โว้กพาย้อนรอย...กลับไปดูเส้นทาง และมุมมองแฟชั่นแบบไทยๆ ในฉบับครบรอบ ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา

     โว้กประเทศไทยถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 เมื่อนับเวลามาถึงปีนี้ก็ครบรอบ 6 ปีเต็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสิ่งหนึ่งที่ได้กลายเป็นดั่งธรรนเนียมไปแล้วเช่นเดียวกัน ก็เห็นจะหนีไม่พ้น การนำเสนอแฟชั่นเซตพิเศษ ที่เกี่ยวข้องกับวิถีไทยอันหลากหลายในฉบับครบรอบตลอด 6 ปีที่ผ่านมา สำหรับท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามโว้กประเทศไทยมาตั้งแต่ต้นก็คงจะได้เห็นแล้วว่า มุมมองความเป็นไทยโดยทีมงานโว้กที่ได้รับการนำเสนอออกไปสู่สายตาชาวโลกนั้น มีความแตกต่างอย่างน่าสนใจ หลายครั้งยังเป็นที่โจทก์ขานไปไกล ดังนั้นแล้วในวาระฉลองครบรอบ 6 ปี ก้าวสู่ปีที่ 7 ของโว้กประเทศไทยในปีนี้ เราอยากจะขอพาทุกท่านกลับไปสำรวจมุมมองวิถีไทยอันน่าสนใจในโว้กประเทศไทยทั้ง 7 เล่ม ลองมาดูกันสิว่าวิถีไทยนั้นรุ่มรวย และน่าภาคภูมิใจเพียงใด...

 

โว้กประเทศไทย ฉบับกุมภาพันธ์ ประจำปี 2556

     โว้กประเทศไทยปฐมฤกษ์ฉบับแรกในปีนั้นด้วย การหันกลับมามองรากเหง้าในแบบไทยแท้ๆ บทเล่นล้อกับภาพความงามแบบไทยโบราณผ่านสายตาอันเฉียบคมของทีมงานเบื้องหลัง ที่ความพิเศษที่กลายเป็นที่พูดถึง เป็นภาพจำ และจับตามองในขณะนั้น ยังเป็นเครื่องประดับศรีษะสีทองที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นโดยฝีมือของ Philip Treacy นักออกแบบหมวกแห่งยุค ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบหมวกใบสวยแห่งราชวงศ์อังกฤษ ที่เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากชฎา และภาพเขียนของศิลปินแห่งชาติอาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต โดยเขาได้คลี่คลายแรงบันดาลใจดังกล่าวที่เขาหลงรักตั้งแต่แรกเห็นออกมาเป็นเครื่องประดับศรีษะชิ้นพิเศษนั้น สำหรับนางแบบคนแรกบนปกโว้กอย่าง พิชญ์สินี ตันวิบูลย์ และโว้กประเทศไทย ที่พร้อมนำเสนอมุมมองแฟชั่นที่แตกต่าง และทันสมัย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาวไทย ดังที่จั่วหัวไว้ว่า Inspiration, The New Face Of Fashion นับเป็นฉบับปฐมฤกษ์เพื่อประกาศก้องการมาถึงของโว้กประเทศไทยได้อย่างงดงาม

 

โว้กประเทศไทย ฉบับกุมภาพันธ์ ประจำปี 2557

     ในปีต่อมา โว้กประเทศไทยมีโอกาสได้เฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 1 ปี ที่ครั้งนี้โว้กก็ยังคงไม่ทิ้งลาย พร้อมสร้างสรรค์สิ่งพิเศษใหม่ เริ่มต้นจากการใช้ทีมงานไทยทั้งหมดในการถ่ายทำปก และแฟชั่นเซ็ตด้านในเป็นครั้งแรก พร้อมนำนางแบบระดับโลกอย่าง Aline Weber บินข้ามฟ้ามาถ่ายแฟชั่นเซตปกที่เมืองไทย และความพิเศษอีกประการยังอยู่ที่เสื้อผ้าทั้งหมดที่ใช้ถ่ายแฟชั่นเซตในครั้งนั้น เป็นผลงานของดีไซเนอร์ชาวไทยผ่านมุมมอง และการนำเสนอที่แตกต่างกันออกไป หากมีจุดร่วมเดียวกันคือการหันกลับมามองความเป็นไทยในรากเหง้า ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจจากสีเทาของแมวไทยสีสวาด กระทั่งชุดที่เราเห็นอยู่บนปกในครั้งนั้นที่เป็นชุดกระโปรงยาวทรงตรง ต่อชายด้านหลัง ผ้าปักชาวเขาเผ่าม้ง เย้า อาข่า กะเหรี่ยงในโครงการศิลปาชีพ พร้อมเครื่องประดับกำไลงาช้าง นับเป็นการชูโรงความเป็นไทยได้อย่างเต็มขั้น ผสานกับความโมเดิร์นอย่างสากลที่น่าสนใจไปในที

 

โว้กประเทศไทย ฉบับกุมภาพันธ์ ประจำปี 2558

     ใบหน้า และสายตาที่เคยสะกดทุกคนบนแผงหนังสือมาแล้วของนางแบบซูเปอร์โมเดล Zuznna Bijoch ในชุดกระโปรงสั้นเข้ารูปไหล่เบี่ยง ผ้าไหมไทยโทนสีฟ้า พร้อมกับหมวกงอบที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากเส้นลวด ที่พร้อมยืนยันก้าวอันสวยงามในวาระครบรอบ 2 ปีนั้น ที่โว้กยังคงขอถ่ายทอดความเป็นไทยผ่านเรื่องราวต่างๆ ในแฟชั่นเซตด้านใน ตั้งแต่การพานางแบบไปเยือนอยุธยา เมืองหลวงเก่าอันรุ่มรวยไปด้วยศิลปะ และวัฒนธรรมโบราณที่ทรงคุณค่า เพื่อถ่ายทอดลุคโมเดิร์นไทยในชุดเสื้อผ้า และเครื่องประดับจากดีไซน์เนอร์ไทยทั้งหมด อีกทั้งยังมีการตีความผ้าไหมไทยใหม่ผ่านมุมมองของดีไซเนอร์ไทยแถวหน้า ที่ครั้งนั้นได้รับโจทย์จากกระทรวงวัฒนธรรมให้สรรสร้าง และพัฒนาผ้าไหมไทยให้เข้ากับโลกยุคใหม่อีกด้วย

 

โว้กประเทศไทย ฉบับกุมภาพันธ์ ประจำปี 2559

     นับเป็นอีกครั้งที่โว้กประเทศไทยเล็งเห็นศักยภาพสำคัญของทรัพยากรบุคคลในอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย กระทั่งจั่วหัวไว้ในฉบับครบรอบปีที่ 3 นี้ว่า “นางแบบระดับโลกกับแฟชั่นโดยช่างภาพไทย” ที่ในครั้งนั้นได้นางแบบท็อปโมเดลชาวรัสเซีย ผู้ที่ทำเงินได้มากที่สุดในปีนั้นตามรายงานของ Models.com อย่าง Anna Selezneva มาถ่ายทอดแฟชั่นเซตถึง 3 เซตที่แตกต่างกัน โดยฝีมือของช่างภาพแถวหน้าของประเทศไทยทั้ง 3 คน ตั้งแต่ คุณเปิ้ล-วสันต์ ผึ่งประเสริฐ, คุณณัฐ ประกอบสันติสุข และคุณจอร์จ-ธาดา วาริช ที่ยังได้ผ้าไหมไทยในโทนสีพาสเทลจาก Jim Thompson เข้ามาร่วมเฟรมด้วย นับเป็นอีกฉบับครบรอบที่มีการตีความแตกต่างออกไปจากเดิม ที่มีใช่เพียงเรื่องของวิถี วัฒนธรรม หรือขนบความเป็นไทยเท่านั้น หากครั้งนี้โว้กประเทศไทยยังชูโรงความสามารถของช่างภาพคนไทยให้ทั่วโลกได้เห็นอีกด้วย

 

โว้กประเทศไทย ฉบับกุมภาพันธ์ ประจำปี 2560

     "ความเคยชินที่แปลกตา และสวยงาม" คงจะสามารถเป็นคำนิยามให้กับโว้กประเทศไทยฉบับครบรอบ 4 ปีนี้ได้ เพราะครั้งนี้โว้กประเทศไทยมิได้มาเพียงนางแบบระดับโลก Daphne Groeneveld ที่บินตรงมาจากมหานครนิวยอร์ก เพื่อโว้กประเทศไทยโดยเฉพาะเท่านั้น หากครั้งนี้ทีมงานโว้กยังออกตามหาโลเคชั่นที่แตกต่างกว่า และแปลกตากว่าที่ผ่านมา จนมาจบลงตรงที่โลเคชั่นแถวริมคลองบางกอกน้อย สถานที่อันแสดงวิถีชีวิตแบบไทยด้วยสถาปัตยกรรมชุมชนเก่าไร้การแต่งแต้มก่อนที่เราจะได้เห็นแฟชั่นบนปกที่มีความเก๋ไก๋ เมื่อนางแบบระดับโลกโพสท่านั่งอยู่บนเรือหางยาวที่ชาวไทยคุ้นเคย แสดงความเป็นไทยชัดเจนโดยไม่ต้องตีความให้มากมาย ความน่าสนใจในครั้งนี้จึงอยู่ที่ โว้กไม่ได้ก้าวขาเข้าไปหาความหรูหราเพียงอย่างเดียว หากแท้จริงแล้วก็ยังไม่ทอดทิ้งความเคยชินที่ทุกคนสัมผัสได้ อย่างวิถีชีวิตริมคลองของคนไทยเช่นนี้ พร้อมผสมผสานด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นระดับโลกให้ดูโมเดิร์นได้อย่าลงตัว และน่าสนใจ

 

โว้กประเทศไทย ฉบับกุมภาพันธ์ ประจำปี 2561

     ในรอบครึ่งทศวรรษที่โว้กประเทศไทยเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการแฟชั่นไทยนั้น นับเป็นการบ่งชี้ว่าระบบธุรกิจ และอุตสาหกรรมแฟชั่นในเมืองไทยสอบผ่านแล้วในสายตาของ Vogue International ดังนั้นโว้กประเทศไทยจึงได้สร้างปรากฏการณ์อันเป็นที่โจทก์ขานมาจนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานอนุญาตให้กองบรรณาธิการโว้กประเทศไทยฉายพระรูป และทูลสัมภาษณ์เพื่อเชิญเป็นภาพปกฉบับครบรอบ 5 ปี ตามที่หลายๆ ท่านที่ได้ติดตามฉบับนั้นคงได้เห็นพระจริยวัตรอันสง่างาม และพระอัจริยภาพในการออกแบบของพระองค์ อีกทั้งพระองค์ท่านยังทรงเป็นตัวแทนของวงการแฟชั่นไทย และผู้หญิงไทยได้ชัดเจนที่สุด นอกจากนี้ในฉบับเดียวกันโว้กยังเฉลิมฉลองวาระครบ 5 ปีด้วยแฟชั่นชั้นสูงจากฝีมือของดีไซเนอร์ไทยผ่านมุมกล้องที่นำเสนอความขัดแย้งระหว่างชุดสุดตระการตากับซอกเมืองเก่าของกรุงเทพฯ ได้อย่างลงตัว ในชื่อเซตว่า Fabulous Five นับเป็นอีกฉบับครบรอบของโว้กประเทศไทยที่กลมกล่อมมากทีเดียว

 

โว้กประเทศไทย ฉบับกุมภาพันธ์ ประจำปี 2562

     ล่าสุดเมื่อโว้กประเทศไทยเดินทางมาถึงขวบปีที่ 6 พร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 เช่นนี้ โว้กก็ยังขอสานต่อเจตนารมณ์ที่พร้อมจะนำเสนอความเป็นไทยผ่านมุมมองสากล โดยครั้งนี้ยังได้คว้านางแบบระดับโลกอย่าง Amanda Murphy ผู้ที่ครอบครองแคมเปญโฆษณาของแบรนด์ปราด้ามากกว่า 10 ซีซั่นที่ผ่านมา ให้มาถ่ายทอดแฟชั่นสตอรี่ของกรุงเทพฯ และมุมมองในยามราตรี ที่เต็มไปด้วยพลังงานที่ไม่เคยหยุดนิ่งทั้งบนท้องถนน และบนตรอกซอกซอย ที่จะมีสถานที่ และกลุ่มคนใหม่ๆ รอให้ค้นพบอยู่ตลอดเวลา พร้อมด้วยแฟชั่นเซตอีกหนึ่งเซตที่น่าสนใจเมื่อโว้กคลี่คลายภาพความยุ่งเหยิงที่ลงตัวของผู้คน อาคารสถานที่ ให้กลายเป็นแฟชันเซต Paint The Town Red ได้อย่างแปลกตา สวยงาม และน่าสนใจ อย่างที่ชาวกรุงเทพมหานครไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างแน่นอน

     ผ่านมากว่าครึ่งทศวรรษแล้ว โว้กประเทศไทยยังคงทำหน้าที่เสิร์ฟมุมมองใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแฟชั่นอยู่เสมอ อีกทั้งยังคงไม่ทิ้งรากเหง้าความเป็นไทย เพื่อนนำเสนอให้กับสายตาของชาวโลกได้เห็น ดังนั้นแล้วก็คงจะเป็นเรื่องน่าติดตามว่าโว้กประเทศไทยจะสร้างปรากฏการณ์อะไรใหม่ๆ ให้กับวงการแฟชั่นไทยอีกหลังจากนี้ ในปีที่ 7 ของเรา... #Vogue6thAnniversary