เปิดลุคเข้าโบสถ์รูปแบบใหม่ ที่พลิกโฉมชุดบาทหลวงและนำเสนอแฟชั่นอันจัดจ้านในศาสนสถาน

     ช่วงเวลาการเข้าโบสถ์ถือเป็นช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวคริสต์ถือปฏิบัติมาอย่างยาวนาน ดังนั้นเสื้อผ้าส่วนใหญ่ต้องคงความเรียบร้อยและสะท้อนกลิ่นอายอันผูกโยงกับศาสนา ปัจจุบันแม้จะมีการลดทอนธรรมเนียมปฏิบัติบางอย่างเพื่อความสะดวกสบายและเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ทว่าการเดินทางมาโบสถ์ยังคงเป็นที่ทราบกันดีว่าควรจะแต่งกายสุภาพเรียบร้อย วัฒนธรรมการสวมเสื้อผ้าเข้าโบสถ์เป็นส่วนหนึ่งที่รักษาความสงบเรียบร้อยเป็นอย่างดี ขึ้นชื่อว่าพื้นที่ทางศาสนาย่อมมีกฎเกณฑ์บางอย่างขึ้น แม้สิ่งนั้นจะไม่ใช่ระเบียบข้อบังคับเสียทีเดียว ทว่าการปฏิบัติต่อกันมาพร้อมทั้งการล่อหลอมเชิงสังคมยิ่งผลักดันให้ผู้คนปฏิบัติตามๆ กันมาเป็นเวลานาน

     Willy Chavarria ดีไซเนอร์จากซานฟรานซิสโกคือผู้กำลังบุกเบิกรูปแบบแฟชั่นในโบสถ์ให้มีสไตล์มากกว่าเดิม เขามีประสบการณ์ทำงานล้นหลาม รวมถึงการร่วมงานกับแบรนด์อย่าง Ralph Lauren มาแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าเขาจะสามารถออกแบบเสื้อผ้าคลาสสิกตามธรรมเนียมนิยมได้หรือไม่ เขาสามารถทำได้อย่างไร้ที่ติแน่นอน ช่วงนิวยอร์กแฟชั่นวีก เขานำเสนอคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2023 ภายใต้ชื่อแบรนด์ตัวเองด้วยคอนเซปต์แฟชั่นในโบสถ์ จัดขึ้น ณ Marble Collegiate Church ในเมืองแมนฮัตตัน ซึ่งคอลเล็กชั่นนี้เองดึงดูดสายตาของผู้เขียนจนอยากหยิบมานำเสนอให้แฟนโว้กชมให้ได้

     ชุดความคิดหลักที่ทำให้เขาต้องการนำเสนอโชว์ในโบสถ์คือ “พระเจ้าชื่นชอบความสวยงาม” อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าชุดเข้าโบสถ์มีระเบียบบางอย่างที่คอยกรอบเรื่องเสื้อผ้าเอาไว้ทั้งในแบบรูปธรรมและนามธรรม วันนี้เขาเลยฉีกกรอบนั้นด้วยการนำเสนอแฟชั่นหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าสายสตรีตทั้งเสื้อยืดโอเวอร์ไซซ์และเสื้อแจ๊กเก็ต มาพร้อมกับงานเทเลอริ่งซิลูเอตแบบ “larger-than-life” หรือสไตล์ไซซ์มหึมาคลอบหุ่นของผู้สวมใส่ ลุคเปิดมีการตีความจากชุดบาทหลวงที่ถือไม้กางเขน แต่มาด้วยเสื้อปกขนาดใหญ่เป็นสันเป็นโครงและกางเกงขากระบอกทรงตรงที่ให้ความพลิ้วไหว เพียงแค่ลุคเปิดก็ทำคนสะดุดตาและเห็นถึงความพิเศษในโชว์นี้แล้ว

     การออกแบบโดยใช้สีและซิลูเอตทรงพลังของวิลลี่ถูกตีความออกมาในแบบฉบับของความดีและสิ่งชั่วร้าย บางครั้งการเห็นเสื้อผ้าสีฉูดฉาดและแปลกประหลาดในโบสถ์อาจหมายถึงลักลั่นระหว่างสไตล์การแต่งตัวกับความสุภาพเรียบร้อยตามขนบประเพณี การออกแบบของเขาไม่ได้ต้องการเสียดสีสิ่งเหล่านั้น แต่เขามองว่าพระเจ้าคือความรักและสิ่งสวยงาม หากจะให้ตีความเจตนารมณ์ของวิลลี่คงจะถอดรหัสออกมาได้ว่า แม้รูปแบบเสื้อผ้าจะขัดกับความเคยชินหรือสิ่งที่อาจถูกตีตราว่าผิดบาป ทว่ามันคือความสวยงามรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นในโชว์ของวิลลี่ ตอนนี้เมื่อทุกคนเข้านิยามพระเจ้าคือความรักและความสวยงาม โชว์ของเขาครั้งนี้คงทำให้ทุกคนเข้าถึงพระเจ้าและเข้าใกล้สวรรค์มากยิ่งขึ้น นี่ล่ะคือการตีความศาสนาโดยใช้แนวทางความคิดแบบใหม่ ซึ่งไม่ได้ต่อต้าน เสียดสี หรือบ่อนทำลาย แต่กำลังสะท้อนชุดความคิดที่พลิกมุมมองความเชื่อผ่านแฟชั่นที่มีมิติน่าสนใจ

1 / 5

2 / 5

3 / 5

4 / 5

5 / 5

 

ภาพ: Daniele Oberrauch / Gorunway.com