ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับลูกคนแรกของเมแกน มาร์เคิล และเจ้าชายแฮร์รี่

     เมื่อเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา หลายคนผู้เป็นแฟนคลับคอยติดตามข่าวของเหล่าสมาชิกแห่งราชวงศ์อังกฤษ ก็คงได้ดีใจไปตามๆ กัน กับข่าวดีจากดยุก และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ที่ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า เขาทั้งคู่กำลังจะมีทายาทคนแรกแห่งซัสเซกซ์ (ซึ่งถูกคาดการณ์เอาไว้ว่าจะได้ลืมตาดูโลกในช่วงปลายเดือนเมษายนที่จะถึงนี้) ซึ่งตามถ้อยแถลงแห่งพระราชวัลเคนซิงตันนั้นได้กล่าวไว้ว่า ดยุก และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์รับรู้ได้ และซาบซึ้งกับทุกๆ คำอวยพร และการสนับสนุนของประชาชนทั่วโลก ตั้งแต่พิธีการเสกสมรสของทั้งคู่ที่ได้จัดขึ้นเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมาแล้ว และแน่นอนว่าในปีนี้ทางสำนักข่าวพระราชวังก็ยังคงเสิร์ฟข่าวดีกันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังน่าตื่นเต้นกว่าที่เคย หลายสำนักข่าวได้ป้อนข่าวเกี่ยวกับทายาทคนแรกแห่งซัสเซกซ์ด้วยความยินดี ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ครั้งนี้โว้กจึงขอรวบรวมทุกประเด็นเกี่ยวกับทายาทคนแรกของเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล สรุปให้ทุกคนได้อ่านกันแล้วที่นี่...

ภาพ : AFP

 

     วันเกิดของทายาทคนแรกแห่งซัสเซกซ์

     ตามถ้อยแถลงเดิมจากพระราชวังเคนซิงตันนั้นได้กล่าวเอาไว้ว่า เมแกน มาร์เคิล จะให้กำเนิดทายาทในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปีนี้ ก่อนที่การรายงานข่าวล่าสุดนั้นจะเจาะจงช่วงเวลาลงไป โดยให้ข้อมูลว่า ทางเมแกน มาร์เคิล ได้ประกาศเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าช่วงเวลานั้นจะเกิดขึ้นประมาณปลายเดือนเมษายน ประจำปี 2019 ที่จะถึงนี้ ซึ่งช่างเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง เพราะเป็นเดือนเดียวกันกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และวันเกิดของเจ้าชายหลุยส์อีกด้วย

     ยศของทายาทแห่งซัสเซกซ์

     สำนักข่าว Times of London ได้รายงานไว้ว่า เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิลนั้นอาจจะยังไม่สวมยศให้กับทายาทคนแรกแห่งซัสเซกซ์โดยทันที เพื่อที่ต้องการจะให้ทายาทคนนี้ของเขาทั้งคู่ มีชีวิตวัยเด็กที่ปกติ และเรียบง่ายที่สุด (ดังที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในกรณีที่มีข่าวว่าทั้งคู่ตัดสินใจจะย้ายออกจากพระราชวังเคนซิงตันเมื่อปลายปี 2018 ที่ผ่านมา) นับเป็นการตัดสินใจที่แตกต่างออกไป แต่ก็มิใช่ว่าสิ่งนี้จะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในราชวงศ์อังกฤษ เพราะเมื่อย้อนกลับไปเจ้าหญิงแอนน์ก็ยังเคยไม่ถูกสวมยศในช่วงวัยเด็กทันที เช่นเดียวกัน

ภาพถ่ายบรรยากาศของ Frogmore Cottage / ภาพ : Getty Images

 

     ดยุก และดัชเชสแห่งซัสเซกส์จะเลี้ยงดูทายาทคนแรกนี้ที่พระราชวังวินด์ซอร์

     ในขณะที่สถานที่ทำงานของเจ้าชายแฮร์รี่ตั้งอยู่ที่พระราชวังเค็นซิงตัน หากที่พักอาศัยที่ครอบครัวซักเซกซ์ได้ตัดสินใจเลือกนั้น อยู่ห่างออกไปจากมหานครลอนดอนถึง 45 นาที ในเขตของพระราชวังวินด์ซอร์ โดยอย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะถึงนี้ ตามประกาศของสำนัพระราชวังเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล จะย้ายออกจากพระราชวังเคนซิงตัน อันเป็นที่ประทับเดิม เพื่อมาสร้างครอบครัวที่ Frogmore Cottage ที่พักอาศัยกึ่งไม้กึ่งปูน ฉาบด้วยสีขาวทั้งหลัง ที่สถิตอยู่ในบริเวณสวนของปราสาทวินด์ซอร์นั่นเอง ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นกับสมาชิกราชวงศ์สักเท่าไหร่ ที่จะออกไปใช้ชีวิตอยู่นอกเมืองหลวงเช่นนี้

 
     เมแกน มาร์เคิล จะไม่ให้กำเนิดทายาทคนนี้ที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี

     หากจะสืบสาวราวเรื่องถึงความสำคัญของโรงพยาบาลแห่งนี้ ก็คงจะต้องเริ่มที่เคต มิดเดิลตัน ที่ให้กำเนิดทายาทแห่งแคมบริดจ์ ทั้งสามคนที่โรงพยาบาลเซนต์แมรีมาโดยตลอด หากตามรายงานของ The Daily Mail ได้บอกว่า เมแกน มาร์เคิลยังคงใช้เวลาตัดสินใจที่จะเลือกตัวเลือกอื่นๆ อยู่ ซึ่งเธอก็คิดว่าควรจะเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับสถานที่พักอาศัยใหม่อย่าง Frogmore มากกว่าใจกลางเมืองอย่างลอนดอน และรายงานล่าสุดถึงความเป็นไปได้ก็คือ เมแกน มาร์เคิล อาจจะเลือกโรงพยาบาล Firmley Park ที่ Surrey เพื่อเป็นสถานที่ให้กำเนิดทายาทคนนี้ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเดียวกันกับที่โซฟี ภรรยาของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดได้ให้กำเนิดทายาทที่นี่

ภาพ : Express.co.uk

 

     นามของทายาทแห่งซัสเซกซ์

     ครั้งหนึ่งเมื่อเหล่าผู้สนับสนุนราชวงศ์อังกฤษได้เอ่ยปากถาม เมแกน มาร์เคิล ถึงเรื่องชื่อของทายาทคนแรกนี้ เมื่อครั้งที่เธอได้ไปเยือนประเทศออสเตรเลีย เธอได้ตอบเอาไว้ว่า "คนรอบตัวเราที่สนับสนุน และรักเรา ได้แนะนำพร้อมลิสต์รายชื่อที่พอจะเป็นไปได้ให้กับเรายาวเป็นหางว่าว ถึงขั้นที่ว่าเราต้องนั่งพิจารณาชื่อเหล่านั้นกันเสียยกใหญ่เลยทีเดียว" แต่ท้ายที่สุดแล้วชื่อที่จะถูกตั้งนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับเพศสภาพแรกเกิดของเด็กเป็นสำคัญ โดยที่ธรรมเนียมของราชวงศังกฤษนั้น ยังจะขึ้นอยู่กับชื่อลำลองของสมาชิกในครอบครัวด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังมีการคาดเดาไปในหลายทาง โดยชื่อที่ถูกคาดเดามากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น Diana (หากเป็นเพศหญิง) และ Arthur (หากเป็นเพศชาย)

     นับเป็นอีกเรื่องน่ายินดีที่จำนวนสมาชิกแห่งราชวงศ์อังกฤษจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน อีกทั้งปลายเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ก็คงจะกลายเป็นอีกวาระที่น่าจดจำมากทีเดียว...