|
FASHION
Q: อยากทราบว่าแท้จริงแล้วเทียร่ามาจากไหน ใครสวมได้บ้าง...#VogueAnswers ตอบคำถามแฟชั่นที่คาใจโดยทีมโว้กประเทศไทย |
คำถามแฟชั่นที่คาใจส่งมาถามโว้กสิเราจะตอบให้ ใน #VogueAnswers ซีรีย์ประจำใหม่ล่าสุดจากโว้กประเทศไทยที่จะมาตอบทุกคำถามเพื่อไขข้อข้องใจในทุกประเด็นแฟชั่นให้กระจ่าง เริ่มด้วยประเด็นที่ถูกถามมามากที่สุดในช่วงนี้ หลังจากที่โว้กปล่อยตัวอย่างบทความจากโว้กฉบับพิเศษเดือนสิงหาคม ก็มีคำถามน่าคิดในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับแฟชั่นไทยส่งมาเพียบ จึงขอยกคำตอบส่วนหนึ่งจากโว้กเล่มพิเศษมาตอบให้หายสงสัยกัน
Q: อยากทราบว่าแท้จริงแล้วเทียร่ามาจากไหน ใครสวมได้บ้าง
ภาพวาดสีน้ำมัน Spring ผลงานใน ค.ศ. 1894 ของ Sir Lawrence Alma-Tadema แสดงการเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิตามแบบชาวเพแกนที่เด็กๆ และหญิงสาวจะออกไปเก็บดอกไม้ที่บานในวันแรกของฤดูใบไม้ผลิมาร้อยเป็นมาลัยสวมศีรษะและเต้นรำกัน
V: จุดเริ่มต้นของเทียร่าหรือเครื่องประดับศีรษะของสตรีสูงศักดิ์เริ่มมาจาก “ดอกไม้แซมผม” ซึ่งหยิบยกต้นแบบมาจากเครื่องประดับที่ปรากฏในตำนานเทพปกรณัมกรีกอีกทอดหนึ่ง สืบเนื่องมาถึงชาวโรมันที่มีการจัดเทศกาลบูชาเทพธิดาแห่งดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ แต่ด้วยความที่เมื่อกาลเวลาผ่านไปเหล่าดอกไม้ก็เหี่ยวเฉา ชาวกรีกจึงได้เริ่มประยุกต์เอารูปทรงจากธรรมชาติมาประดิษฐ์เป็นเทียร่าโลหะสวมแทน ส่วนใครสวมได้บ้างเป็นข้อที่แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ในยุโรปเทียร่าเป็นเครื่องหมายของราชวงศ์ก็จริง แต่ต่อมาได้แผ่ขยายมาเป็นแฟชั่นในกลุ่มชนชั้นสูงอย่างช้าๆ และยังกลายเป็นมรดกประจำตระกูลชิ้นสำคัญที่สืบทอดกันในตระกูลนักธุรกิจผู้ร่ำรวย ส่วนในอังกฤษมีธรรมเนียมว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเท่านั้นที่จะสามารถสวมเทียร่าเข้าร่วมงานรัฐพิธีงานเลี้ยงรับรองแบบ White tie หรืองานที่ระบุว่า tiaras will be worn. ส่วนความเป็นมาของการสวมเทียร่าในดินแดนตะวันออกสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ใครมีคำถามแฟชั่นที่คาใจอยากให้โว้กช่วยตอบสามารถถามกันเข้ามาได้เลยทุกช่องทางของโว้ก ไล่ตั้งแต่คอมเมนต์ด้านล่างบทความนี้ เฟสบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และช่องทางใหม่ล่าสุดของโว้กอย่างไลน์แอด @vogueth แล้วเราจะนำมาตอบให้หายสงสัยกัน ว่าแล้วอย่ามัวแต่ปล่อยให้ตัวเองต้องสงสัย ส่งมาเลย! #VogueAnswers
WATCH
