#VOGUExMLB เจาะลึกเคมีความสัมพันธ์ “จุง-ดัง” และเป้าหมายสู่ความสำเร็จที่ผลักดันชีวิตทุกมิติ

“เคมีที่เข้ากันอันไม่มีที่สิ้นสุด” รูปแบบชีวิตของ 2 นักแสดงไฟแรงอย่าง “จุง-อาเชน ไอย์ดึน” และ “ดัง-ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ” ที่สามารถต่อยอดเคมีความเข้ากันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ผลงานร่วมเรื่องจนถึงปัจจุบัน เส้นทางความสำเร็จและมุมมองของพวกเขาถ่ายทอดผ่านตัวตนในฐานะนักแสดงและผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงบันเทิงยุคใหม่ของประเทศไทย ครั้งนี้พวกเขาเตรียมเดินหน้าบนถนนสายแฟชั่นไปพร้อมกันในแฟชั่นเซ็ตกับแบรนด์ MLB ซึ่งสะท้อนภาพความสนุกของคนรุ่นใหม่และเคมีที่เชื่อมโยงทั้งคู่ด้วยสไตล์ความสดใหม่ที่ไม่มีวันสิ้นสุดเช่นกัน

#VOGUExMLB โว้กพาแฟนๆ สัมผัสกับประสบการณ์การทำงาน มุมมองด้านแฟชั่น แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง รวมถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบสื่อบันเทิงและความสำเร็จในการเป็นนักแสดงมืออาชีพ คู่ “จุง-ดัง” จึงไม่เพียงแต่ถ่ายทอดความสนุกผ่านหน้าจอเท่านั้น แต่ยังถ่ายทอดเคมีความเข้ากันจนสร้างสัมพันธ์ที่แฟนคลับหลงใหล ติดตามเรื่องราวของทั้งคู่ได้ในบทความนี้

“ความเป็นธรรมชาติคือรากฐานของเคมีที่โดดเด่น” จุงเผยว่า “แอบเขินถ้าพูดถึงตัวเอง แต่คิดว่าเป็นการที่เราอยู่ด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน” ความเรียบง่ายของความสัมพันธ์ที่เป็นธรรมชาติที่ทำให้แฟนคลับหลงใหลกับคู่นี้อยู่เสมอ โดยดังเองก็พูดถึงประเด็นนี้ในรูปแบบเดียวกันพร้อมเสริมว่า “เหมือนว่าเราต่อสู้มาด้วยกัน” ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้นำเสนอแค่ผลงานซีรี่ส์ แต่ยังเสิร์ฟความสนุกปนรอยยิ้มให้แฟนๆ ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลากหลายช่องทาง นั่นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หลายคนหลงเสน่ห์ความเป็นธรรมชาตินอกจอพร้อมกับชื่นชมผลงานการแสดง ซึ่งหมายถึงเคมีของทั้งคู่เชื่อมกันเป็นเส้นตรงแบบไม่มีรอยประใดๆ

การเติบโตบนเส้นทางการแสดงของทั้งคู่ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะจากบทบาทเด็กน้อยวัยใสสู่ความจริงจังและลักษณะนิสัยเข้มข้นถึงอารมณ์มากขึ้น โดย Stars In My Mind สะท้อนภาพความสัมพันธ์ของเนื้อเรื่องที่วัยเยาในรูปแบบสดใส ส่วน Hidden Agenda หรือวาระซ่อนเร้นนั้นล้ำลึกยิ่งกว่าเดิม “การแสดงในตัวละครโซ่ท้าทายมากขึ้น เพราะมีซีนอารมณ์หลากหลาย รวมถึงการฝึกโต้วาทีอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการใช้ศัพท์เฉพาะ ต้องศึกษาพยายามกับบทมากขึ้น” ดังเผยถึงความท้าทายที่เกิดขึ้น จุงกล่าวอีกว่า “ผลงานเรื่องวาระซ่อนเร้นเป็นการแสดงที่พวกเราไม่เคยเล่นมาก่อนในชีวิต” นับเป็นอีกหนึ่งก้าวเดินที่ไม่เพียงแต่นำเสนอมิติใหม่ให้กับผู้ชม แต่ยังเป็นดั่งด่านการฝึกเพื่อพัฒนาฝีมือในฐานะนักแสดงให้มีคุณภาพมากขึ้นอีกด้วย

ประเด็นสำคัญต่อเนื่องจากการพัฒนาฝีมือคือมุมมองเกี่ยวกับบทบาทนักแสดงคู่ชาย-ชายที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน “จริงๆ เราเคารพกับบทที่เราได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม” จุงพูดถึงประเด็นความเป็นมืออาชีพเพื่อสวมบทบาทอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเขาก็พูดถึงจินตนาการของผู้ชมที่สร้างเคมีสัมพันธ์เชื่อมโยงไม่ว่าเพศใดก็ตาม โดยบทบาทของซีรี่ส์นั้นสามารถตอบสนองความต้องการที่อาจมุ่งเน้นกรุยทางความรู้สึกมีความสุขของผู้ชมผ่านการเชื่อมโยงบุคคลหรือตัวละครให้อยู่และมีโมเมนต์ร่วมกัน สำหรับดังนั้นมีมุมมองความเป็นอาชีพที่สอดคล้องกันโดยเขาระบุว่า “ผมว่าไม่มีอะไรที่พิเศษไปกว่านักแสดงมืออาชีพ ไม่ว่าจะแสดงอะไรก็ต้องศึกษาบท หาความเชื่อมโยง คุยกับผู้กำกับ รวมถึงเราต้องวิเคราะห์แบ็กกราวน์ตัวละคร เพราะเบื้องหลังตัวละครสำคัญมาก” สิ่งสำคัญของดังคือการสื่อสารตัวละครออกมาให้ดีที่สุดไม่ว่าจะมีบทบาทอย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงดังถึงเรื่องประเด็นซีรี่ส์วายว่าคิดเห็นไรอย่างไรเกี่ยวกับความโดดเด่นในยุคปัจจุบันของผลงานประเภทนี้ที่อาจกรุยทางสู่ความสำเร็จได้มากกว่าหรือไวกว่าผลงานประเภทอื่น ซึ่งดังก็เผยว่า “มันอยู่ที่บทบาทที่ได้รับมากกว่า แม้ความสนิทสนามระหว่างกันจะมีส่วน แต่ก็อยู่ที่บทบาทว่าสามารถทำให้ผู้ชมอินได้หรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นวายหรือไม่วายคิดว่าถ้าบทดี ทำให้คนชอบได้รู้สึกว่าผลงานนั้นคนก็น่าติดตาม”

เมื่อจุงกับดังก้าวสู่แวดวงบันเทิงเต็มตัว อีกหนึ่งสายที่ทั้งคู่กำลังมีโอกาสสัมผัสอย่างเต็มที่มากขึ้นคือประสบการณ์ด้านแฟชั่น มุมมองของจุงมองว่างานแฟชั่น ณ ปัจจุบันของเขาเหมือนเส้นทางต่อยอดจากนักแสดง หลังจากเริ่มมีชื่อเสียงก็มีโอกาสสัมผัสกับเส้นทางสายนี้มากขึ้น ประกอบกับความชอบส่วนตัว ดังนั้นแฟชั่นจึงเปรียบเหมือนสิ่งสำคัญในชีวิต อีกทั้งช่วยผลักดันให้คาแร็กเตอร์ส่วนตัวมีมิติขึ้นอีกระดับ ส่วนดังมองว่าไม่ว่าจะเป็นแวดวงบันเทิงกับวงการแฟชั่นให้ความสนุกในรูปแบบที่ต่างกันไป มีวิธีการทำงานที่หลากหลาย สร้างประสบการณ์ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม เมื่อก่อนเคยออกกองท่องบทเป็นหลัก เปลี่ยนแปลงสู่การซ้อมเดินแบบ ถ่ายแบบ หรือแม้แต่การศึกษาทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับความลึกซึ้งด้านแฟชั่น “โดยส่วนตัวชื่นชอบแฟชั่นหลากหลายรูปแบบ เราตื่นเต้นที่เห็นเสื้อผ้าบนรันเวย์ ทำให้เราอยากใส่ มันเก๋ดี หรือของวินเทจก็เป็นสไตล์ที่ชื่นชอบ สูทแคชชวล กระเป๋าแฟชั่น” และเขาก็ยังพูดถึงจุงเกี่ยวกับความชอบของคู่นักแสดงของเขาด้วยว่า “เขาชอบสไตล์สปอร์ต หลายครั้งก็เห็นสไตล์คล้ายกันแต่มีกลิ่นอายความสปอร์ตมากกว่า” ในส่วนของจุงก็พูดถึงดังในแง่มุมความน่ารักเกี่ยวกับคุณแม่ที่เป็นเหมือนสไตลิสต์ส่วนตัวของดังเสมอ “ทุกวันนี้คุณแม่ยังช่วยดังจัดเสื้อผ้า โดยเฉพาะงานที่ต้องจัดชุดเอง แม้แต่ตัวดังเองก็ชื่นชอบการแต่งตัวที่มีสไตล์เฉพาะตัวเหมือนกัน” นอกจากจะพูดถึงสไตล์ของดังแล้วเขายังไม่ลืมที่จะเอ่ยมุมน่ารักๆ ของคุณแม่และความสัมพันธ์ที่สนิทแน่นแฟ้นชวนอมยิ้ม

ครั้งนี้ทั้งจุงและดังมีโอกาสร่วมงานถ่ายแฟชั่นเซ็ตกับแบรนด์ MLB ซึ่งแน่นอนว่าทั้งคู่ก็มีความประทับใจในการสรรสร้างผลงานแฟชั่นครั้งนี้ โดยจุงชอบลุคเสื้อยืด กางเกงวอร์ม รองเท้าสนีกเกอร์ ให้กลิ่นอายความเรียบง่ายแต่ซ่อนรายละเอียดน่าสนใจดึงดูดสายตาด้วยการเล่นกิมมิกผ่านการสไตลิ่งได้อย่างแนบเนียน ในส่วนของดังเขารู้สึกชื่นชอบเป็นพิเศษ “MLB เป็นแบรนด์ที่ผมใช้มาตลอดอยู่แล้ว รองเท้าสนีกเกอร์สัญลักษณ์ ‘New York Yankees’ ก็ใส่มานาน หรือพวกเสื้อเบสบอลเราก็ชอบ” ดังรู้สึกเชื่อมโยงกับไอเท็มแฟชั่นเหล่านี้เป็นทุนเดิม เขาจึงประทับใจการถ่ายแฟชั่นเซ็ตครั้งนี้ จนถึงขั้นเอ่ยปากว่า “อยากได้เสื้อผ้าจากเซ็ตนี้กลับบ้าน ชอบจริงๆ ทุกเซ็ตเลย แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ คงเป็นเซ็ตเสื้อสเวตเตอร์ กางเกงขาสั้น” แฟนคลับทั้งคู่คงได้เห็นแฟชั่นเซ็ตเก๋ที่ทั้งคู่สามารถถ่ายทอดตัวตนของตัวเองผ่านแฟชั่นกลิ่นอายสปอร์ตของเอ็มแอลบีได้อย่างชัดเจนแน่นอน

สุดท้ายกับเป้าหมายในชีวิตของทั้งคู่ เรื่องสำคัญที่จะชี้ให้เห็นมุมมองและแนวทางในการก้าวเดินต่อไปในอนาคต “เราคาดหวังว่าจะอยู่ในวงการบันเทิงเรื่อยๆ อยากเล่นซีรี่ส์ให้มากขึ้น เล่นภาพยนตร์ อยากเจอคนเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเพื่อนในวงการบันเทิง อยากรู้จักคนให้มากที่สุด อย่างในวงการแฟชั่นมีอีเวนต์ออกงาน เดินแบบ ถ่ายแบบแบรนด์เสื้อผ้า บางทีบินถึงต่างประเทศเพื่อดูแฟชั่นโชว์ ถ้ามีโอกาสเราก็อยากสัมผัสประสบการณ์แบบนั้นบ้าง อยากเดินทางไปต่างประเทศด้วยหน้าที่การงานที่อาจทำให้เราสนุกกับงานครั้งใหม่” ดังเผยถึงเป้าหมายบนเส้นทางทั้ง 2 สายอย่างชัดเจน และคาดหวังว่าจะมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์นั้นในเร็ววัน ด้านจุงก็มีเป้าหมายที่ปรับเปลี่ยนไปในแต่ละปี “ผมรู้สึกว่าเป้าหมายของผมเปลี่ยนไปในทุกๆ ปีที่แล้ว ปีก่อนเข้าวงการ เราอยากลองเดินแบบ ลองถ่ายนิตยสาร พอเราได้ทำตรงนี้แล้วเราก็ขยายความฝันขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เราอยากมีโอกาสไปแฟชั่นวีกที่ต่างประเทศ ตอนนี้ก็มีแพลนไปต่างประเทศแล้ว ก็เหมือนกับสำเร็จในระดับหนึ่ง” ถือเป็นอีกมุมมองด้านความสำเร็จอีกรูปแบบหนึ่ง

ทั้งจุงและดังเปรียบดั่งอนาคตใหม่ของวงการบันเทิงและแฟชั่นอย่างแท้จริง เป้าหมายที่ทำให้มุ่งมั่นพัฒนาตัวเองเพื่อยืนหยัดรักษาความมั่นคงในฐานะนักแสดง ประกอบการลองเดินบนถนนแห่งสไตล์ที่โลกอันกว้างใหญ่รอคอยพวกเขาอยู่ นอกจากนี้เคมีความสัมพันธ์อันเป็นธรรมชาติคือกุญแจสำคัญที่ทำให้แฟนคลับพร้อมสนับสนุนพวกเขาเสมอ วันนี้แฟชั่นเซ็ตกับโว้กและแบรนด์เอ็มแอลบีคือประตูอีกบานที่เปิดออกพร้อมให้คู่นี้สามารถเติบใหญ่บนทุกเส้นทางได้อย่างยอดเยี่ยม แฟนๆ คอยติดตามทั้งคู่ไว้ได้เลย เชื่อว่าพวกเขาจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่อย่างแน่นอน