Louis Vuitton กระโดดเข้าวงการรถแข่ง รังสรรค์หีบใบพิเศษสำหรับถ้วยรางวัล F1 ที่โมนาโก

     วงการกีฬากับวงการแฟชั่นมีความข้องเกี่ยวกันมาเป็นเวลานาน รากฐานของเสื้อผ้าหลายประเภท ความนิยมหลากหลายรูปแบบก็เกิดจากวงการกีฬาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มนต์เสน่ห์ของกีฬามักมีเรื่องความสวยงามเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ การแข่งขันเองก็พ่วงด้วยรางวัลอันทรงคุณค่า ดังนั้นสำหรับการแข่งขันกีฬาด้านความเร็วอันดับ 1 ของโลกอย่างฟอร์มูล่า 1 จึงต้องนำเสนอรางวัลอย่างพิเศษที่สุด หรูหราที่สุด และน่าจดจำที่สุด ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของหีบรางวัลใบใหญ่จาก Louis Vuitton ใบนี้

หีบรางวัลสั่งทำพิเศษจาก Louis Vuitton พร้อมถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะโมนาโก กรังด์ปรีซ์ปี 2021 / ภาพ: Louis Vuitton

     แบรนด์เก่าแก่จากฝรั่งเศสรังสรรค์หีบใส่ถ้วยรางวัลสำหรับการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูล่า 1 ที่โมนาโกเป็นครั้งแรก โดยหีบใบนี้ถูกออกแบบมาในรูปแบบอุปกรณ์ใส่ถ้วยรางวัลทรงสูง มีฝาเปิดด้านบนและด้านหน้าเพื่อนำเสนอรางวัลอันทรงเกียรติ นอกจากนี้ยังมีการเพนต์แถบสีขาวและแดง สีประจำชาติโมนาโก พร้อมทั้งลวดลายโมโนแกรมสุดคลาสสิกที่ถูกเปลี่ยนเป็นสีแดงสะดุดตา เติมความสมบูรณ์แบบด้วยขอบหนังและตัวล็อคโลหะทอง ปกติแล้วเราจะเห็นหีบใส่ถ้วยรางวัลแบบนี้ในกีฬาคลาสสิกดั้งเดิมอย่างการแข่งเรือ เทนนิส หรือจะเป็นกอล์ฟ ครั้งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ประวัติศาสตร์ที่หลุยส์ วิตตองก้าวเข้ามาในวงการมอเตอร์สปอร์ตเต็มตัว

Max Verstappen ขณะเดินขึ้นโพเดียมเตรียมรับรางวัลจากหีบใบนี้ (ฉากด้านหลัง) / ภาพ: Marketshockers

     ผลงานชิ้นพิเศษจากหลุยส์ วิตตองนี้ไม่ได้สะท้อนถึงความงดงามของงานฝีมือชั้นครูเท่านั้น เพราะหีบสั่งทำพิเศษยังถือเป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ระหว่างแบรนด์กับ Automobile Club de Monaco องค์กรการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตของโมนาโกอีกด้วย และเมื่อวันอาทิตย์ 23 พฤษภาคม 2021 Max Verstappen นักแข่งรถสูตร 1 ชาวดัตช์คือนักแข่งคนแรกที่ได้รับถ้วยรางวัลผู้ชนะการแข่งขันโมนาโก กรังด์ปรีซ์จากหีบหลุยส์ วิตตองสั่งทำพิเศษใบนี้ นอกจากนี้ความน่าสนใจอีกจุดหนึ่งคือแม็กซ์เป็นนักสร้างประวัติศาสตร์ ครองสถานะนักแข่งอายุน้อยที่สุดที่ลงแข่งรถฟอร์มูล่า 1, ได้คะแนนจากการแข่งขัน, ชนะการแข่งขัน, ขึ้นโพเดียม (ติดอันดับ 1-3), ขึ้นนำระหว่างการแข่งขัน รวมถึง สามารถทำรอบได้เวลาน้อยที่สุด นับว่าการคว้ารางวัลจากหีบหลุยส์ วิตตองเป็นครั้งแรกถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่เขาจารึกชื่อตัวเองไว้อย่างเต็มภาคภูมิ