chanel, chanel airport, chanel duty free, chanel สนามบิน
FASHION

บูติก Chanel ณ สนามบินสุวรรณภูมิกลับมาเปิดอีกครั้งพร้อมคอนเซปต์การออกแบบและไอเท็มครบครัน

ใครกำลังมีแพลนจะเดินทางต้องไม่พลาดแวะเข้าไปท่องโลกของ Chanel ที่พร้อมเสิร์ฟความพิเศษอย่างสมบูรณ์แบบ

     การกลับมาอีกครั้งของบูติก Chanel ในท่าอากาศยานบินสุวรรณภูมิ ถือเป็นข่าวและสัญญาณอันดีอย่างยิ่งที่แบรนด์ระดับตำนานจากฝรั่งเศสกลับมาเปิดบูติกอีกครั้งอย่างเป็นทางการ เพราะนี่หมายถึงความคึกคักท่ามกลางบรรยากาศการเดินทางในสนามบินก็กลับมาด้วยเช่นกัน งานนี้ทางแบรนด์จึงดึงตัว Peter Marino สถาปนิกชื่อดังผู้ร่วมงานกับชาเนลอยู่เป็นประจำมาออกแบบบูติกใหม่ โดยบูติกใหม่นี้มีขนาด 378 ตารางเมตร พร้อมทางเข้า 2 ทาง ซึ่งแบ่งแยกโซนอย่างชัดเจน เติมมิติความสวยงามดึงดูดใจด้วยการตัดแสดงหน้าจกด้วยเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2022 ที่ออกแบบโดย Virginie Viard

chanel, chanel airport, chanel duty free, chanel สนามบิน

     แรงบันดาลใจสำคัญในการออกแบบบูติกนี้คือชาเนลต้องการนำเสนอบรรยากาศความหรูหราอันโดดเด่นในบริเวณสนามบิน พร้อมทั้งเนรมิตสถานที่แห่งนี้ให้สาวกชาเนลได้ดื่มด่ำกับความเป็นชาเนลอย่างเต็มที่ การตกแต่งสะท้อนถึงอพาร์ตเมนต์อันอมตะเหนือกาลเวลาของ Gabrielle Chanel ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนชั้น 2 ณ 31 rue Cambon ในปารีส ซึ่งรายละเอียดสำคัญอย่างการใช้สียังสะท้อนถึงพาเลตต์สีที่กูตูริเยร์หลงรัก ทั้งสีดำ ขาว และเบจ รวมถึงลายกราฟิก อันแสดงความหมายถึงความโมเดิร์นที่เป็นอมตะนิรันดร์

chanel, chanel airport, chanel duty free, chanel สนามบิน

     อย่างที่กล่าวไปว่าบูติกแห่งนี้มีประตูทางเข้าถึง 2 ทาง โดยทางแรกจะพาทุกคนไปสัมผัสกับโซนเรดี้ทูแวร์และรองเท้า ซึ่งแบรนด์เลือกพื้นที่จัดวางรองเท้าไว้ด้านหน้า เชิญชวนให้ผู้หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของชาเนลได้สัมผัสกับการออกแบบไอเท็มชิ้นเด่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าสลับสี รองเท้าบัลเลริน่า เอสพาดริลล์ และสนีกเกอร์ มาพร้อมกับไอเท็มชิ้นใหม่ล่าสุดจากคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2022 ทั้งรองเท้าแตะแบบสวมหรือจะเป็นรองเท้าบัลเลริน่ารุ่นพิเศษที่มีการประดับตกแต่งสร้อยข้อเท้าเพิ่มมิติให้กับการสวมใส่



WATCH




     ถัดมาทุกคนจะได้พบห้องเรดี้ทูแวร์ที่ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับเสื้อผ้าฝีมือการออกแบบของเวอร์ฌินีจากคอลเล็กชั่นล่าสุด ที่หยิบเอากลิ่นอายความโดดเด่นของยุค ‘80s และ ‘90s มาตีความใหม่ให้ลื่นไหลไปกับความสดใหม่ของแฟชั่นยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งการใช้สีสันชวนสะดุดตา ความพิเศษอีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือการตกแต่งห้องลองด้วยผลงานภาพวาดฝีมือศิลปินร่วมสมัยชาอเมริกันอย่าง Judith Foosaner

chanel, chanel airport, chanel duty free, chanel สนามบิน

     ก้าวข้ามมาอีกทางเข้าหนึ่งลูกค้าคนสำคัญของชาเนลจะได้สัมผัสกับพื้นที่ของกระเป๋า แอ็กเซสเซอรี่ นาฬิกา และจิวเวลรี รวมถึงแว่นตากันแดด ทางแบรนด์เตรียมกระเป๋ารุ่นไอคอนิกมาเสิร์ฟอย่างพร้อมเพียง ไล่ตั้งแต่กระเป๋ารุ่น 11.12 ไปจนถึง รุ่น 2.55 สุดคลาสสิก มาพร้อมกับกระเป๋ารุ่นไอคอนิกใบใหม่ล่าสุดอย่าง CHANEL 22 ที่โดดเด่นเรื่องน้ำหนักเบาและมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวก อีกทั้งยังรักษากลิ่นอายความประณีตในการเลือกใช้หนังและตัดเย็บได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ใครเป็นสาวกไอเท็มประจำฤดูกาลของชาเนล ทางแบรนด์ก็เตรียมกระเป๋ารุ่นต่างๆ ส่งตรงจากรันเวย์มาเตรียมพร้อมที่นี่ด้วย มากไปกว่านั้นใครสนใจนาฬิกาและจิวเวลรี ในบูติกแห่งนี้ก็มีให้เลือกสรรอย่างครบครันประกอบด้วย J12, Première, Code Coco, นาฬิกา Boy·Friend และคอลเล็กชั่น Coco Crush ตอนนี้ชาเนลพร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์ระดับลักชัวรีให้กับเหล่านักเดินทางที่ถือพาสปอร์ตและกำลังจะออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ แต่ก่อนอื่นจะได้สัมผัสกับโลกของชาเนลในบูติกแห่งนี้อย่างแน่นอน โดยบูติกแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 เทอร์มินอล 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ใครกำลังจะออกเดินทางห้ามพลาดแวะชมความพิเศษที่กลับมาเปิดอีกครั้งได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

chanel, chanel airport, chanel duty free, chanel สนามบิน

1 / 3



chanel, chanel airport, chanel duty free, chanel สนามบิน

2 / 3



chanel, chanel airport, chanel duty free, chanel สนามบิน

3 / 3



WATCH

TAGS : Chanel