เปิดผนึกจดหมายสั่งลา...จากปลายปากกาแอนนา วินทัวร์ ถึงเพื่อนรักคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์

     “คาร์ลไม่เพียงดำรงตนเป็นบรรทัดฐานให้กับตัวเองเท่านั้น หากเขายังเป็นเช่นต้นแบบของเหล่าดีไซเนอร์แห่งศตวรรษที่ 21 ทั้งหลาย ผู้ซึ่งทุ่มเทให้กับงานด้วยความรัก และความสุขทั้งหมดที่เขามี...” จดหมายปิดผนึกสุดอาลัยนี้ถูกร่อนขึ้นบนเว็บไซต์ของโว้กอเมริกา ในวันที่ 5 หลังการจากไปของวีรบุรุษแห่งวงการแฟชั่น Karl Lagerfeld จากปลายปากกาของสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งวงการแฟชั่นเช่นเดียวกันอย่าง Anna Wintour ที่หล่อนเริ่มต้นบรรจงบรรยายความรู้สึกถึงเพื่อนรักผู้ล่วงลับ ด้วยความคุกรุ่นของความเศร้าที่เข้าโจมตี หากเป็นที่รู้กันของวงการแฟชั่นโลกว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่ลึกซึ้งเฉกเช่น "เพื่อนแท้"  ข้อเขียนนี้จึงเป็นดั่งจดหมายสั่งลาความสัมพันธ์ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาของแอนนา วินทัวร์ ถึงคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์...

     โดยมีใจความว่า "คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ไม่เพียงดำรงตนเป็นบรรทัดฐานของตัวเองเท่านั้น หากเขายังเป็นเช่นต้นแบบของเหล่าดีไซเนอร์แห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ซึ่งทุ่มเทให้กับงานด้วยความรัก และความสุขทั้งหมดที่เขามี การจากไปครั้งนี้ของคาร์ล ช่างเป็นเรื่องที่แสนเจ็บปวดที่ประมาณค่าได้แบบทวีคูณ เพราะเขาไม่เพียงจะเป็นผู้ที่ทุ่มแท และรักในงานที่เขาทำเท่านั้น หากการตายของคาร์ลยังนับเป็นจุดสิ้นสุดของยุคช่างฝีมือ ผู้ซึ่งทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเองอีกด้วยประการหนึ่ง คาร์ลเป็นดั่งจิตวิญญาณแห่งอุตสาหกรรมแฟชั่นที่มีชีวิต เขาไม่เคยหยุดนิ่ง เขามองไปข้างหน้า และให้ความสนใจกับวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไปอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ดังนั้นผลงานของคาร์ลจึงเป็นที่พูดถึงอยู่เสมอว่า เป็นผลงานที่ไม่เพียงแค่ยกระดับวงการเสื้อผ้าสำเร็จรูปเท่านั้น หากยังเข้าถึงการใช้ชีวิตของสุภาพสตรีอย่างแท้จริง ... สำหรับฉัน คาร์ลเป็นมากกว่าดีไซเนอร์ทั่วไป เพราะไม่ว่าจะผ่านเวลาไปอีกกี่ทศวรรษ คาร์ลก็ยังเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ และเป็นเพื่อนแท้ของฉันเสมอ"

     "เราทั้งคู่ติดต่อพบปะกันอยู่บ่อยครั้ง แต่อย่างที่หลายๆ คนทราบดีว่า คาร์ลมักจะชอบใช้เวลาส่วนตัว เพื่อการทำงานของเขาเสียมากกว่า (ซึ่งบางครั้งก็นานไปกว่าค่อนคืน จนทำให้เขานั้นไม่ใช่บุคคลที่จะมีนิสัยตื่นเข้าไปโดยปริยาย) แต่ในอีกด้านคาร์ลก็รักงานสังคมสังสรรค์จำพวกปาร์ตี้ไม่น้อย และบ่อยครั้งที่เขาก็ได้แสดงทักษะ ที่เราต่างไม่คาดคิดให้ได้เห็นกัน ดังที่ในช่วงเย็นของวันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน คาร์ลยังเคยโชว์สเต็ปการเต้นแทงโก้ในแบบคลาสสิกระดับที่หาตัวจับได้ยาก ให้เราหลายคนได้เห็นกันเป็นขวัญตา"

     "ฉันมักจะนัดทานอาหารค่ำกับคาร์ลอยู่เสมอๆ ในช่วงวันอาทิตย์แรกของสัปดาห์แฟชั่น พร้อมกับเพื่อนที่ดีที่สุดของเราอีกคนหนึ่งอย่าง Amanda Harlech (โดยไม่แยแสเรื่องงานเลยแม้แต่นิดเดียว) ฉันรู้สึกว่าการได้นั่งร่วมโต๊ะอาหารเย็นกับคาร์ลเป็นอีกเรื่องที่โชคดีที่สุด โชคดีกว่าที่ฉันได้นั่งทำงานที่โต๊ะทำงานของฉันก็ว่าได้ เพราะคาร์ลเป็นสุภาพบุรุษที่ฉลาด มีไหวพริบ และมีเสน่ห์ อีกทั้งยังมีเรื่องราวตลกๆ มาเล่าให้ฟังแบบไม่รู้จบ คาร์ลจึงกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดบนโต๊ะอาหารที่ฉันมี"

ภาพ : AFP     

 

     "คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์คนนี้ มีสายตาที่มองเห็นสไตล์ และความงามได้อย่างเป็นธรรมชาติ และน่าสนใจ อีกทั้งคาร์ลยังมีรสนิยมการแต่งตัวที่แตกต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง และคาร์ลยังสามารถสร้างสีสันให้กับโลกโซเชียล ได้มากกว่าคนอายุ 80 รุ่นราวคราวเดียวกันคนอื่นๆ อีกด้วย... หากในความเป็นจริงแล้ว คาร์ลรักการละเลียดอ่านหนังสือเพียงลำพังมากกว่ากิจกรรมอื่นเป็นไหนๆ และอย่างที่หลายคนเคยเห็นว่า เขามักจะมีกองหนังสือกองสุมอยู่รอบตัวบนโต๊ะทำงานของเขาอยู่เสมอ กระทั่งครั้งหนึ่งโต๊ะของคาร์ลยังต้องยอมจำนนต่อน้ำนักของกองหนังสือเหล่านั้นที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ด้วยการทรุดลงบนพื้นในที่สุด"

     "คาร์ลเป็นคนที่สามารถค้นหาแรงบันดาลใจได้จากทุกที่ ตั้งแต่ข่าวประจำสัปดาห์ งานศิลปะการตกแต่งในศตวรรษที่ 18 ไปจนถึงทฤษฎีทางปรัชญาของ David Hume ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครทำได้เช่นเขา เพราะหากใครได้พิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว ก็จะพบว่าคาร์ลมิใช่เพียงดีไซเนอร์ หากเขาเปรียบเป็นดั่งบุรุษแห่งยุคเรอเนสซองส์ (ผู้ฟื้นฟูศิลปวิทยาการ) ผู้ซึ่งเป็นทั้งนักภาษาศาสตร์ ช่างภาพ มัณฑนากร นักสะสม ผู้สร้างภาพยนตร์ และอีกมากมายเกินกว่าจะนับนิ้วได้"

     "ทัศนคติอันเปิดกว้าง และเปี่ยมไปด้วยพลังของคาร์ลนั้น แสดงออกให้ทุกคนเห็นอยู่เสมอ เพราะถ้าแฟชั่นคือการแสดงออกของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป การออกแบบก็คือการสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นก่อนคนอื่น และรวมมันเอาไว้ให้ในตู้เสื้อผ้า ที่จะช่วยให้ผู้คนได้ค้นพบตัวตนของตัวเอง และนั่นคือความเป็นคาร์ลที่แท้จริง สิ่งเหล่านี้มิได้สถิตอยู่เพียงในรสนิยมเท่านั้น แต่มันฝังรากลึกลงไปในจิตวิญญาณของเขาแล้วตั้งแต่เริ่มต้น เขายืนยันเสมอว่าเขาคือผู้ใช้แรงงานคนหนึ่ง ผู้ซึ่งเป็นดั่งช่างฝีมือที่พร้อมทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และผลิตผลงานใหม่ให้น่าสนใจอยู่เสมอ"

ภาพ : Pinterest

 

     "ฉันอยากจะบอกว่าเราทั้งคู่เป็นเพื่อนกันอย่างแท้จริง ฉันมักจะสวมใส่เสื้อตัวสวยฝีมือสร้างสรรค์ของคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์อยู่บ่อยครั้ง ในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานของตัวฉันเอง งานแต่งงานของลูกสาวฉัน กระทั่งเมื่อครั้งที่ฉันได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็น คุณหญิง จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ณ Franca Sozzani’s memorial service  ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะว่า ฉันรักงานออกแบบของคาร์ลเข้าอย่างโงหัวไม่ขึ้น เพราะงานออกแบของคาร์ลสามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนของฉันได้อย่างดีว่าฉันคือใคร และฉันต้องการจะเป็นอะไร หากอีกส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะการแต่งตัวของคาร์ล ทั้งชุดสวย หรือชุดสูทอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ทำให้ฉันรู้สึกสนิทกับเขา และรู้สึกปลอดภัย สะดวกสบายเมื่อได้เป็นเพื่อนกับเขา และนั่นก็คงจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันยังนึกถึงเขาได้ แม้ว่าเขาจะได้จากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม"

     " ถ้าสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตการทำงานของฉันคือ การค้นพบพรสวรรค์ใหม่ ความเจ็บปวดที่สุดของฉันในเวลานี้ ก็คงจะหนีไม่พ้นการเฝ้าดูคนที่ฉันรู้จัก และชื่นชมจากโลกใบนี้ไป... และตอนนี้ฉันก็คิดถึงเขามากที่สุด ไม่ใช่ในฐานะของนักออกแบบทั่วไป หากเป็นในฐานะของเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง คาร์ลคือเพื่อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฉัน " แอนนา วินทัวร์กล่าวทิ้งท้ายไว้เช่นนั้นบนข้อเขียนสุดท้ายถึงเพื่อนรักผู้จากไปตลอดกาล คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์...