กระเป๋าใบไม้! ดีไซเนอร์รักษ์โลกใช้ใบไม้มาทำกระเป๋าทั้งใบแทนหนังสัตว์ และใช้ได้จริง

     หลังจากที่ช่วงตลอดทั้งปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมแฟชั่นทั่วโลกต่างพากันขับเคลื่อน และพูดถึงคอนเซ็ปต์สำคัญอย่าง "Sustainability" หรือ "การพัฒนาอย่างยั่งยืน" อย่างเข้มข้น จนเราได้เห็นหลายแบรนด์แฟชั่นชื่อดังนำเสนอผลงานชิ้นไอเท็ม และกรรมวิธีการทำงานที่สอดคล้องไปกับคอนเซ็ปต์ดังกล่าวมากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ อีกทั้งยังได้เห็นเหล่าผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวอย่างล้นหลาม กระทั่งล่าสุดยังมีอีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นนามว่า OVNI โดย Amélie Pichard นักออกแบบแอ็กเซสซอรี่ชื่อดัง ที่ได้สร้างสรรค์กระเป๋ารุ่นทดลอง เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการแฟชั่นอีกครั้ง จากวัสดุที่ทั้งเป็นมิตรต่อธรรมชาติ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ก้าวข้ามไปอีกขั้น

     โดยความน่าสนใจของคอลเล็กชั่นกระเป๋าครั้งนี้ อยู่ที่วัสดุที่แบรนด์เลือกใช้ในการสร้างสรรค์ถึง 3 รูปแบบแตกต่างกัน ได้แก่ วัสดุใยสับปะรด, หนังเทียมจากกระบองเพชร และไฮไลต์สำคัญอย่าง “กระเป๋าใบแรกของโลกที่ทำจากใบหูช้างขนาดใหญ่ของบราซิล” (ฺBrazilian Elephant Ear Leaf) ทั้งใบ และสามารถใช้ได้ในชีวิตจริง โดยวัสดุมังสวิรัติแต่ละชิ้นนั้นได้ถูกนำไปดัดแปลงให้เข้ากับดีไซน์กระเป๋ารุ่น “A bag” ซึ่งนับเป็นรุ่นคลาสสิกของแบรนด์ โดยจะมีเอกลักษณ์สำคัญอยู่ที่ตัวจระเข้สีเงินที่ประดับอยู่บนกระเป๋า ที่เหล่าสาวกต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งทางแบรนด์ยังได้แสดงวิสัยทัศน์อันน่าสนใจเอาไว้ว่า “นี่คือทางเลือกใหม่ล่าสุดสำหรับลูกค้าที่เป็นมังสาวิรัติ และกลุ่มคนที่กำลังสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน”

     สำหรับกระเป๋าใบไม้รุ่นแรกของโลกใบนี้ ทางแบรนด์ได้อธิบายเพิ่มเติมเอาไว้อีกว่า ไม่เหมือนกับวัสดุธรรมชาติอื่นๆ เพราะเป็นการนำใบหูช้างไปผ่านกระบวนการผลิตให้มีค่าคาร์บอนในระดับที่เกือบเป็นกลาง ในบริเวณป่าเขตฝนของบราซิล โดยบริษัท Nova Kaeru เรียกว่า “beLeaf” วัสดุมาจากต้นหูช้างซึ่งงอกขึ้นมาใหม่ ดังนั้นแล้วจึงเป็นการันตีได้ว่าไม่มีพืชชนิดใดถูกฆ่าในกระบวนการเก็บเกี่ยวดังกล่าว ทั้งนี้บริษัทดังกล่าวยังได้ทำงานร่วมกับคนพื้นเมืองในบราซิล เพื่อผ่านกระบวนการผลิตใบไม้ชนิดนี้ขึ้นมา ก่อนที่จะนำไปผ่านกระบวนการฟอกหนังเทียมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้เส้นใยของใบไม้ที่ได้ออกมานั้นคงสภาพไม่ฉีกขาด หรือทำปฏิกิริยากับรอยขีดข่วนจนเกิดความเสียหายได้ง่าย (คุณภาพทัดเทียมกับหนัง) ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งมิติใหม่แห่งวงการแฟชั่น และการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

     เป็นเรื่องน่าสนใจว่าหลายแบรนด์แฟชั่นในตอนนี้มิได้คำนึงถึงแต่เพียงไอเท็ม หรือวัสดุในการผลิตที่เป็นมังสาวิรัติ หรือสอดคล้องไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนเท่านั้น หากนิยามของ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ยังถูกขยายความออกไปถึงกระบวนการผลิต ซึ่งยกตัวอย่างง่ายๆ จากกระบวนการส่งต่อการผลิตกระเป๋าใบไม้ดังกล่าว ที่มีการร่วมมือกับกลุ่มชนพื้นเมืองในเขตป่าฝนของประเทศบราซิล เพื่อเป็นการสร้างอาชีพให้กับชนพื้นเมือง ซึ่งก็คือ "การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ในอีกด้านหนึ่งเช่นเดียวกัน