FASHION
'The Golden Era of Louis Vuitton' เจาะลึก 5 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลุยส์ วิตตอง กลับสู่ยุคทองอีกครั้ง!#VogueScoop จากกระแสของการแข่งขัน Olympics Paris 2024 ที่เป็นมากกว่าการแข่งขันกีฬาทั่วไป แต่คือ 'โอลิมปิกแฟชั่น' ที่ตอกย้ำให้เห็นภาพของการกลับเข้าสู่ยุคทองของแบรนด์ Louis Vuitton ภายใต้การถือลิขสิทธิ์ของบริษัท LVMH อีกครั้งในปี 2024 อะไรบ้างที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ Louis Vuitton กลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่เคยหายไปจากระแสโลก ตามไปหาคำตอบกันได้แล้วที่นี่ |
จากกระแส Olympics Paris 2024 ที่กำลังครุกรุ่นอยู่ในตอนนี้ คือหนึ่งสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า หนึ่งในแบรนด์แฟชั่นระดับลักชัวรีที่เป็นดั่งหัวเรือใหญ่ของบริษัท LVMH บริษัทที่สามารถหารายได้ให้กับแบรนด์ประเทศฝรั่งเศสเป็นอันดับต้นๆ อย่างแบรนด์ Louis Vuitton แบรนด์แฟชั่นและเครื่องหนังที่มีประวัติศาสตร์และได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานจนกระทั่งปัจจุบันนั้น อาจกำลังก้าวเข้าสู่ยุคทองของตัวเองอีกครั้ง เพราะเมื่อพิจารณาแบบรอบด้านแล้ว ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ ดูเหมือนว่าอะไรๆ ในตัวแบรนด์เองก็จะลงตัวไปเสียหมด ตั้งแต่เหล่าเฮาส์แอมบาสเดอร์, ดีไซเนอร์, การผสมผสานแฟชั่นเข้ากับป็อปคัลเจอร์ เรื่อยไปจนถึงความรุ่งเรืองและความเติบโตทางรายได้ของแบรนด์ ที่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะกำลังไปได้ด้วยดี ซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่คือหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นที่มีกระแสมากที่สุดในยุคนี้
House Ambassadors
เมื่อเราต่างได้เห็นแบรนด์แฟชั่นทั่วโลกกระโจนลงเล่นในสยามกลยุทธ์ KOLs Marketing กันอย่างเข้มข้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Louis Vuitton ก็คือหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นเหล่านั้นที่ไม่ยอมพลาดเทรนด์ในครั้งนี้ ทว่าการคัดเลือกผู้คนให้เข้าไปอยู่ครอบครัวของ Louis Vuitton เพื่อร่วมทำงานด้วยนั้นก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะสิ่งแรกที่สังเกตได้ก็คือเชื้อชาติของเฮาส์แอมบาสเดอร์ที่มีความหลากหลายตั้งแต่ฝั่งฮอลลีวู้ดอย่าง Zendaya เรื่อยมาจนถึงฝั่งของตลาด K-Pop สุดฮอต ไม่ว่าจะเป็น ลิซ่า-ลลิษา, แบมแบม-กันต์พิมุกต์, แจ็คสัน หวัง และอีกมากมาย เรื่อยมาจนถึงประเทศไทยอย่าง ญาญ่า-อุรัสยา หรือแม้กระทั่งฝรั่งของประเทศอินเดียอย่าง Deepika Padukone ก็ยังได้ร่วมงานกับ Louis Vuitton ไม่เพียงเท่านั้น เพราะสาขาอาชีพของเหล่าเฮาส์แอมบาสเดอร์ที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นก็ยังหลากหลาย และล้วนแล้วแต่เป็นตัวแม่เหล็กของแต่ละอุตสาหกรรมทั้งสิ้น
The Designers
ปัจจัยสำคัญต่อมาที่ส่งเสริมให้ Louis Vuitton โดดเด่นและแตกต่างจากหลายแบรนด์ในตลาดลักชัวรีก็เห็นจะหนีไม่พ้นดีไซเนอร์จากฝั่งเสื้อผ้าผู้ชายและเสื้อผ้าผู้หญิงอย่าง Pharrell Williams หัวเรือใหญ่ฝั่งเสื้อผ้าผู้ชายที่แม้ว่าจะเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่นาน แต่ก็สามารถสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ได้อย่างไร้ข้อกังขาตลอดหลายซีซั่นที่ผ่านมา จนกลายเป็นที่พูดถึงในวงสนทนาของคนแฟชั่นทั่วโลก และอีกคนอย่าง Nicolas Ghesquière ที่เพิ่งเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีกับการกุมบังเหียนที่ Louis Vuitton ไปหมาดๆ พร้อมต่อสัญญาอีกยาวๆ กับแบรนด์ หนึ่งในดีไซเนอร์ที่มีลู่ทางการสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองที่แตกต่างไม่เหมือนใคร และยังคงเป็นเช่นนั้นเสมอมาจนถึงตอนนี้
Olympics Paris 2024
WATCH
หลายคนต่างทราบกันดีว่า Olympics Paris 2024 ที่ถูกจัดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปีนี้ ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากบริษัท LVMH บริษัทผู้ถือลิขสิทธิ์แบรนด์แฟชั่นลักชัวรีหลายแบรนด์ หนึ่งในนั้นคือ Louis Vuitton โดยทุ่มเงินลงทุนไปมากกว่า 5,600 ล้านบาท เพื่อใช้พื้นที่ของมหกรรมกีฬาการแข่งขันโอลิมปิกเป็นอีกหนึ่งรันเวย์ปล่อยของให้กับแบรนด์ในเครือ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘โอลิมปิกแฟชั่น’ ก็ไม่ปาน ทำให้เราได้เห็นทั้งถาดเชิญเหรียญรางวัลที่สนับสนุนการสร้างสรรค์โดยแบรนด์ Louis Vuitton เรื่อยไปจนถึงหนึ่งในซีนการแสดงเปิดการแข่งขันโอลิมปิกที่ได้ไทอินเหล่าหีบในตำนานของ Louis Vuitton กระทั่งงานปาร์ตี้ก่อนพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 ในชื่อ ‘The Prelude’ ที่เนรมิตให้พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Foundation Louis Vuitton เป็นพื้นที่สังสรรค์พบปะกันของเหล่าคนแฟชั่นและคนกีฬาก่อนการแข่งขันจริงจะเริ่มต้นขึ้น และรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่ปรากฏอยู่ในโอลิมปิกครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและแยบยล
LVMH Sales Growth
แม้ว่าการจับจ่ายใช้สอยของตลาดจีนซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตลาดหลักสำคัญของโลกแฟชั่นปัจจุบันจะชะลอตัวลงและส่งผลกระทบต่อแบรนด์แฟชั่นทั่วโลก แต่กลุ่มแบรนด์ในเครือ LVMH ที่นำโดย Louis Vuitton นั้นกลับสามารถโตขึ้น แม้จะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ และคิดเป็นรายได้ราว 22.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่สองของปี 2024 ที่ผ่านมาเท่านั้น แต่เมื่อเทียบการเติบโตกับบริษัทอื่นๆ ก็นับว่า LVMH นั้นทำผลงานได้ดีพอใช้ และเมื่อเปรียบเทียบไตรมาสแรกจะพบว่ารายได้นั้นเพิ่มขึ้นถึง 3 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งการเติบโตเป็นเลขสองหลักในปี 2023 ที่ผ่านมา เมื่อผู้บริโภคในตลาดสำคัญๆ ในจีนทุ่มซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเมื่อพวกเขาหลุดพ้นจากการล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดโควิด ก็ยังเป็นสิ่งที่การันตีการเติบโตของ LVMH ได้อย่างดี
Fashion & Pop Culture
ปัจจัยสำคัญสุดท้ายที่เข้ามาช่วยเสริมทัพให้โลกของ Louis Vuitton หมุนกลับมาสู่ยุคทองอีกครั้ง ก็คงจะต้องยกให้กับการวางหมากกลยุทธ์งานดีไซน์และงานประชาสัมพันธ์ด้านการตลาด ที่ไม่ได้ให้ความสนใจแค่เพียงเรื่องของรายละเอียดเสื้อผ้าหรือไอเท็มเท่านั้น ทว่ายังผสานรวมเอาสิ่งที่เรียกว่า ‘Pop Culture’ เข้ามาอยู่เป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ของแบรนด์ในปัจจุบัน ที่ช่วยพาให้ Louis Vuitton ไปได้ไกลกว่าแค่แบรนด์แฟชั่น แต่ยังเป็นแบรนด์ที่เชื่อมโยงไปสู่ศิลปะ ดนตรี สถาปัตยกรรม และอีกมากมายหลายแขนง ชัดเจนที่สุดต้องยกให้กับการเข้ามาของ Pharrell Williams ที่ยิ่งทำให้ภาพของแฟชั่นที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมป็อปของ Louis Vuitton นั้นชัดเจนยิ่งขึ้นตั้งแต่คอลเล็กชั่นแรกที่เปิดตัว ปักหมุดหมายลู่ทางน่าสนใจหลังจากนี้ให้กับ Louis Vuitton ให้แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีกขั้น
ภาพ : จินาภา ฟองกษีร
WATCH