รวบรวบทุกโปรเจกต์คอแลบอเรชั่นช่วงแฟชั่นวีกที่พร้อมเสิร์ฟไอเท็มชิ้นเด็ดให้ทุกคนได้ตื่นเต้น

โปรเจกต์คอแลบอเรชั่นคือแนวทางของโลกแฟชั่นยุคใหม่ แบรนด์น้อยใหญ่จำนวนมากแต่จับมือกับพาร์ตเนอร์ในหลากหลายวงการ โดยการก้าวออกจากกรอบหรือแนวทางดั้งเดิมของแบรนด์นั้นสร้างเซอร์ไพรส์และปรากฏการณ์ความตื่นเต้นได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแบรนด์แฟชั่นจำนวนมากมักเลือกแบรนด์กลิ่นอายสปอร์ตเพื่อเสริมสร้างแฟชั่นในสไตล์ที่มีความแปลกแตกต่างจากแนวทางฉบับเดิม บางแบรนด์ก็จับมือกับแบรนด์จิวเวลรี ซึ่งในช่วงแฟชั่นวีกประจำคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ช่วงปลายเดือนกันยายนถึงตุลาคม 2024 มีแบรนด์จำนวนไม่น้อยที่นำเสนอโปรเจกต์คอแลบอเรชั่นจนกลายเป็นกระแสและทำให้สาวกแฟชั่นทั่วโลกตั้งตารอ วันนี้ #VOGUESCOOP จะพาไปย้อนชมว่ามีโปรเจกต์อะไรที่โดดเด่นบนรันเวย์และน่าจับตามองบ้าง

• AVAVAV x ADIDAS

โชว์วันสุดท้ายของมิลานแฟชั่นวีกที่ทุกคนตั้งตารอคือ AVAVAV แบรนด์ฝีมือการออกแบบของ Beate Karlsson ดีไซเนอร์สัญชาติสวีเดนผู้สร้างปรากฏการณ์ความไวรัลแทบทุกครั้ง ซึ่งในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 เธอรังสรรค์รันเวย์ด้วยบรรยากาศลู่วิ่งนำเสนอกลิ่นอายสปอร์ตเต็มรูปแบบ แฟนๆ หลายคนอาจสงสัยว่าจากเดิมโชว์ถึงจัดกลางแจ้งในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้น แต่เมื่อคอลเล็กชั่นค่อยๆ ถูกเผยโฉมออกมาเรื่อยๆ พร้อมคอนเซปต์ “การไล่ล่าสถิติโลกด้านการวิ่งแข่ง” ก็ทำให้เห็นโปรเจกต์จับมือกับ ADIDAS แบรนด์กีฬาชื่อดังที่มาพร้อมดีไซน์สุดล้ำ ฉีกกรอบเสื้อผ้ากีฬาแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแฟชั่นแบบมีเอกลักษณ์ แปลกตา รวมถึงผสมผสานความจัดจ้าน เสื้อแจ็กเก็ต กระโปรง กางเกงวอร์ม รองเท้ากีฬา กระเป๋าอุปกรณ์ ฯลฯ ทั้งหมดถูกรังสรรค์ขึ้นมาทั้งในรูปแบบของการดัดแปลงและสร้างใหม่ รับรองว่าคอลเล็กชั่นนี้จะเต็มไปด้วยไอเท็มเก๋ที่แฟนๆ จากของทั้ง 2 แบรนด์รอคอยอย่างแน่นอน

• THE ATTICO x NIKE

อีกหนึ่งแบรนด์สุดร้อนแรงที่อาจไม่ใช่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ ณ มิลานแฟชั่นวีกคือ THE ATTICO ที่นำเสนอรูปแบบผลงานความเซ็กซี่เย้ายวนผสมผสานกับความแข็งแกร่ง สะท้อนภาพผ่านซิลูเอตและรายละเอียดการตกแต่งเสื้อผ้า ทว่าเซอร์ไพรส์สำคัญไม่ใช่ฉากหลังอันงดงามของโคมระย้าที่ผุพังหรือเสียงแก้วแตกเป็นเสี่ยงๆ ทว่าเป็นผลงานคอแลบอเรชั่นกับแบรนด์กีฬาชั้นนำอย่าง NIKE ซึ่งถูกนำเสนอในรูปแบบเสื้อผ้ากีฬาและเสื้อผ้าออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ผลงานเสื้อผ้ากีฬาดังกล่าวยังถูกปรับโฉมให้มีความเชื่อมโยงจากกับแบรนด์เจ้าของโชว์มากขึ้น มีรายละเอียดของงานฟอก เรื่อยไปจนถึงการสไตลิ่ง โดดเด่นด้วยไอเท็มอย่างบอดี้สูท บราท็อป แจ็กเก็ต ถุงเท้า และที่ขาดไม่ได้คือรองเท้าสนีกเกอร์ที่จะเป็นที่ต้องการของสาวๆ ในอนาคตอันใกล้

• SUNNEI x CAMPER

สำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของแบรนด์ SUNNEI หลายคนจับจ้องว่าจะพบกับเซอร์ไพรส์แห่งกิมมิกที่ถูกนำเสนออย่างจัดจ้านทุกครั้งหรือไม่ คำตอบคือไม่ เพราะแบรนด์เลือกนำเสนอเสื้อผ้าในแบบที่เรียบง่ายมากขึ้น มาพร้อมคอนเซปต์ “10 ปีเหมือน 100 ปี” เปรียบเทียบความเหนือกาลเวลาและการยืนหยัดในแนวทางของตัวเองอย่างมั่นคง ทั้งยังนำเสนอด้วยมิติรายละเอียดต่างๆ ที่สะท้อนถึงอายุที่มากขึ้นแต่ยังเป็น “SUNNEI People” แม้เสื้อผ้าจะผสมผสานความเรียบง่ายกับความจัดจ้านในสไตล์ของแบรนด์อย่างชัดเจน อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือรองเท้าที่จับมือกับแบรนด์ CAMPER เสิร์ฟความเด่นชัดของรูปแบบสไตล์ของโชว์ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสีสัน ลวดลาย หรือแม้กระทั่งการสไตลิ่ง ถือเป็นอีกโปรเจกต์คอแลบอเรชั่นที่อาจไม่ได้หวือหวาเตะตาตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็เป็นไอเท็มน่าเก็บสะสมไว้ในตู้สักคู่

• COPERNI x SWAROVSKI

ในขณะที่ผู้คนกำลังตื่นเต้นกับโชว์ COPERNI ที่จัดขึ้น ณ ดิสนีย์แลนด์ กรุงปารีส โชว์ปิดท้ายปารีสแฟชั่นวีกครั้งนี้เต็มไปด้วยสีสันบริเวณแฟนตาซีแลนด์ คอนเซปต์การหยิบยกไอเดียจากตัวละครดิสนีย์หรือไอเท็มดิสนีย์คุ้นตามาแปรเปลี่ยนให้เป็นคอลเล็กชั่นบนรันเวย์ของแบรนด์ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดแบรนด์หนึ่ง ณ ขณะนี้สร้างความคึกคักให้กับโลกแฟชั่นเป็นอย่างมาก รวมถึงสร้างความประทับใจให้กับสาวกดิสนีย์ทั่วโลก ถึงกระนั้นแบรนด์ก็ไม่ลืมนำเสนอไอเท็มชิ้นเด่นบนรันเวย์กับกระเป๋ารุ่น “Swipe” ที่จับมือร่วมกับ SWAROVSKI นำเสนอผลงานกระเป๋าคริสตัลที่ใช้คริสตัลคุณภาพสูง 171 ชิ้น (น้ำหนักรวมประมาณ 10 กิโลกรัม) และใช้เวลาในการรังสรรค์นานถึง 110 ชั่วโมง ผ่านมือช่างผู้ชำนาญกว่า 14 คน เบ็ดเสร็จออกมาเป็นกระเป๋าคริสตัลรูปทรงคุ้นตาที่มีน้ำหนักกว่า 1.7 กิโลกรัม ถือเป็นไฮไลต์สำคัญปิดท้ายปารีสแฟชั่นวีกที่ได้รับการพูดถึงไม่แพ้สถานที่จัดโชว์เลยทีเดียว

• MM6 x DR.MARTENS

สาวก Maison Margiela ที่ชื่นชอบไลน์ MM6 คงจะคุ้นเคยกับโปรเจกต์คอแลบอเรชั่นอันน่าตื่นเต้นกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานรองเท้าที่มักจะได้รับความสนใจจากคอแฟชั่นสตรีตหรือแฟนพันธุ์แท้มาร์จีล่า อย่างเช่นการจับมือกับ CONVERSE รังสรรค์รองเท้าผ้าใบสีคลาสสิกที่ถูกเคลือบผิวนอก และสร้างเอฟเฟกต์แตกต่างกันไปตลอดช่วงเวลาที่สวมใส่ ในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ความทรงจำอันหอมหวานนั้นหวนคืนอีกครั้งด้วยการจับมือกับแบรนด์ DR.MARTENS สุดยอดแบรนด์รองเท้าที่ก้าวผ่านเทรนด์แฟชั่นมาทุกยุคทุกสมัย โดยครั้งนี้นำเสนอรองเท้าบู๊ตคู่ไอคอนิกเคลือบด้วยสีขาวเช่นเดิม ความเลอะเทอะเปรอะเปื้อนกลายเป็นมนต์เสน่ห์ของแบรนด์ที่ทุกคนถวิลหา

• UJOH x REEBOK

แบรนด์ UJOH โดยดีไซเนอร์คู่สัญชาติญี่ปุ่นได้รับการจับตามองกับผลงานการตีความรูปแบบงานเทเลอริ่งด้วยการรื้อถอนโครงสร้างและผสมผสานความเนี้ยบประณีตเข้ากับความขบถ พร้อมสร้างรูปทรงและซิลูเอตที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ความละเอียดลออ และรายละเอียดความพลิ้วไหวถูกเสริมสร้างขึ้นอย่างเป็นประจักษ์ ถึงกระนั้นก็สร้างสมดุลด้วยกลิ่นอายสปอร์ตที่สอดแทรกเข้ามาด้วยการจับมือกับแบรนด์ REEBOK นำเสนอเสื้อแจ็กเก็ตกึ่งโค้ต และไอเท็มที่ชวนให้นึกถึงกลิ่นอายสปอร์ตแบบวินเทจ พร้อมทั้งสร้างเลเยอร์ผ่านรูปแบบการสไตลิ่ง และทั้งหมดก็ยังเข้ากันได้ดีกับวิถีแฟชั่นในรูปแบบของแบรนด์เป็นอย่างดี

• FENDI x RED WINGS

FENDI คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 โดย Kim Jones (และเป็นคอลเล็กชั่นส่งท้ายก่อนก้าวลงจากตำแหน่ง) เน้นย้ำวิถีความเฟมินีนด้วยเสื้อผ้าที่มีความพลิ้วไหวเบาบาง ในขณะเดียวกันก็คงซิลูเอตที่มีความเด่นชัดได้อย่างพอเหมาะพอดี แต่คอนทราสต์อยู่ที่รองเท้า RED WINGS รองเท้าบู๊ตสุดไอคอนิกที่เดินทางข้ามเวลาและถูกนำมาสู่ผสมผสานเข้ากับสไตล์หลากหลายรูปแบบ ซึ่งเดิมทีรองเท้าบู๊ตสายลุยถูกประทับตราว่าเป็นไอเท็มแสนแมสคิวลีน หรือเป็นไอเท็มสำหรับสายบุกสายลุก แต่การปรากฏขึ้นบนรันเวย์เฟนดิครั้งนี้ทำให้เกิดมิติใหม่ๆ ของรองเท้าคู่นี้ นอกจากนี้ด้วยเรื่องราวความเก่าแก่และรากฐานแห่งงานฝีมือชั้นยอด ทั้ง 2 แบรนด์จึงจับมือรวมกันสร้างรองเท้าบู๊ตคลาสสิกที่มีประทับโลโก้และรองเท้าหนังสีพื้น กระตุ้นต่อมความต้องการของแฟนๆ ทั้งของเฟนดิและเรดวิงส์อย่างถึงที่สุด

• CECILIE BAHNSEN x THE NORTH FACE

ปิดท้ายลิสต์แห่งการคอแลบอเรชั่นครั้งนี้ด้วยผลงานของแบรนด์ CECILIE BAHNSEN กับ THE NORTH FACE โดยคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ภายใต้ชื่อ “The Crux” ถูกนำเสนอในรูปแบบของผลงานการตัดเย็บที่มอบมิติชั้นเชิงแบบเฟมินีน เชื่อมโยงระหว่างรายละเอียดความพลิ้วไหวอ่อนโยนเข้ากับรูปทรงที่หนักแน่น ในขณะเดียวกันก็สอดประสานไปกับวิธีการจัดเรียงเลเยอร์และการจับคู่วัสดุ หรือแม้แต่รายละเอียดการตกแต่งใหม่ๆ ชุดเดรสสั้นตัวจิ๋วถูกประดับด้วยดอกไม้ หรือจะเป็นชุดปักประดับที่แมตช์เข้ากับเสื้อกันลม ความหลากหลายที่เหมือนเป็นการทดลองทำให้การเข้ามาของแบรนด์สายแอกทีฟมีบทบาทและสร้างความตื่นเต้น การค้นหามิติการผสมผสานใหม่ๆ คือคำตอบที่น่าสนใจ แจ็กเก็ตกันลม กระเป๋าใบใหญ่ รองเท้าบู๊ตข้อสั้น และไอเท็มอีกหลายต่อหลายชิ้นถูกนำเสนอด้วยการคลุกเคล้าเสน่ห์ของทั้ง 2 แบรนด์เข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังแอบเผยรองเท้าสนีกเกอร์คู่ใหม่ โปรเจกต์คอแลบอเรชั่นครั้งต่อไปกับ ASICS บนรันเวย์อีกด้วย ถือว่า “CB” นำเสนอโชว์ที่อัดแน่นด้วยการคอแลบอเรชั่นอย่างแท้จริง