เผยความสวยงามของการเต้นรำที่ถูกนำเสนอผ่านแฟชั่นจาก CHANEL ในงานกาล่าเปิดฤดูกาลเต้นรำปี 2024/25

     เนื่องจากแบรนด์สัญชาติฝรั่งเศส 'CHANEL' ได้ให้การสนับสนุนเปิดงานกาล่าในฤดูกาลเต้นรำตั้งแต่ปี 2018 จนถึงปัจจุบัน ในปีนี้จึงมีความพิเศษที่ได้บัลเลต์ Word for Word โดย My'Kal Stromile มาร่วมแสดงเปิดงานเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ Palais Garnier กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยจุดประสงค์ของชาเนลยังคงสานสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์กับโลกแห่งการเต้นรำซึ่งริเริ่มโดย Gabrielle Chanel เมื่อกว่าศตวรรษก่อน และในขณะเดียวกันก็ยืนยันอีกครั้งถึงการสนับสนุนกิจกรรมทั้งหมดที่ Paris Opera อีกด้วย 

 

     ความหมายของการเต้นรำในรูปแบบการเคลื่อนไหวนั้นหมายถึงการสร้างสรรค์ท่าทางได้สวยงามและพลิ้วไหวอย่างอิสระ ทว่าการเต้นรำในรูปแบบของการสื่อสารนั้นหมายถึงภาษาที่การแสดงออกถึงความงดงาม ในขณะที่บทเรียนการเต้นรำบางส่วน Gabrielle Chanel ได้เห็นถึงศิลปะการเคลื่อนไหวเรือนร่างที่แม่นยำ ซึ่งในปี 1913 กาเบรียล ชาเนลได้ตกตะลึงด้านสุนทรียะอย่างแท้จริงเมื่อเธอได้ชมการแสดงบัลเลต์ 'The Rite of Spring' เป็นครั้งแรก ซึ่งออกแบบท่าเต้นโดยนักเต้น Nijinsky สมาชิกจาก Ballets Russes ของ Serge Diaghilev Misia Sert ผู้นักสังคมสงเคราะห์และนักเปียโนชาวปารีส(แต่กำเนิดที่โปแลนด์) เมื่อผู้ก่อตั้ง Ballets Russes พยายามหาทุนสนับสนุนการฟื้นฟู The Rite of Spring กาเบรียลจึงตัดสินใจร่วมสมทบทุน ส่งผลให้การแสดงของ The Rite of Spring กลับมาแสดงต่อในปลายปี 1920

     ถัดมาในปี 1924 กาเบรียลผู้ซึ่งให้ความสำคัญกับความสบายและอิสระในการเคลื่อนไหวในการสร้างสรรค์ของเธออยู่เสมอ เธอจึงได้นำวิสัยทัศน์ของเธอมาใช้ในการเต้นรำด้วยการรังสรรค์เครื่องแต่งกายให้กับการแสดง 'Le Train bleu' อำนวยการสร้างโดย Ballets Russes และออกแบบท่าเต้นโดย Bronislava Nijinska ซึ่งความพิเศษนี้แทนที่จะออกแบบชุดบัลเลต์แบบเดิมๆ กาเบรียลกลับแต่งกายตัวละครเอกด้วยผลงานสร้างสรรค์ของเธอโดยนำเสนอแฟชั่นสมัยใหม่ที่เน้นประโยชน์ใช้สอยบนเวทีในบริบทของชีวิตประจำวัน ในช่วงหลายปีต่อจากนั้นกูตูรีเยร์ยังคงสร้างสรรค์ผลงานสำหรับโลกแห่งการเต้นรำ ตั้งแต่เครื่องแต่งกายของโชว์ 'Apollon Musagète' โดย Stravinsky และออกแบบท่าเต้นโดย Balanchine ไปจนถึงเครื่องแต่งกายของโชว์ 'Bacchanale' ซึ่งจินตนาการร่วมกับ Salvador Dalí แต่ไม่เคยได้เผยแพร่ออกไปให้ผู้ชมได้รู้จักมากนักเนื่องจากอยู่ในช่วงระหว่างการทำสงคราม ก่อนที่บัลเลต์จะเผยแพร่ไปยังเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาในปี 1939

 

     ต่อมาดีไซเนอร์ผู้เป็นบุคคลไอคอนิกแห่งวงการแฟชั่นอย่าง Karl Lagerfeld มีความหลงใหลในงานศิลปะทุกแขนงและมักจะร่วมงานกับนักออกแบบท่าเต้นอยู่บ่อยครั้ง เขาออกแบบเครื่องแต่งกายของ Elena Glurjidze สำหรับโชว์ La mort du Cygne ในปี 2009 และเครื่องแต่งกายสำหรับ pas de deux ใน B/olero ซึ่งเป็นข้อความที่ตัดตอนมาจาก Decadance โดยนักออกแบบท่าเต้นชาวอิสราเอล Ohad Naharin ซึ่งนำเสนอที่งานกาล่าของฤดูกาลเต้นรำปี 2018-2019 ณ โรงละคร Opéra national de Paris ก่อนที่ปณิธานนี้จะถูกสานต่อไปยังยุคของ Virginie Viard ผู้กุมบังเหียนของชาเนลในยุคปัจจุบัน โดยเธอสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายสำหรับบัลเลต์ เช่น Variations โดย Serge Lifar, Grand Pas Classique เป็นต้น

     ทั้งนี้ชาเนลยังสานต่องานการกุศลนี้โดยได้อุปถัมภ์เทศกาลเต้นรำ 'Gala Opening the Paris Opera' มาตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งยังคงขบวนพาเหรดบัลเลต์แบบดั้งเดิมโดยนำนักเต้นทั้งหมดมารวมตัวกันบนเวที และในระหว่างขบวนแห่นี้นักเต้นหลักจะสวมชุดกระโปรง ชุดรัดรูป และมงกุฎที่เกิดจากการสร้างสรรค์ระหว่างชาเนลและทางฝั่งโรงละคร โดยปัจจุบันเครื่องแต่งกายสุดพิเศษเหล่านี้จะถูกสวมใส่ทุกปีในช่วงเปิดฤดูกาลระหว่างขบวนพาเหรด และในปี 2023 ชาเนลกลายเป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของ Opéra national de Paris โดยจุดมุ่งหมายของความร่วมมือครั้งนี้คือการผลักดันให้ศิลปะอันสวยงามนั้นยังคงถูกอนุรักษ์และได้รับการสืบทอดต่อไป

 

     ในฤดูใบไม้ผลิปี 2024 ชาเนลผู้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการอุปถัมภ์นี้ ได้สนับสนุนการสร้างจูเนียร์บัลเลต์โดยมีจุดมุ่งหมายว่าเป็นศูนย์บ่มเพาะสำหรับพรสวรรค์ที่กำลังมาแรง โดยเปิดรับนักเต้นรุ่นเยาว์จากทุกภูมิหลัง เช่นเดียวกับนักเรียนจาก Paris Opera Ballet School ด้วยความมุ่งมั่นที่เทียบเท่าในการสร้างสรรค์และการเต้นรำร่วมสมัย ชาเนลจึงได้รังสรรค์เครื่องแต่งกายให้กับ Bal de Paris ของ Blanca Li ซึ่งทางสภายังสนับสนุนการจัดจำหน่ายในระดับนานาชาติอีกด้วย ความน่ายินดียังไม่หมดเพียงเท่านั้นเมื่อการแสดงครั้งนี้ได้รับรางวัลประเภท ‘Best Virtual Reality Experience’ ในเทศกาลภาพยนตร์เวนิสครั้งที่ 78 ในปี 2021

     เมื่อการอนุรักษ์ศิลปะการเต้นรำนี้ถูกสานต่อมาอย่างยาวนาน เรื่องนี้ยังส่งต่อถึงสภาผู้แทนราษฎรที่ได้สนับสนุนสถาบันการเต้นรำและเทศกาลต่างๆ ทั่วโลก ชาเนลเองยังเป็นพันธมิตรที่โดดเด่นของ BAAND Together Dance Festival ในนิวยอร์ก ซึ่งได้สนับสนุนคณะเต้นรำที่มีชื่อเสียงที่สุด 5 คณะในนิวยอร์ก ได้แก่ Ballet Hispánico, Alvin Ailey American Dance Theatre, American Ballet Theatre, New York City Ballet และ Dance Theatre of Harlem โดยทั้งหมดนี้ได้แสดงความโดดเด่นอันพลิ้วไหวบนเวทีอันเป็นส่วนหนึ่งของฤดูร้อนประจำปีของ Lincoln Center ด้วยความร่วมมือเหล่านี้ ชาเนลจึงเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับโลกแห่งการเต้นรำมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20

 

     หากจะกล่าวถึงสิ่งที่พิเศษสำหรับงานกาล่าของเทศกาลเต้นรำในปีนี้ หนึ่งในนั้นคงรวมถึงชุดสำหรับการแสดงบัลเลต์ 'Word for Word' อันเกิดจากความร่วมมือของชาเนลและ Opéra national de Paris ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการพบกันระหว่างโลกแห่งบัลเลต์และกฎเกณฑ์ของสภา ชวนให้นึกถึงผ้าฟล็อกที่กาเบรียล ชาเนลชื่นชอบ เรื่อยไปจนถึงผ้าไหมแจ็กการ์ดพิมพ์ลายนูนที่พัฒนาขึ้นอย่างพิเศษสำหรับการแสดงครั้งนี้ โดดเด่นด้วยลวดลายดอกคามิลเลียและโลโก้ตัว C ไขว้อันเป็นเอกลักษณ์ของชาเนล พร้อมมอบเท็กซ์เจอร์และความโล่งสบายให้เล่นกับแสง ทั้งนี้ My’Kal Stromile ยังเลือกเฉดสีดำสำหรับนักเต้นชาย และสีชมพูอ่อนสำหรับนักเต้นหญิงเพื่อความคอนทราสต์ที่เข้ากันอย่างลงตัว เช่นเดียวกับเสื้อแจ็กเก็ตของชาเนลที่ถูกนำมาตีความใหม่ ซึ่งเครื่องแต่งกายของผู้ชายประกอบด้วยเสื้อกั๊กคอสูง สไตลิ่งเข้ากับกางเกงรัดรูปและประดับด้วยสายถักทำให้ดูเหมือนกระเป๋าเสื้อ ในขณะที่เครื่องแต่งกายของผู้หญิงเป็นชุดตูตูผ้าทูลที่ห่อหุ้มด้วยผ้าออร์แกนซ่าซาตินที่ดูโปร่งสบายตา เส้นสายที่แม่นยำถูกเน้นด้วยการถักโดยสตูดิโอเฉพาะทางที่ 31 rue Cambon เป็นผู้ถักทั้งหมดสำหรับคอลเล็กชั่นโอต์กูตูร์ของชาเนล ตกแต่งด้วยกระดุมประดับอัญมณีสีทองฉลุที่ด้านหน้าชุดของผู้ชายและด้านหลังของชุดของผู้หญิง เพิ่มความโดดเด่นของแสงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

ชมลุคของแขกคนพิเศษบางส่วนเพิ่มเติมที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ได้ที่ด้านล่างนี้

 

1 / 10

2 / 10

3 / 10

4 / 10

5 / 10

6 / 10

7 / 10

8 / 10

9 / 10

10 / 10