|
FASHION
ตีแผ่เหตุผลที่สำนักเซียนทั่วโลกยก 'ฟ้าใส-ปวีณสุดา' เป็นเต็งหนึ่งในการคว้ามงปีนี้
|
กระแสของมิสยูนิเวิร์สปี 2019 นี้ร้อนแรงมากโดยเฉพาะในประเทศไทยเพราะ ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น ตัวแทนนางงามสาวไทยผู้ชนะการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์จะบิดลัดฟ้าไปประกวดรอบสุดท้ายในช่วงคืนวันอาทิตย์ตามเวลาในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาหรือช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาในประเทศไทย แต่ที่ทำให้คนไทยเฝ้าติดตามกันแบบไม่พลาดแม้แต่ความเคลื่อนไหวเดียวคือฟ้าใสขึ้นแท่นตัวเต็งเบอร์ต้นๆ ของโลก หลายฝ่ายวิเคราะห์และเห็นตรงกันว่าอย่างน้อยๆ มีสิทธิ์อยู่ใน 3 อันดับแรก หรือดีไม่ดีจะคว้ามงกุฎนางงามจักรวาลไปครอง วันนี้เราจะมาดูเหตุผลประกอบกันว่าทำไมสาวไทยคนนี้ถึงเป็นตัวเต็งในสายตาคนทั้งโลก
ภาพ: Miss Universe
ถ้าจะเกริ่นต้องบอกว่าเป็นประจำทุกปีที่การประกวดนางงามจะถูกวางตัวเต็งและราคาต่อรองในเว็บพนันถูกกฎหมายในต่างประเทศ งานนี้ฟ้าใสขึ้นแท่นราคาต่อรองเป็นอันดับที่ อัตรา ½ หรือแทง 1 จ่าย 2 (รวมทุน) ถือเป็นอัตราต่อรองที่จ่ายต่ำมาก เพราะจากนางงามทั่วโลกนั้นมีจำนวนไม่น้อย การที่คนจะยอมเสียเงินเพื่อให้ได้เงินเพิ่มขึ้นเพียงเท่าตัวเดียวนั้นอาจจะไม่คุ้มเสี่ยง สถาบันการพนันถูกกฎหมายกล้าเปิดราคาต่อรองล่อใจขนาดนี้ก็ทำเอาแฟนนางงามคนไทยใจชื้นไม่น้อยว่าอาจจะสิ้นสุดการรอคอยกว่า 31 ปีที่สาวไทยห่างหายมงกุฎเวทีนี้ไปนานเสียที
ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น ในปี 2017 / ภาพ: @paweensuda
บทวิเคราะห์นี้อ้างอิงจากหลากหลายเว็บไซต์คาดการณ์ เว็บไซต์พนันถูกกฎหมาย รวมถึงข้อเท็จจริงที่ถูกวิเคราะห์จากกรอบวัฒนธรรมและเทรนด์โลกที่ผู้เขียนคำนึงถึงเกี่ยวกับการประกวด เริ่มประเด็นแรกกันที่นิยามความสวยกันก่อนคือเรื่องประสบการณ์ ถึงแม้ฟ้าใสจะก้าวเข้ามาประกวดเวทีนี้เป็นครั้งที่ 2 กว่าจะได้มงกุฎ แต่ช่วงชีวิตก่อนหน้าเธอประกวดมาหลายต่อหลายเวทีแต่ที่โดดเด่นที่สุดคือมิสเอิร์ธไทยแลนด์ปี 2017 กรุยทางไปสู่การได้ลำดับที่ 8 ในการประกวดมิสเอิร์ธปีเดียวกัน ถือเป็นการก้าวสู่ระดับอินเตอร์เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์จนมีภาษีเหนือกว่าคนอื่น มากไปกว่านั้นในปีดังกล่าวเธอยังได้ตำแหน่งรองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์พร้อมควบรางวัล “Miss Smile” อีกด้วย ด้วยดีกรีการเดินสายประกวดขนาดนี้หลายสำนักเซียนจึงยกให้เธอเป็นตัวเต็งอย่างไม่ต้องสงสัย
WATCH
ภาพ: @paweensuda
รูปแบบความงามของเวทียุคปัจจุบันเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการประกวด แต่ก่อนเราอาจจะเห็นวิธีการตัดสินจะติดภาพของความงามมิติเดียว ความโดดเด่นจะส่งมาถึงสิ่งที่เรียกว่า “ความโดนใจ” ของกรรมการ มิติการตัดสินความงามอาจจะยังไม่ครอบคลุมทุกเรื่องแบบในสมัยนี้ เพราะฉะนั้นความเป็นยูนิเวอร์แซลในตัวของฟ้าใสกลายเป็นกุญแจสำคัญในการชนะครั้งนี้ หลายสำนักลงความเห็นตรงกันว่า “ฟ้าใสมี 2 มุมที่เพอร์เฟกต์” มุมหนึ่งเธอก็สวยงามได้อย่างไทยมีคาแรกเตอร์เอกลักษณ์จากประเทศบ้านเกิดแบบโดดเด่นมากๆ ในขณะเดียวกันเมื่อมองอีกมุมหนึ่งตัวแทนจากประเทศไทยก็นำเสนอความงามในรูปแบบสากลได้เป็นอย่างดี ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกแต่รวมถึงกิริยาท่าทาง และภาษากายที่แสดงออกมาจากตัวตนได้ดีเยี่ยม นั่นรวมถึงภาษาที่เราจะพูดถึงกันอีกหลังจากนี้อีกด้วย
Catriona Gray / ภาพ: Insider
“ถ้าคณะกรรมการชอบ Catriona Gray ก็ต้องชอบฟ้าใส” นิยามนี้บ่อนพนันถูกกฎหมายในต่างประเทศแห่งหนึ่งระบุว่าฟ้าใสมีบุคลิกภาพที่ดูเป็นธรรมชาติและรูปแบบความงามในลักษณะที่กรรมการทุกคนต้องหลงรัก ออร่าในแบบนางงามจักรวาลต้องมี รูปร่างที่ผสมผสานความลงตัวระหว่างซิลูเอตที่เล็กกับใหญ่เข้าไว้ด้วยกัน มีเค้าโครงของความสูงใหญ่ในแบบฉบับตะวันตก ในขณะเดียวกันก็มีความเพรียวบางในหลายจุดและผิวเรียบเนียนแบบฉบับเอเชียด้วยเหมือนกัน สาวงามลูกครึ่งไทย-แคนาดาคนนี้จึงเตะตาเหล่าสำนักเซียนเข้าอย่างจัง
ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก กับตำแหน่ง Miss Universe 1988 / ภาพ: @BuiSimon
อีกปัจจัยหนึ่งที่ดูทั้งเกี่ยวและไม่เกี่ยวในเวลาเดียวกันก็คือ “เวลา” คุณปู๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนกคือสาวงามจากไทยคนล่าสุดที่คว้ามงกุฎมาครองได้สำเร็จในปี 1988 ก็นับเป็นเวลาเกิน 30 ปีที่คนไทยไม่ได้เฮกับการประกวดนี้เลย ได้เพียงแต่ลุ้นแล้วลุ้นอีกจนประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ครองตำแหน่งกันไปรัวๆ ในช่วงหลัง ฉะนั้นหลายฝ่ายจึงมองว่าการกลับมาเถลิงบัลลังก์ประกวดของประเทศไทยในปีนี้ก็ถือว่าเหมาะสม เพราะมีความพร้อมทั้งเรื่องผู้เข้าประกวดเอง ผู้สนับสนุน กองเชียร์ และความอัดอั้นที่รอกระโดดดีใจ นั่นทำให้มนต์เสน่ห์ของรายการจะยิ่งขลัง และอัตราต่อรองก็ช่างสอดคล้องกับข้อมูลอย่างมีนัยยะสำคัญ
ภาพ: @paweensuda
เรื่องสำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งคือภาษา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้สำคัญมากเพราะสิ่งนี้เป็นกระบอกที่สามารถแสดงตัวตนของเราได้ลึกที่สุด ด้วยความเป็นลูกครึ่งฟ้าใสสามารถสื่อสารอย่างดีเยี่ยมทั้งไทยและอังกฤษ ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าคนพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งคือคนด้อยกว่า แต่การนำเสนอมุมมองความคิดจากปากของตัวเองแทนที่จะมาจากล่ามจะทำให้ข้อความนั้นออกมาจากเบื้องลึกของเราโดยไม่ผ่านการกรองใดๆ ยิ่งพูดได้เหมือนเจ้าของภาษาเท่าไหร่ก็สามารถแสดงตัวตนออกมาได้เท่านั้น หากต้องแสดงตัวตนในแบบที่ภาษาไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ก็ไม่มีทางที่จะส่งผ่านข้อความออกมา 100 เปอร์เซ็นต์ได้ และยิ่งใช้ล่ามจะทำให้ข้อความถูกกรองและนำเสนอเป็นต่อที่ 2 รูปแบบการสื่อสารที่เปลี่ยนไปก็เปลี่ยนแปลงความรู้สึกร่วมไปอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพราะฉะนั้นจุดเด่นเรื่องภาษาถือเป็นจุดแข็งสูงสุดจุดหนึ่งที่ทำให้ตัวแทนจากประเทศไทยคนนี้ขึ้นแท่นตัวเต็งจากหลากหลายทัศนะนั่นเอง
ผู้คนเนืองแน่นมาส่งฟ้าใส เตรียมรอเฮเช้าวันจันทร์นี้ / ภาพ: @paweensuda
ติดตามกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไร ฟ้าใสกำลังจะไปสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย เรามีหน้าที่ส่งกำลังใจและพร้อมสนับสนุนเธอตลอดเส้นทาง ตอนนี้ไม่สำคัญแล้วว่าเธอจะเป็นเต็งอันดับที่ 1 2 3 หรือลำดับอะไรก็แล้วแต่ เธอแค่ทำให้ดีที่สุดและประกาศว่าเธอคือ “ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น” จากประเทศไทยให้สุดความสามารถ ถึงตอนนั้นเราคนไทยอาจจะได้กระโดดเฮกันเต็มเสียงเมื่อเธอคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สประจำปี 2019 มาครองก็เป็นได้ อย่าลืมส่งใจเชียร์ฟ้าใสกันได้ในช่วงเวลาประมาณ 7:00 น.ตามเวลาประเทศไทย
WATCH
