิทรรศการ “ตื่นเต้นมากที่ได้เป็นคนแรก ซึ่งจริงๆ แล้วการทำงานของเราทั้งคู่ค่อนข้างที่จะละเอียดเลยค่ะ โทโมะต้องทำสเกตช์เยอะมาก สุดท้ายแล้วเราจบดีไซน์ที่สเกตช์ที่ 10 ซึ่งถือว่าเป็นการแก้สเกตช์ที่จุกจิกมาก คิดว่าหลังจบงานนี้เขาอาจจะเกลียดเราไปเลย (หัวเราะ) เรารบกวนเขาเยอะมากแล้วเขาก็อดทนมาก จำได้เลยตอนที่ส่งสเกตช์ที่ 10 โทโมะบอกว่า ‘นี่จะเป็นสเกตช์สุดท้ายที่ผมจะทำให้’ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ลงตัวกับเราพอดี”

 

ภาพสเกตช์ชุดสำหรับงานเมท กาล่าของณิชาภัทร โดย Tomo Koizumi 

 

คำอธิบายภาพ: แฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่น Fall 2019 ของ Tomo Koizumi ที่เปิดตัวในนิวยอร์กแฟชั่นวีก

 

คนที่ติดตามแฟชั่นและรู้จักผลงานของโทโมะ โคอิสุมิคงทราบดีว่านอกจากระบายนับร้อยนับพันชั้นแล้ว สีสันหลายสิบเฉดที่ถูกจับมาเขย่ารวมกันซื่อๆ ก็เป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ที่ทำให้โลกจดจำแบรนด์นี้ได้ขึ้นใจ “เรื่องสีเป็นอะไรที่ยากมากเหมือนกัน เพราะโทโมะเขาเด่นเรื่องสีสันที่เยอะ เราก็กลัวว่ามันจะกลายเป็นผ้า 3 สีที่เขาผูกต้นไม้อีก ก็เลยต้องแก้เรื่องสีกันหลายรอบ ส่วนความยาวของกระโปรงถ้ายาวไปมันก็จะดูเป็นคัพเค้กอีก ก็เลยขอแบบกึ่งสั้นกึ่งยาว จึงออกมาเป็นชุดที่เห็นกัน ซึ่งเป็นแบบที่ลงตัวและเป็นตัวเรามากที่สุด”

 

ช่างภาพ : Matteo Plandoni / ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ : Silvia Mella

 

และไม่ว่ากระแสคำวิจารณ์จะออกมาเป็นอย่างไร ณิชาภัทรเตรียมตัวรับมือเป็นอย่างดี “อย่างที่บอกไปตั้งแต่ปีก่อนในเรื่องของคอมเมนต์ ใครจะพูดอย่างไรเราไม่ได้แคร์ อย่างชุดนี้ก็รู้นะว่ามีคนด่าแน่นอน ต้องมีคนแซะว่าเป็นผ้า 3 สีผูกต้นไม้ เป็นขนมถ้วยฟู หรืออะไรก็ว่าไป แต่งานเมททุกปีมันมีธีมของมัน และคนไทยต้องศึกษาข้อมูลนิดหนึ่งว่าธีมเขาคืออะไร ซึ่งเราก็แต่งไปตามธีม อย่างปีนี้ด้วยความ CAMP มันก็ต้องมีความเป็นแฟนซีอยู่แล้ว แล้วที่สำคัญคือเราไม่ใช่ดารา เราไม่ได้มีภาพจำที่ต้องห่วง ดังนั้นเราใส่อะไรแล้วมีความสุขเราก็ใส่” ในขณะเดียวกันมีกลุ่มคนไม่น้อยที่มองว่าเธอคนนี้คือแรงบันดาลใจ “ถ้าเรามีความฝันและตั้งใจจริง ไม่ช้าก็เร็วสักวันมันต้องเป็นจริงแน่นอน มันอาจจะใช้เวลามากกว่าคนอื่น หรือมากกว่าที่เราคิด ท้อได้แต่อย่าถอย ให้คนอื่นหมดหวังในตัวเราได้แต่เราอย่าหมดใจกับตัวเอง” 

 

 ช่างภาพ : Matteo Plandoni / ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ : Silvia Mella

 

ณิชาภัทรทิ้งท้ายถึงแฟชั่นที่เธอเลือกแล้วถึงแม้ไม่ถูกใจใครหลายคนว่า “สุดท้ายแล้วแฟชั่นมันคือความกล้า กล้าที่จะทำ กล้าที่จะเสี่ยง แล้วสนุกไปกับมัน เพราะฉะนั้นถ้าเราสนุกแล้วทุกอย่างมันก็ส่งให้เรามั่นใจ กระแสจะบวกหรือลบก็ว่ากันไปตามความคิดของแต่ละคน เราไม่ได้ไปประกวดนางงาม ไม่ได้ไปเป็นตัวแทนของประเทศไทย เงินเราก็จ่ายเอง ชุดเราก็เลือกเอง ดังนั้นคอมเมนต์ต่างๆ มันไม่ได้มีผลกับเราขนาดนั้น” ณิชาภัทรเปิดใจว่าเธอทราบดีว่าการให้สัมภาษณ์ด้วยคำพูดที่ตรงขนาดนี้อาจมีผลลบ แต่เธอยังยืนยันอย่างจริงใจและตรงไปตรงมาว่า “เขียนไปเถอะ ไม่ว่ากัน”

WATCH