ดิสนีย์ประกาศยกเครื่องสถานที่ท่องเที่ยว 'Jungle Cruise' ใหม่ เพื่อหยุดวัฒนธรรมเหยียดชนพื้นเมือง!

     ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของโลกดิสนีย์ก็ว่าได้ เมื่อล่าสุดได้มีแถลงการณ์ออกมาอย่างเป็นทางการจากดิสนีย์แลนด์ในเมืองแคลิฟอร์เนีย และวอลต์ดิสนีย์ เวิร์ลด์ ในเมืองฟลอริดา กำลังจะดำเนินการเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยว "Jungle Cruise" เพื่อจัดการกับประเด็นปัญหาสำคัญที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาเป็นเวลานาน เกี่ยวกับ “การเหยียดชนพื้นเมือง” ผ่านบทพรรณนา และภาพวาดโปรโมตที่ถูกใช้เพื่อการโฆษณาให้กับสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าว

     ใครก็ตามที่ได้เคยเข้าไปสัมผัสประสบการณ์กับ Jungle Cruise มาแล้ว ก็จะทราบกันเป็นอย่างดีว่า ระหว่างทางที่ทุกคนกำลังชื่นชมทัศนียภาพ 2 ข้างทางของป่าที่ดิสนีย์เนรมิตขึ้นมาอยู่นั้น เราจะได้ยินผู้บังคับการเรือทำหน้าที่พรรณนาเรื่องราวระหว่างทางให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือฟัง เพื่อสร้างบรรยากาศสมจริง หรือแม้แต่ภาพวาดโปรโมต และนั่นเองคือส่วนที่มีปัญหา เพราะบทพรรณนา และภาพวาดโฆษณาดังกล่าวมีการกล่าวอ้างถึงชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในป่าในทางลบ ตัวอย่างเช่นการทำร้ายนักท่องเที่ยว, วัฒนธรรมที่แตกต่างออกไปของชนพื้นเมือง และอีกมากมาย ที่ถึงแม้ว่าทางดิสนีย์จะออกมาทำความเข้าใจในเบื้องตันว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นจากจินตนาการของทีมงานผู้สร้างสรรค์เป็นหลัก ไม่มีเจตนาในการสร้างภาพลักษณ์เชิงลบ หรือเหยียดความเป็นมนุษย์ใดๆ เพียงต้องการสร้างประสบการณ์สุดท้าทายให้กับนักท่องเที่ยวเท่านั้น ทว่าดิสนีย์เองก็ตระหนักถึงปัญหาส่วนนี้ และตัดสินใจแก้ไขในที่สุด กระนั้นการแก่ไขในครั้งนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน ที่กำลังจะเข้าฉายในช่วงเดือนกรกฎาคม 2021 แต่อย่างใด

     การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการทางวัฒนธรรมในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อจัดการเเกี่ยวกับประเด็นปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ ที่ได้กลายเป็นสิ่งซึ่งนำไปสู่การยกเครื่องรายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์ใหม่ทั้งหมดหลายรายการด้วยเช่นกันในปัจจุบัน ซึ่งสำหรับดิสนีย์แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดิสนีย์ตระหนักถึงปัญหาที่กำลังได้รับการรณรงค์อย่างจริงจังอยู่ในเวลานี้ เพราะเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2020 ที่ผ่านมา ทางค่ายดิสนีย์ยังได้ออกมาประกาศว่า เครื่องเล่นสุดฮิตอย่าง Splash Mountain ก็กำลังได้รับการยกเครื่องใหม่เช่นเดียวกัน เพื่อลบความเชื่อมโยงกับชาวผิวสีในภาพยนตร์เรื่อง 'Song of the South' ในปี 1946 นั่นเอง อีกทั้งในช่วงปีที่ผ่านมา ค่ายยักษ์ใหญ่แห่งนี้ยังได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นคลาสสิกบางเรื่อง รวมไปถึงคำเตือนถึงภาพยนตร์ยอดฮิตอย่าง 'Peter Pan' และ 'The Aristocrats' ด้วยว่า มีการสร้างภาพลักษณ์ที่หมิ่นเหม่ของคนผิวสีรวมอยู่ในนั้นด้วย

     อย่างไรก็ตามประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเหยียดสีผิว และการเหยียดชนพื้นเมืองนั้น นับเป็นปัญหาเรื้อรังจากประวัติศาสตร์แสนอำมหิตที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ทว่าเหตุการณ์ดังกล่าวในครั้งนี้ที่ค่ายดิสนีย์ได้ออกมายกเครื่องทุกอย่างใหม่ทั้งหมด เพื่อปฏิเสธการสานต่อวัฒนธรรมเหยียดเชื้อชาติดังกล่าว ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำคัญที่จะแสดงให้เห็น และแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ประเด็นปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และยืนยันว่าความเกลียดชัง (ทั้งที่ตั้งใจ และไม่ตั้งใจ) ไม่ควรดำรงอยู่ต่อไปในอนาคตไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม...