FASHION
เจาะลึกคอลเล็กชั่นสุดน่ารักเพื่อสดุดี Grace Coddington ซูเปอร์สไตลิสต์ตลอดกาลของโลก!นี่คือการร่วมงานกันของเพื่อนรักจ่างวับ เกรซ ค็อดดิงตัน และนิโคลาส์ เกสกิแยร์ |
มีคำกล่าวว่าหากเป็นที่จดจำได้ด้วยชื่อแรก แปลว่าคุณ “ไปถึง” จุดนั้นแล้ว อาจเป็นจุดที่กลายเป็นดารานำในหนังสารคดีแสนรักของคนแฟชั่น จุดที่ชีวิตกลายเป็นหนังสือขายดี จุดที่มีน้ำหอมเป็นของตัวเอง และจุดที่แบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลกอุทิศทั้งคอลเล็กชั่นให้
Grace Coddington อยู่ที่นั่นเมื่อเพื่อนซี้ต่างวัยของเธอ Nicolas Ghesquière โชว์คอลเล็กชั่นครูส 2019 ท่ามกลาง “เขาวงกต” งานศิลปะของประติมากรชาวสเปน Joan Miró ภายใน The Marguerite and Aimé Maeght Foundation ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส
ครูสคอลเล็กชั่นภายใน Labyrinth ผลงานออกแบบโดย Joan miro
“ฉันเจอนิโคลาส์ครั้งแรกในปี 2000 ในแฟชั่นเซตรวมดาวดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่มี Steven Meisel เป็นช่างภาพถ่ายให้โว้กอเมริกา เขาเด่นกว่าใครเลย แล้วพอโว้กเล่มเดือนเมษายน 2005 จะถ่ายแฟชั่นธีม Alice in Wonderland กับ Annie Leibovitz ซึ่งเราจับดีไซเนอร์หลายๆ คนมาแต่งเป็นตัวละครในนิทาน เป็นต้นว่า Tom Ford อยากเป็น White Rabbit หรือ Karl Lagerfeld ที่อยากเป็น…ตัวเอง” นิโคลาส์ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์หนุ่มของ Balenciaga ที่ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของโว้กอเมริกาผลักดันอย่างสุดจิตสุดใจก็ได้มาร่วมวงวานในแฟชั่นเซตตำนานนั้น “แล้วเราก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเลย”
เพื่อนรักวัย 47 และ 77 นิโคลาส์ และเกรซ (กับกระเป๋ารูปกระดูกของเลอ็อง)
ไม่ใช่แค่ไปนั่งฟรอนต์โรว์ แต่เกรซ “สิง” อยู่ในคอลเล็กชั่นครูสนี้ด้วย เธออวตารผ่านนางแบบผิวหยวกผมแดงหยิกฟูและฝากหัวใจของเธอไว้ในชุดนอนลายโมโนแกรมผสมแมว ผ้าห่มลายแมว ร่มลายแมว และกระเป๋ารุ่นฮิตของแบรนด์อย่าง Twist, Speedy, Capucines และ City Steamer ก็มีลายแมวนอนกลิ้ง แต่ละใบแอบใส่ดินสอ สีเทียน และกระดาษไว้ให้ด้วย “มีทุกอย่างที่ฉันอยากให้มีเวลาไปปิกนิก” เกรซบอกเล่าการร่วมงานกับหลุยส์ วิตตองซึ่งเป็นครั้งแรกที่ลายโมโนแกรมเต็มไปด้วยลวดลายนายเหนือหัวของมนุษย์ ได้แก่ Pumpkin แมวส้มสาวกับ Blanket แมวหน้ากากหนุ่มซึ่งเป็นนายของเกรซ และ Léon ลาบราดอร์ดำทูนหัวของนิโคลาส์ “ตัวฉันเป็นทาสแมว แต่จริงๆ แล้วชอบหมด แมว หมา ม้า หนู หมูหรือนกที่บินได้อิสระ คนที่ชอบเอานกมาขังกรงสิประหลาด” ทาสแมวอันดับหนึ่งของวงการแฟชั่นกล่าว “เรา 2 คนรักสัตว์มากเหมือนๆ กัน”
WATCH
ครูส 2019 สดุดีเกรซ ค็อดดิงตันในลุค Ginger & Her Pets
กว่าที่จักรวาลสัตว์ 4 ขาหน้าขนจะขนอารมณ์ขันมาใส่โลกลักชัวรีของหลุยส์ วิตตองได้ นิโคลาส์วัย 47 เพียรจีบเพื่อนวัยอาวุโสกว่าเขา 30 ปีอยู่นาน 3 ปีเต็ม หรือแท้จริงแล้วทุกแบรนด์ที่หมายปองเกรซอาจรอเธอมา 50 ปีจนถึงวันที่เธอประกาศตัวเป็นคนแฟชั่นอิสระที่ไม่ได้อยู่ในร่มเงาโว้กอีกต่อไป
“แม่เป็นแม่ประเภทที่ไม่ตั้งคำถามใดๆ ตอนฉันบอกท่านว่าจะไปลอนดอนนะ แม่พูดแค่ว่า ‘อ้าวเหรอ ดีสิ’ ตอนพี่สาวเดินไปบอกแม่ว่าจะแต่งงานตอนอายุ 18 แม่ก็แค่ตอบรับว่า ‘จ้ะลูก’” Pamela Rosalind Grace Coddington ย้อนจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทุกอย่าง มันเป็นวันอากาศดีธรรมดาๆ เมื่อเธอเดินจากโรงแรมริมทะเลที่เป็นเรือนเกิดในเวลส์ หนีบโว้กไปเล่มแล้วจับรถไฟไปแสวงโชคในเมืองหลวงซึ่งเธอกลายเป็นที่รู้จักในชื่อเล่น “The Cod” นางแบบแห่งยุค 1960 เคียงคู่ “The Shrimp” Jean Shrimpton “ค่าตัวถ่ายแฟชั่นในนิตยสารคิด 2 ปอนด์ ถ้าถ่ายโฆษณาคิด 5 ปอนด์ต่อวัน แต่ก็ไม่เคยได้งานโฆษณาหรอกนะ” เมื่อวัยใกล้เลข 3 เกรซผันตัวไปเป็นบรรณาธิการแฟชั่นจูเนียร์ที่โว้กอังกฤษและอยู่ที่นั่นนาน 19 ปี
1 / 2
2 / 2
Calvin Klein จีบให้เกรซไปนั่งประจำการแผนกดีไซน์ในปี 1987 ซึ่งเธอทำงานด้วยหัวใจสลายจากความผิดหวังในงาน จึงยกหูหานายเก่าจากอังกฤษซึ่งบอกว่าเกรซควรเริ่มงานใหม่ไปพร้อมกับเธอ และเมื่อโว้กฉบับเดือนพฤศจิกายนปี 1988 ไปอยู่บนแผงหนังสือ นั่นคือครั้งแรกที่ปรากฏชื่อของบรรณาธิการและสไตลิสต์คู่บุญคู่บาป “แอนนาเกลียดผมแดง เธอชอบผู้หญิงผมบลอนด์ แต่สีผมสีเดียวที่ฉันดันไม่ชอบคือผมบลอนด์” “แอนนาอยากให้ทำแฟชั่นธีม Mary Poppins แต่ฉันไม่ชอบ ฉันว่าหล่อนออกจะทึ่มเลยเปลี่ยนมาเล่นธีม Alice in Wonderland” แต่ไม่เคยมีใครพูดถึงมวยคู่เอกนี้ว่า เกรซ ค็อดดิงตันนั่งดูรันเวย์โชว์ข้าง Anna Wintour มีแต่จะพูดว่า เกรซและแอนนานั่งข้างกันในรันเวย์โชว์ของ...(ชื่อแบรนด์)...บ่งบอกระดับความสัมพันธ์ที่เสมอกันของเสา 2 ต้นแห่งโว้กอเมริกาหรืออาจพูดได้ว่าแห่งวงการแฟชั่นโลกนาน 3 ทศวรรษเต็ม
R.J. Cutler ผู้กำกับซึ่งนัยหนึ่งคือหมอตำแยตัดสายสะดือให้เกรซกลายเป็นซูเปอร์สตาร์นอกจักรวาลแฟชั่นใน The September Issue (2009) สารคดีตามติดเบื้องหลังการประกอบชิ้นส่วนโว้กเล่มหนาเท่าซุงที่สุดแห่งปีกล่าวไว้ว่า “ทุกป้ายบิลบอร์ด ทุกแฟชั่นเซตในหน้านิตยสาร ทุกหน้าโฆษณาแฟชั่นที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ล้วนได้รับอิทธิพลจากเธอ”
1 / 3
2 / 3
3 / 3
เกรซเป็นซูเปอร์สไตลิสต์ที่สร้างภาพได้เก่งกาจ ภาพที่เธอสร้างเกิดจากส่วนผสมของความรื่นรมย์เหนือมื้อน้ำชายามบ่ายในสวนอังกฤษ ความวิไลเพริศแพร้วของปารีส ความจับต้องได้จริงแบบอเมริกัน และความเป็นคนพิลึกในแบบเกรซ ค็อดดิงตัน เป็นต้นว่า Stella Tennant ใส่ชุดกระโปรงสูทเต็มยศพุ่งหลาวลงสระ Keira Knightley ป้อนนมลูกช้างคลุมผ้าห่มลายโมโนแกรมของหลุยส์ วิตตองที่เคนยา นางแบบ 8 คนสังสรรค์ในเดรสโอตกูตูร์หรูที่ทำจากกระดาษ หรือภาพสดุดีเหล่า “Petite mains” มือน้อยๆ ที่อยู่เบื้องหลังห้องเสื้อชั้นสูงของปารีส “ภาพแฟชั่นของเกรซ” Suzy Menkes สื่อมวลชนแฟชั่นแถวหน้าสรุป “เหมือนภาพยนตร์”
เกรซเป็นสไตลิสต์ที่ยังคุกเข่าใส่รองเท้าให้นางแบบด้วยตัวเองเป็นคนแฟชั่นขี้อายที่มีคนมาดักรอเซลฟี่หน้าบ้านทุกวันตั้งแต่The September Issue ออกฉาย เป็นคนเดียวในโลกกระมังที่พกกระดาษกับดินสอไปนั่งสเกตช์ทุกลุคในแฟชั่นโชว์ และมีรายงานว่าสำนักพิมพ์ Random House จ่ายเงิน 1.2 ล้านยูเอสดอลลาร์เป็นค่าเขียนบันทึกความทรงจำ Grace: A Memoir ส่วนค่ายหนัง A24 กำลังวิ่งเต้นทำชีวิตของเธอให้เป็นภาพยนตร์ “ฉันอยากให้ Karen Elson แสดงเป็นฉันตอนสาว ให้ Julianne Moore มาแสดงเป็นฉันตอนนี้” เป็นไม่กี่คนในโลกที่วาดรูปแมวที่บ้านแล้วกลายเป็นหนังสือขายดี The Catwalk Cats หรือได้เอา “กลิ่น” ของเธอไปทำน้ำหอมให้ Comme des Garçons แต่ใช้ชื่อตัวเองได้อย่างทระนงว่าน้ำหอม Grace by Grace Coddington ในวันที่เธอขอเป็นฟรีแลนซ์ให้โว้กก็มีหนังสือรวมผลงานหนา 400 หน้า Grace: Thirty Years of Fashion at Vogue และแทรกซึมอารมณ์ขัน ลายเส้นเหมือนเบบี๋ และหมาแมวกระจายเต็มอาณาจักรเท่คูลล้ำจากโลกอนาคตของหลุยส์ วิตตองซึ่งอุตส่าห์ตั้งชื่อลายให้เสียด้วยว่า Catogram
“โลกแฟชั่นลักชัวรีจำเป็นต้องมีอารมณ์ขัน” เกรซยืนยัน “ไม่อย่างนั้นก็จะดูทึมทื่อน่าอึดอัด ของหรูต้องการอะไรเฮี้ยนๆ มาเบรกกันบ้าง ฉันว่านิโคลาส์คงมองว่าฉันเพี้ยน แต่คนเพี้ยนๆ มักจะคิดว่าตัวเองเป็นคนปกติหรือเปล่า”
สำคัญที่ว่าเธอมองตัวเองอย่างไรคลัตช์ทรงกระดูกจากคอลเล็กชั่น Catogram ในมือของเธอขยับแนบอกก่อนตอบ
“ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนปกติ”
WATCH