FASHION
เปิดปมอดีตของ โคโค่ ชาเนล กับสัมพันธ์รักที่กลายมาเป็นคอลเล็กชั่นจิวเวลรี่ชั้นสูง
|
LE PARIS RUSSE DE CHANEL คือชื่อคอลเล็กชั่นจิวเวลรี่ชั้นสูงของแบรนด์ชาเนล หากถอดคำตามภาษาฝรั่งเศสจะพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับ 2 สถานที่น่าสนใจ สถานที่แรกคือ Le Paris ที่หมายถึงกรุงปารีส ตัวแทนแห่งจิตวิญญาณของดีไซเนอร์ระดับตำนานผู้ให้กำเนิดแบรนด์ชาเนลอย่าง กาเบรียล โคโค่ ชาเนล และสถานที่ที่สองคือ Russe ที่หมายถึงรัสเซีย อีกหนึ่งสถานที่ต้นกำเนิดแห่งแรงบันดาลใจในคอลเล็กชั่นจิวเวลรี่ชั้นสูง LE PARIS RUSSE DE CHANEL ที่พร้อมร้อยเรียงจิตวิญญาณแห่งปารีส และแรงบันดาลใจจากรัสเซียให้ผสานเข้าด้วยกันได้อย่างสวยงาม...
กาเบรียล โคโค่ ชาเนล และแกรนด์ ดยุก ดิมิทรี พาฟโลวิช สุภาพบุรุษที่เคยมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับชาเนลในช่วงเวลาสั้นๆ อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้เธอหลงรักดินแดนรัสเซียของเขาไปด้วย
จริงอยู่ที่ กาเบรียล โคโค่ ชาเนล ไม่เคยเดินทางไปถึงรัสเซียตลอดช่วงชีวิตของเธอ หากความเป็นรัสเซียกลับเป็นสิ่งที่ให้แรงบันดาลใจกับดีไซเนอร์ในตำนานคนนี้เสมอมา ดังเมื่อได้ย้อนกลับไปในอดีตเราต่างพบว่า อพาร์ตเมนต์ซึ่งเป็นที่อยู่ส่วนตัวของชาเนล ในกรุงปารีสนั้น ยังถูกตกแต่งด้วยกระจกล้อมกรอบด้วยนกอินทรีสองหัว สัญลักษณ์ของนิยายรักโรแมนติกที่เกี่ยวข้องกับดินแดนรัสเซีย ผลงานการประพันธ์โดย ฌอง ค็อกโต เพื่อนสนิทของเธอ โดยมีชื่อว่า The Eagle with Two Heads หรือแม้แต่ครั้งหนึ่งที่เธอยังเคยบอกเอาไว้กับ ปอล โมรองด์ว่า ชาวรัสเซียทำให้ฉันหลงใหล ซึ่งตรงกับสิ่งที่ใครหลายคนได้เห็นว่า รายละเอียดในงานแฟชั่นของเธอมักจะได้รับอิทธิพล และถูกดัดแปลงให้เป็นสไตล์รัสเซียอยู่บ่อยครั้ง เธอเคยทำเสื้อทูนิกตัวยาว สม็อก เสื้อคลุมประดับขนเฟอร์ และเสื้อที่คาดเข็มขัดขนาดใหญ่ ที่ได้ต้นแบบมาจากเสื้อรูบาชก้าดั้งเดิมของรัสเซีย เมื่อปี ค.ศ. 1923 กระทั่งที่นิตยสารโว้ก ปารีส ยังเคยสังเกตเห็นว่า ชาเนลได้นำลวดลายจากงานเย็บปักถักร้อยแบบโบราณของรัสเซียมาใช้ในงานของเธอหลายครั้ง จนกล่าวได้ว่าจินตนาการของเธอเปี่ยมไปด้วยทุกสิ่งที่เป็นรัสเซียก็ว่าได้
ภาพของกระจกที่ถูกประดับด้วยนกอินทรีสองหัวภายในอพาร์ตเมนท์ส่วนตัวของชาเนล ณ กรุงปารีส
อีกทั้งอิทธิพลในความเป็นรัสเซียที่อบอวลอยู่รอบกายของชาเนล ยังได้มาจากช่วงเวลาแห่งการล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ ที่เป็นสาเหตุหลักให้ชาวรัสเซียจำนวนมากจำต้องอพยพไปทั่ว ในบรรดาคนเหล่านั้นมีศิลปินที่เดินทางเข้ามาอาศัยในปารีสจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น สตาวินสกี้ หรือ ดิอากิเลฟ ที่ภายหลังได้กลายมาเป็นเพื่อนของชาเนล ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ยังได้นำเอาวัฒนธรรมรัสเซียของตนมาเผยแพร่ให้กับชาวปารีสจนเกิดเป็นวัฒนธรรมใหม่ “ปารีสสไตล์รัสเซีย” นั่นจึงอาจกล่าวได้ว่า ความเป็นรัสเซียและชาเนลมีสายสัมพันธ์ต่อกันอยู่เสมอ กระทั่งสิ่งแวดล้อม จินตนาการ และความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นคอลเล็กชั่นจิวเวลรี่ชั้นสูงที่ชื่อว่า LE PARIS RUSSE DE CHANEL ขึ้นมาในที่สุด
WATCH
1 / 10
2 / 10
3 / 10
4 / 10
5 / 10
6 / 10
7 / 10
8 / 10
9 / 10
10 / 10
โดยในคอลเล็กชั่นนี้เราจะได้เห็นสัญลักษณ์ของนกอินทรีสองหัวปรากฏอยู่ทั่วทั้งคอลเล็กชั่น ที่นำมารวมกับดีไซน์รูปกระจกแปดเหลี่ยม พร้อมกับดอกคาเมเลียที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของแบรนด์ชาเนล นอกจากนี้ยังนำมาประดับคู่กับลวดลายต่างๆ ที่คัดสรรมาจากศิลปะตกแต่งของรัสเซีย ซึ่งลวดลายดังกล่าวนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบสร้อยคอ หรือเครื่องประดับศีรษะให้เป็นทรงโค้ง อีกทั้งความน่าสนใจยังอยู่ที่คอลเล็กชั่นนี้ได้นำเสนอด้านที่ตรงข้ามกับด้านสว่างของจิวเวลรี่ล้ำค่า ด้วยชุดจิวเวลรี่ที่เน้นสีสันเปล่งประกายสะท้อนให้เห็นถึงงานฝีมือโบราณอันประณีตที่มีความตระการตาของการแสดงบัลเลต์ รูส ซึ่งครั้งหนึ่งกาเบรียล โคโค่ ชาเนล เคยมีโอกาสได้ออกแบบเครื่องแต่งกายให้ รวมไปถึงโมทีฟรวงข้าวสีทอง ที่ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของรัสเซีย ดังที่ปรากฏในดีไซน์ของโต๊ะของโรเบิร์ต กูสเซ่น ในอพาร์ตเมนต์ของเธอ และด้วยความหลงใหลในรัสเซียที่เชื่อมโยงกับการออกแบบของชาเนลมาทั้งชีวิต ในปี 1967 ความฝันของเธอก็กลายเป็นความจริง เมื่อคอลเล็กชั่นของเธอได้ปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนได้ชมที่ Red Square ในกรุงมอสโก และกลายเป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชั่นจิวเวลรี่ชั้นสูงของแบรนด์ชาเนลที่กลายเป็นที่เลื่องลือจวบจนปัจจุบัน
WATCH