FASHION
ผมต้องการโชว์ให้ทุกคนเห็นว่า Saint Laurent คือห้องเสื้อที่ดีที่สุด โว้กพาคุยกับ Anthony VaccarelloMake it Happen! |
ไม่ว่าจะยุคไหนชื่อของ Yves Saint Laurent หรือที่ในบัดนี้คือ Saint Laurent ก็ยังคงเป็นชื่อศักดิ์สิทธิ์ที่คนทั้งในและนอกวงการแฟชั่นต่างก็เคยสัมผัส อยากเป็นส่วนหนึ่ง คาดหวังและต้องการมีประสบการณ์ร่วมด้วยกันทั้งสิ้น เช่นเดียวกับที่ Anthony Vaccarello ดีไซเนอร์คนปัจจุบันของแบรนด์ยืนยันว่าเขาก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านี้เช่นกัน
ภาพแคมเปญประจำฤดูใบไม้ร่วง 2018 ของ Saint Laurent ภายใต้การดูแลของ Anthony Vaccarello นำเสนอโดยนางแบบดัง Mica Argañaraz / ภาพ: Inez & Vinoodh
“ผมต้องการโชว์คอลเล็กชั่นในสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิด ผมต้องการทำให้มันยิ่งใหญ่เพื่อแซงต์ โลรองต์ ผมต้องการโชว์ให้ทุกคนได้เห็นว่านี่คือห้องเสื้อที่ดีที่สุด มีตำนานสืบทอดกันมา และด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ คุณต้องจัดโชว์ให้ใหญ่” แอนโทนี วักกาเรลโล ผู้อำนวยการฝ่ายสร่างสรรค์คนปัจจุบันของแบรนด์เล่าถึงที่มาของการจัดแสดงแฟชั่นโชว์ใหญ่ของแบรนด์ที่หลังๆ มานี้ตั้งใจเล่นใหญ่ ทั้งสถานที่ รูปแบบ จำนวนชุด เรื่อยเรียงไปถึงแขกหน้าฟรอนต์โรว์และอื่นๆ อันเป็นองค์ประกอบที่ทำให้โชว์ทั้ง 3 ครั้งล่าสุดที่ผ่านมาได้รับการยกย่องจากทุกคนว่าเขานำพาแบรนด์มาสู่ยุคใหม่ของเขาเองได้เป็นที่เรียบร้อยหลังจากเข้ามารับตำแหน่งนี้ต่อจาก Hedi Slimane เมื่อปี 2016 (แต่ถูกมองว่ายังไม่สามารถนำพาแบรนด์ก้าวไปไหนไกลได้กว่าที่เอดี้เคยทำไว้)
ภาพแคมเปญประจำฤดูใบไม้ร่วง 2018 ของ Saint Laurent ภายใต้การดูแลของ Anthony Vaccarello นำเสนอโดยนางแบบดัง Mica Argañaraz / ภาพ: Inez & Vinoodh
“น้ำหนักของความเป็นห้องเสื้อของที่นี่มันช่างใหญ่โตนัก ไม่ว่ายังไงผมก็อาจจะพบกับมุมตันขนหาทางออกไม่เจอ แต่เมื่อคุณได้ก้าวเข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว คุณจะไม่ได้คิดถึงมัน ผมคิดว่าในสายตาส่วนใหญ่ของคนทั่วไป ทุกๆ คนต่างมีภาพอยู่ในหัวแล้วว่าแซงต์ควรเป็นเช่นไร ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ผมเองรู้ตั้งแต่ต้นเมื่อมาเริ่มต้นทำงานที่นี่ ผมรู้ว่าไม่ว่าผมจะทำอะไรออกมา ก็จะมีบางคนที่ชอบมัน และก็มีบางคนที่ไม่ชอบเช่นกัน ซึ่งมันเป็นสิ่งเดียวกับที่เอดี้หรือที่ Stefano Pilati เจอมาก่อนหน้านี้ ผมเองรู้สึกเฉยๆ กับสิ่งนี้ ที่จริงแล้ว ค่อนข้างโอเคเลยทีเดียวด้วยซ้ำไป” ดีไซเนอร์หนุ่มลูกครึ่งเบลเยี่ยม-อิตาลีวัย 38 ปีเปิดใจเล่าถึงคำวิจารณ์ทั้งหมดตลอดทั้ง 2 ปีกว่าที่เขาตัดสินใจเข้ามารับตำแหน่งอันทรงเกียรติที่มาพร้อมกับคำสรรเสริญและสาปแช่งในเวลาเดียวกันนี้ แน่นอนว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อมาถึงแบรนด์แห่งปารีสแฟชั่นที่ได้รับการขนานนามว่าแบรนด์เจ้าแห่ง Left Bank ที่มาพร้อมกับความขบถ และเป็นเสมือนตัวแทนความคิดของคนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับแฟชั่นที่สะท้อนตัวตนของดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งและเหล่าผองเพื่อนชื่อดังที่เป็นแฟชั่นไอคอนของโลกทั้ง Betty Catroux, Catherine Deneuve และ Pierre Berge ผู้ล่วงลับ
ภาพแคมเปญประจำฤดูใบไม้ร่วง 2018 ของ Saint Laurent ภายใต้การดูแลของ Anthony Vaccarello นำเสนอโดยนางแบบดัง Mica Argañaraz / ภาพ: Inez & Vinoodh
ตั้งแต่ยุค 1960 เรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน ชื่อของ YSL คือชื่อศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ใช่ใครก็ตามจะเข้ามาสานต่อปรับเปลี่ยน หรือรื้อถอนลงได้อย่างง่ายดาย “ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนของชีวิตคุณ ไม่ว่าคุณจะรู้จักแบรนด์หรือไม่ แต่รับรองว่ามันเคยปรากฏอยู่ในชีวิตคุณมาแล้วแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแจ็กเกตที่แม่คุณเคยสวมใส่ หรือจะเป็นภาพต่างๆ ที่คุณมีอยู่ในใจเมื่อคุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับแฟชั่น” เขายืนยัน และเราก็เห็นด้วยอย่างหมดใจ เมื่อพิจารณาว่าอย่างน้อยในยุค 1990 ที่ผ่านมา เราเอง รวมถึงเพื่อนๆ เราต้องเคยครอบครองกระเป๋าสตางค์หลากสีปั้มนูนโลโก้ตัวย่อ YSL กันมาบ้าง หรือแม้กระทั่งเคยสวมใส่แจ็กเกตซาฟารี ชุดจัมป์สูทขาสั้นสไตล์โบฮีเมียน หรือเคยรู้สึกหลงรักภาพถ่ายของหญิงสาวในชุดสูทกางเกงทักซิโด้ยืนคีบบุหรี่ท่ามกลางความมืดในมหานครปารีสที่เราเรียกกันติดปากว่า Le Smoking มาแล้วไม่มากก็น้อย
ภาพแคมเปญประจำฤดูใบไม้ร่วง 2018 ของ Saint Laurent ภายใต้การดูแลของ Anthony Vaccarello นำเสนอโดยนางแบบดัง Mica Argañaraz / ภาพ: Inez & Vinoodh
ภาพทั้งหมดเหมือนถูกรื้อและสร้างทับลงไปใหม่เมื่อเอดี้ปรากฏตัวในปี 2012 และจากแบรนด์ไปในปี 2016 ทิ้งภาพจำครั้งล่าสุดของแซงต์ โลรองต์ ชื่อที่ถูกปรับให้สั้นขึ้นและมาพร้อมกับลุคแบบสาวกรันจ์และสตรีตแวร์สวมใส่ง่าย พร้อมกับยอดขายและความนิยมที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมจนส่งผลให้แบรนด์กลับมาแจ้งเกิดจนกลายมาเป็นพันธกิจที่ทำให้แอนโทนีผู้มาสานต่อต้องทำงานหนักกว่าเดิมทั้งการสานต่อและสร้างใหม่ในเวลาเดียวกัน หนึ่งในหน้าที่แรกเลยก็คือ การตัดสินใจปิดแบรนด์ส่วนตัวเพื่อทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับแซงต์ โลรองต์ “ผมไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองขุ่นข้องอะไรเกี่ยวกับการปิดแบรนด์ส่วนตัว” เขาเล่าและยืนยันถึงความตั้งใจและทุ่มเทเกินร้อยให้กับแซงต์ โลรองต์ “ผมไม่อยากที่จะทำแต่งานหามรุ่ง หามค่ำ จนไม่มีเวลาส่วนตัว เราอยากที่จะมีเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป” ‘เรา’ ในที่นี้หมายถึงเขากับ Arnaud Michaux สามีหนุ่มวัยเดียวกันที่คบหาดูใจและใช้ชีวิตร่วมกันมานานกว่า 15 ปีตั้งแต่สมัยเรียนจนแต่งงานกันในที่สุดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทั้งคู่ช่วยกันก่อร่างสร้างแบรนด์ Anthony Vaccarello ขึ้นมา จนกระทั่งย้ายมาทำงานให้กับแซงต์ โลรองต์และช่วยกันวางทิศทางใหม่จนกระทั่งมีวันนี้
ภาพแคมเปญประจำฤดูใบไม้ร่วง 2018 ของ Saint Laurent ภายใต้การดูแลของ Anthony Vaccarello นำเสนอโดยนางแบบดัง Mica Argañaraz / ภาพ: Inez & Vinoodh
วันที่ยอดขายได้รับการยืนยันจาก Kering ค่ายเจ้าของแบรนด์ว่าเพิ่มขึ้นมากเกือบ 30% ในช่วงเริ่มต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากโชว์ใหญ่ที่มีฉากหลังเป็นหอไอเฟลแห่งปารีสประจำคอลเล็กชั่นซัมเมอร์ 2018 ก่อนจะตามมาด้วยโชว์ประจำวินเทอร์ 2018 ที่ยังคงตระการตาด้วยแสงสีเสียงจัดเต็มพร้อมด้วยชุดสวยกว่า 80 ลุค ไม่ต่างจากโชว์เสื้อผ้าผู้ชายครั้งแรกของแอนโทนีที่ทำให้กับแซงต์ โลรองต์พร้อมกับยกเอาโปรดักชั่นจัดเต็มย้ายไปแสดงที่นิวเจอร์ซี่โดยมีฉากหลังเป็นตึกระฟ้าของนครนิวยอร์ก เพื่อตอกย้ำความยิ่งใหญ่ให้ปรากฏไปทั้ง 2 ทวีป และเมื่อเสียงตอบรับสะท้อนกลับมาเป็นยอดขาย การตั้งใจเล่นใหญ่ไว้ก่อนของแอนโทนีจึงไม่ได้เป็นการลงทุนที่สูญเปล่าแต่อย่างใด “ผมตั้งใจทำเพราะคิดมาแล้ว ผมทำเพราะคิดว่ามันสำคัญ” เขายืนยัน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจนำเสนอเสื้อผ้าโดยใช้นางแบบหลากหลายตามสไตล์ Diversity ทั้งในช่วงอายุ สีผิว เชื้อชาติ ตั้งแต่ Kate Moss จนถึงหน้าใหม่สาวซูดานอย่าง Adut Akech บนชุดที่มาพร้อมกับระดับความสั้นที่ตั้งใจโชว์เรียวขาสวยของผู้หญิง ที่มาพร้อมกับความขึงขัง ดุดันด้วยการใช้โครงชุดโคร่งบนคัดติ้งคมบนชุดสีดำพร้อมด้วยวัตถุดิบหลากหลายที่มีตั้งแต่กำมะหยี่ หนัง ลูกไม้ เฟอร์ ยีนส์ ก่อนจะเติมความอ่อนหวานลงไปด้วยลายพิมพ์ดอกไม้สีสดใส ปักเลื่อม จับระบาย โชว์พร้อมกันดังที่เห็นในคอลเล็กชั่นล่าสุดประจำวินเทอร์นี้
ภาพแคมเปญประจำฤดูใบไม้ร่วง 2018 ของ Saint Laurent ภายใต้การดูแลของ Anthony Vaccarello นำเสนอโดยนางแบบดัง Mica Argañaraz / ภาพ: Inez & Vinoodh
ทั้งหมดคือความตั้งใจที่อยากปลุกเร้าให้คนรุ่นใหม่ยังคงจงรักภักดีกับแบรนด์เฉกเช่นที่เอดี้ทำสำเร็จมาก่อนหน้านี้ และที่ตัวเขาเองเข้ามาปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมจนกลายมาเป็นผู้หญิงของแบรนด์ในเวอร์ชั่นเขาเองได้สำเร็จ “มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของการปลุกเร้า มันเกี่ยวกับการมีอิสระ เรียวขาทำให้ทุกอย่างดูมีความโมเดิร์นและสปอร์ตตี้” เขาเล่าถึงลุคที่ปรากฏให้เห็นจนชินตาตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาซึ่งหลายคนมักจะบอกว่างานของเขาคือความเซ็กซี่ แต่สำหรับตัวเขาในฐานะนักออกแบบ เขากลับมองมันว่าคือความทันสมัยที่หนุ่มสาวชาวมิลเลนเนียลเป็นและอยู่กับมันจนกลายมาเป็นภาพจำแห่งยุคไปแล้วเสียมากกว่า “พวกเขาแต่งตัวนุ่งสั้นเพราะอากาศร้อนเมื่อคุณอยู่แต่ในห้อง จะแต่งตัวปิดคลุมห่มมิดไปทำไม เมื่อมันร้อน และอีกอย่างก็คือพวกเขาไม่ได้สวมใส่ชุดกระโปรงสั้นเหล่านี้กับรองเท้าส้นสูง พวกเขาสวมมันกับรองเท้ากีฬา และผมว่ามันเป็นอะไรที่ซูเปอร์คูล!”
WATCH