FASHION

Greta Thunberg ออกมาเคลื่อนไหว ชูประเด็นการจัดการกระจายวัคซีนที่ไม่เท่าเทียมทั่วโลก

เกรตากล่าวเอาไว้ในแคปชั่นว่า 'ตอนนี้มีความไม่เท่าเทียมเกิดขึ้นจากการกระจายวัคซีนทั่วโลกอย่างปฏิเสธไม่ได้'...

     ถือเป็นอีกหนึ่งนักเคลื่อนไหวที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี สำหรับ Greta Thunberg หลังจากที่แจ้งเกิดในฐานะของเด็กสาวผู้ออกมารณรงค์เรื่องปัญหาสภาวะภูมิอากาศของโลกเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นที่จับตามองของสื่อทั่วโลก ก่อนที่เมื่อช่วงต้นปี 2020 เป็นต้นมา เกรตาจำเป็นต้องหยุดการเดินทางเพื่อรณรงค์ และเคลื่อนไหวของเธอเอาไว้ชั่วคราว เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ทว่าล่าสุดเกรตาได้กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งบนแพลตฟอร์มอินสตาแกรม และทวิตเตอร์ของเธอ พร้อมเปิดเผยถึงความคืบหน้าการเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 โดสแรกแล้วอย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เกรตายังได้ออกมา Call Out เรื่องวัคซีนที่ทั่วโลกกำลังประสบปัญหากันอยู่ ซึ่งเธอได้ชูประเด็นความไม่เท่าเทียมในการกระจายวัคซีนของหลายที่ทั่วโลกเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ

     บนบัญชีอินสตาแกรม และทวิตเตอร์ส่วนตัวของเด็กสาววัย 18 ปี ได้บรรยายถึงความรู้สึกของเธอในการเข้ารับวัคซีนโดสแรกเอาไว้ว่า “วันนี้ฉันได้รับวัคซีนป้องกันโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 โดสแรกแล้ว ซึ่งฉันรู้อยู่แก่ใจว่าฉันคือส่วนที่โชคดีที่ได้อาศัยอยู่ในส่วนหนึ่งของโลกที่สามารถให้วัคซีนแก่ฉันได้ ในขณะที่หลายๆ ที่ทั่วโลกกำลังมีปัญหาเรื่องความไม่เท่าเทียมในการกระจายวัคซีนอย่างไม่อาจจะปฏิเสธได้” การออกมาพูดในครั้งนี้ เธอยังได้อ้างอิงถึงข้อมูลสถิติตามการรายงานของ The New York Times อีกว่า ทวีปยุโรป และอเมริกาเหนือ คือสองผู้นำโลกในด้านปริมาณวัคซีนต่อจำนวนประชากร ในขณะที่แอฟริกากลายเป็นทวีปรั้งท้าย ซึ่งสถิตินี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ลำดับการกระจายวัคซีนเป็นนั้นแปรผันตามสถานะรายได้ของแต่ละประเทศอีกด้วย ไล่เรียงจากประเทศที่มีรายได้สูง ไปสู่ประเทศที่มีรายได้ต่ำ

     อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Teen Vogue ยังชี้ให้เห็นอีกหนึ่งปัญหาที่ควรให้ความใส่ใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือความลังเลใจต่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ของพลเมืองในแต่ละประเทศ กระนั้นตอนนี้ก็เหมือนว่าโลกกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับโควิด-19 สายพันธ์เดลต้า และเข้าสู่การระบาดระลอกที่ 4 แล้ว ที่ยิ่งสร้างความกังวลใจมากขึ้นมาเดิมให้กับทั้งตัวของประชาชน และรัฐเอง วัคซีนจึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้ผู้คนรอดชีวิตได้ โดย Teen Vogue ยังได้ทิ้งท้ายด้วยข้อมูลสรุปการศึกษาของ Yale Medicine ที่พบว่าวัคซีนชนิด mRNA มีประสิทธิภาพมากในการจำกัดความรุนแรงของโรคที่เกิดขึ้นได้

ข้อมูล : Teen Vogue, Instagram: @gretathunberg

WATCH