FASHION
เผยเบื้องหลังสร้อยไข่มุก 2 สายในตำนาน ที่มีราคาเท่ากับตึกทั้งหลังของคาร์เทียร์
|
การขุดคลองสุเอซที่อียิปต์ ค.ศ. 1859-1869 ช่วยย่นระยะทางระหว่างทวีปยุโรปและเอเชียได้ถึง 6,400 กิโลเมตร ตามมาด้วยการขุดพบสุสานตุตันคาเมนซึ่งเต็มไปด้วยทรัพย์ศฤงคารมหาศาลที่กรุงไคโรโดย Howard Carter ใน ค.ศ. 1922 สิ่งที่ไหลผ่านคลองสุเอซจึงมีมากกว่าน้ำในคลอง นั่นคือวัฒนธรรมอาณาจักรเปอร์เซีย คาร์เทียร์ตอบรับกระแสโลกเช่นเคยด้วยลายกิโยเช่ในศิลปะอิสลามที่คาร์เทียร์นำมาสลักบนหน้าปัดนาฬิกา เทียร่า Lotus Halo ที่เจ้าชาย Mohammed Shah Aga Khan III สั่งทำเป็นของขวัญให้มเหสีองค์ที่ 3 Begum Andrée Aga Khan ใน ค.ศ. 1934 และ Royal Tiara เทียร่าในสมเด็จพระราชินี Mary ในพระเจ้าจอร์จที่ 5 มีนางเอกเป็นไข่มุกน้ำหนัก 166.18 กะรัต
1 / 4
2 / 4
3 / 4
4 / 4
ย้อนกลับไปในสมัยคลีโอพัตรา ผู้คนไม่ได้ทำสงครามเหนืออ่าวเปอร์เซียเพื่อแย่งชิงน้ำมันแต่เป็นไข่มุกธรรมชาติที่ดีที่สุดในโลก ฌัก คาร์เทียร์ ออกเดินทางสู่อาณาจักรแห่งนี้ครั้งแรกใน ค.ศ. 1912 เพื่อตามล่าหาสมบัติสีขาวนวล (Blanc Nacrée) นี้เช่นกัน
“เราไปถึงน่านน้ำที่ทำประมงหอยนางรม เมื่อเวลาผ่านไปนักดำน้ำเอาหอยนางรม 200 ตัวมาให้ แต่หาไข่มุกไม่เจอเลยสักเม็ด และน้ำก็เย็นมาก งมหาได้ราวชั่วโมงครึ่งก็ต้องพัก” ฌักเขียนจดหมายจากดูไบลงวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1912 ฟรานเชสกายังเคยเล่าเกร็ดของปิแอร์ คาร์เทียร์ เอาไว้ว่าวันหนึ่งใน ค.ศ. 1916 ปิแอร์ได้วางสร้อยไข่มุก 2 สายไว้ในตู้กระจกหน้าร้าน หลังจากนั้น มันก็กลายเป็นสร้อยไข่มุกที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ด้วยสนนราคา 1 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อ Maisie Plant ภรรยาสาวของเศรษฐีชราผ่านมาเห็นสร้อยคอเส้นนี้เข้า เธอร่ำร้องอยากได้ แต่สามีไม่มีเงินสดมากขนาดนั้นจึงเจรจาขอแลกแมนชั่นกับสร้อย และปิแอร์ก็ตอบตกลง
WATCH
สร้อยไข่มุก 2 สายในตำนาน ซึ่งผู้คนเวียนเล่าจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่ของเมซง บนคอของ Maisie Plant
ค.ศ. 1956 สร้อยคอไข่มุกเส้นนี้ถูกนำไปขายหลังจากที่เมซีเสียชีวิต มันถูกตีราคาไว้แค่ 150,000 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ตึกคาร์เทียร์บนถนนฟิฟท์แอเวอนูมูลค่าทะยานขึ้นอย่างแน่แท้ว่ามากกว่าราคาที่แลกมาเสียอีก...
WATCH