เตรียมเปลี่ยนเกม! Gucci จับมือบริษัทรีเซลชื่อดัง มุ่งหน้าเข้าสู่วัฏจักรรักษ์โลกแบบเต็มตัว

     สังคมโลกยุค 2020 (และต่อๆ ไป) จะเป็นสังคมแห่งการใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและ Gucci ก็ถือเป็นแบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ที่ออกสตาร์ตในเรื่องนี้อย่างจริงจังจนเป็นที่จับตามอง จนวันนี้กุชชี่ก็ได้ทำเรื่องเหลือเชื่ออีกครั้งเมื่อประกาศจับมือกับ The RealReal แพลตฟอร์มตลาดรีเซลอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งแรงดึงดูดเรื่องรักษ์โลกจุดแรกคือทุกๆ การซื้อกุชชี่จากลูกค้าคนไหนก็แล้วแต่จะเท่ากับการสนับสนุนการปลูกต้นไม้โดยเดอะ เรียลเรียล 1 ต้น ถือโปรเจกต์ที่สอดประสานมากับธุรกิจได้อย่างมีนัยยะสำคัญทั้งเชิงธุรกิจและสังคมสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

หน้าเว็บไซต์ The RealReal ที่เห็นการขายไอเท็มรีเซลมากมาย / ภาพ: The RealReal

     ความน่าตกใจของการจับมือกันครั้งนี้คือเดอะ เรียลเรียลเป็นบริษัทขึ้นชื่อในเรื่องการรีเซลของ ซึ่งแบรนด์แฟชั่นน้อยใหญ่ต่างหลีกเลี่ยงวงจรนี้มาตลอด ด้วยเหตุผลในเชิงภาพลักษณ์ สินค้า และองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมาย แต่วันนี้ตัวเลขผู้ใช้ 17 ล้านคน พร้อมการคาดการณ์อัตราการเติบโตปี 2025 อยู่ที่ 64,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็ดูจะหอมหวานสำหรับการทำธุรกิจพอๆ กับการที่มีการดูแลรักษาโลกผ่านการช็อปปิ้งอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ทั้งนี้ทั้งนั้น Julie Wainwright ประธานกรรมการบริหารของเดอะ เรียลเรียลระบุว่าการร่วมมือกันครั้งนี้มีเป้าหมายในการมอบอายุให้เสื้อผ้าและแฟชั่นไอเท็มให้ยาวนานยิ่งขึ้น นั่นหมายความทั้ง 2 ฝ่ายเล็งเห็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมาก่อนเม็ดเงิน

Gucci Of The Grid อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่แบรนด์เลือกใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น / ภาพ: Gucci

     “การซื้อของรีเซลจะไม่ใช่การไม่สนับสนุนแบรนด์อีกต่อไป” เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกันสักนิดว่าการขายของรีเซลนั่นแปลว่าคนซื้อของจากร้านกุชชี่อยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามันจะมีไอเท็มบางอย่างที่หมดอายุใช้งานสำหรับบางคน ชุดเดรสสุดอลังการหรือไอเท็มจากรันเวย์อื่นๆ บางครั้งแบรนด์ก็ไม่ได้ต้องการผลิตล้นจนหมดคุณค่า นี่จึงเป็นสาเหตุให้แพลตฟอร์มการรีเซลไม่ได้เป็นการเอาเปรียบแบรนด์แต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังสร้างพื้นที่ในสังคมให้กับแบรนด์อยู่เสมอเพราะคนวนเวียนกันซื้อกันใส่ของแบรนด์นั้นๆ อยู่ตลอด หากแต่อยากได้ของใหม่ก็อุดหนุนโดยตรงกับแบรนด์เหมือนเดิม เงื่อนไขง่ายนิดเดียว เพียงแต่ว่าของมือ 2 3 หรือ 4 จะไม่ใช่ของเหลือทิ้งรอวันทำลายอีกต่อไป “แฟชั่นจะไม่ใช่ของใช้แล้วทิ้งแต่เราจะซื้อของดีและขายมันในวันที่เรารู้สึกเพียงพอกับมันแล้ว” จูลี่ปิดท้ายสรุปการจับมือครั้งนี้อย่างสวยงาม