ศิลปะ หรือ อนาจาร เมื่อโชว์ของ Cardi B ในงาน Grammy ถูกจวกยับจากองค์กรต่อต้านหนังผู้ใหญ่!

     ควันหลังโชว์ในงานประกาศผลรางวัลแกรมมี่ประจำปี 2021 คละคลุ้งไปทั่วโลกเพราะถือเป็นการกลับมาจัดงานเต็มรูปแบบอย่างจริงจังหลังประสบปัญหาภาวะโรคโควิด-19 ระบาดร้ายแรง ทว่าไม่ใช่ทุกโชว์ที่ได้รับผลตอบรับในเชิงบวก เพราะโชว์ของ Cardi B และ Megan Thee Stallion โดนจวกยับจากองค์การอิสระต่อต้านเรื่องเพศว่าโชว์นี้ไม่ใช่การแสดงศิลปะแต่เป็นเหมือนการแสดงอนาจารบั่นทอนการส่งเสริมพลังของผู้หญิงที่ผู้คนส่งเสริมกันในปัจจุบัน ซึ่งประเด็นนี้ร้อนแรงไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์แบบสวดยับพร้อมให้เหตุผลในการถกเถียงเรื่องนี้อย่างน่าสนใจ

     The National Center on Sexual Exploitation (NCOSE) คือองค์กรอิสระที่ออกมาวิจารณ์การแสดงนี้อย่างรุนแรง โดยพวกเขามองว่าการแสดงของศิลปินทั้ง 2 คนเป็นการส่งเสริมการเอารัดเอาเปรียบเรื่องเพศโดยไม่รู้ตัวมากกว่าเป็นการส่งเสริมพลังหญิง องค์กรต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบทางเพศโดยเฉพาะในอุตสาหรรมหนังผู้ใหญ่ที่ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1962 กล่าวว่า “โชว์นี้น่าจะถูกตัดสัญญาณออกอากาศเพราะมันเปรียบเสมือนหนังผู้ใหญ่ดีๆ นี่เอง มันไม่มีอะไรอื่นเลยนอกจากการเรียกเรตติ้ง(โดยใช้เรื่องเพศมาดึงดูด)” และผู้อำนวยการขององค์กรยังระบุด้วยว่า “การค้าประเวณีและกิจกรรมต่างๆ ประเภทเดียวกันไม่ได้ส่งเสริมผู้หญิงแม้แต่น้อย แต่เป็นเหมือนการสร้างระบบที่ทำให้ผู้หญิงถูกขีดเป็นเหมือนสินค้าและถูกกดขี่เชิงโครงสร้างต่อไป”

     ประเด็นนี้สร้างหัวข้อการถกเถียงที่น่าสนใจมากระหว่าง “สิทธิ์ทางเพศ” กับ “โครงสร้างกดขี่เชิงระบบ” สิ่งนี้ยังเป็นข้อถกเถียงกันในวงกว้างทั่วโลกแล้วว่าอิสระในการแสดงออกของผู้หญิง ความโป๊เปลือย สิทธิ์ในร่างกาย และอีกหลายประเด็นกำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ บ้างก็ว่ามันเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลไม่มีใครมาจำกัดหรือนิยามได้อีกแล้ว อิสระเรื่องเพศไม่ควรถูกตีกรอบให้ริดรอนความประสงค์ในการบริหารจัดการร่างกายและการแสดงออกของตัวเอง อีกแง่หนึ่งมันคือความเท่าเทียมและเปิดกว้างที่ส่งผ่านออกทางการแสดงออกบนโชว์ระดับโลก ทว่าระบบโครงสร้างก็น่าสนใจ เพราะการส่งเสริมให้คนเข้าระบบหรือมองระบบสีเทานี้เป็นเรื่องปกติกลับส่งผลถึงการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบทางเพศเพื่อผลประโยชน์มาโดยตลอดในโลกความเป็นจริง แฟนโว้กล่ะคิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้บ้าง ความละเอียดอ่อนที่เกิดขึ้นมันตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าเราอาจจะเปิดอกคุยกันมากขึ้น เข้าใจเหตุผลซึ่งกันและกัน มุมมองของแต่ละคนเป็นอย่างไรสามารถแสดงความคิดเห็นออกมาให้ทุกคนรับรู้ได้เช่นกัน