
เปิดประสบการณ์ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ CHANEL ของ ‘เบ็คกี้-รีเบคก้า’ ณ ปารีสแฟชั่นวีก
‘เบ็คกี้-รีเบคก้า’ แบรนด์แอมบาสเดอร์ชาวไทยคนล่าสุดของ CHANEL เดินทางสู่กรุงปารีสเพื่อชมแฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 พร้อมร่วมชมเบื้องหลังของงานฝีมือชั้นสูงของชาเนล ณ le 19M
โว้กพาแฟนๆ เจาะลึกเส้นทางสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ ‘เบ็คกี้-รีเบคก้า’ แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ CHANEL ที่ได้เดินมาทริปเพื่อมาชมแฟชั่นโชว์ คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 ระหว่างชาวงปารีสแฟชั่นวีก จากจุดตั้งต้นที่แฟนๆ รอติดตามกับการเดินทางสู่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กับการเผยรายละเอียดจากแบรนด์ว่าเบ็คกี้จะเป็นแขกคนสำคัญของแบรนด์ ตัวแทนจากประเทศไทยในการสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับของการนำเสนอโชว์คอลเล็กชั่นหลัก ณ กรองด์ ปาเลส์ สถานที่จัดโชว์สุดไอคอนิกของแบรนด์ จากจุดนี้ก็สร้างความตื่นเต้นและปูเส้นทางแฟชั่นที่น่าติดตามสำหรับแฟนๆ ทว่ามากกว่าตารางการชมโชว์ที่เป็นดั่งเหตุการณ์สำคัญประจำซีซั่นแล้ว เบ็คกี้ยังร่วมทริปเดินทางการชาเนลอย่างต่อเนื่องและสะท้อนภาพการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวชาเนลอย่างเป็นประจักษ์
ทริปการเดินทางของเบ็คกี้สู่กรุงปารีสจึงไม่ได้มีเป้าหมายเพียงการชมโชว์เท่านั้น เพราะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดคนนี้มีส่วนร่วมตั้งแต่การนำเสนอความโดดเด่นด้านแฟชั่นของชาเนล ไปจนถึงสัมผัสถึงมนต์เสน่ห์อันล้ำลึกและซึมซับรากฐานแห่งความสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเดินทางสู่ le 19M สถานที่ที่เป็นดั่งศูนย์รวมช่วงฝีมือ เบื้องหลังความสำเร็จและการรังสรรค์งานฝีมือสุดไอคอนิก เบ็คกี้ไม่เพียงแต่ไปเยี่ยมชมและสัมผัสบรรยากาศองค์รวมเท่านั้น แต่ยังเจาะลึกไปถึงเบื้องหลังวิธีการสรรสร้างงานฝีมือที่ทุกคนเชยชมกันบนรันเวย์ในแต่ละคอลเล็กชั่นกับเมซงอย่าง Lesage และ Goossens ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเนรมิตผลงานแฟชั่นแสนตระการตาที่สร้างความประทับใจให้สาวกชาเนลมานานกว่าหลายทศวรรษ โว้กเชิญชวนทุกคนชมภาพบรรยากาศและเจาะลึกเส้นทางของเบ็คกี้ไปพร้อมกันในบทความนี้
Becky in Paris
การเดินทางในทริปสู่กรุงปารีสเพื่อร่วมชมแฟชั่นโชว์ของชาเนลคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 เบ็คกี้มีโอกาสไปเดินเล่นซึมซับบรรยากาศในกรุงปารีส ในโททัลลุคจากชาเนลแบบสบายๆ พร้อมกระเป๋าชาเนลหนังสีขาวสายโซ่ใบโปรด แมตช์กับไฟน์จิวเวลรี สะท้อนผู้หญิงในแบบฉบับของชาเนลได้อย่างลงตัว บรรยากาศความเรียบง่ายผสมผสานกับกลิ่นอายของสถานที่ที่ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแฟชั่นโลกสามารถสะท้อนเรื่องราวของเบ็คกี้กับชาเนล รวมถึงเส้นทางแฟชั่นของเธอที่ก้าวเดินบนเส้นทางนี้อย่างแข็งแกร่ง ณ จุดนี้เบ็คกี้ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์สามารถนำเสนอไลฟ์สไตล์สอดประสานไปกับแฟชั่นของชาเนลได้อย่างลงตัว พร้อมถ่ายทอดเสน่ห์ของการเป็นสาวชาเนลได้อย่างเต็มรูปแบบและเป็นอิสระ สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของสาวแฟชั่นที่ไม่ได้ตีกรอบจำกัดเพียงในอีเวนต์ โชว์ หรือแม้แต่ปรากฏตัวบนแคมเปญของแบรนด์เพียงเท่านั้น เพราะนี่คือการแสดงภาพ ‘CHANEL in Real Way’ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Show Moment
โมเมนต์ของ ‘เบ็คกี้-รีเบคก้า’ จากโชว์ชาเนล คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 ณ กรองด์ ปาเลส์ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ของเบคกี้ในการบินลัดฟ้าสู่กรุงปารีสเพื่อชมโชว์แสนพิเศษในสถานที่ไอคอนิกประจำของเมซง โดยครั้งนี้ยังถ่ายภาพร่วมกับนักร้องสาวชื่อดัง Camila Cabello ที่มาร่วมเป็นแขกคนสำคัญของชาเนลในครั้งนี้เช่นเดียวกัน เบ็คกี้ยังได้แบ่งปันความรู้สึกกับโว้กประเทศไทยว่าเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมาก ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ และไข่มุกอันเป็นเอกลักษณ์ของชาเนลที่ถูกนำมารังสรรค์ดัดแปลงได้อย่างสวยงามและน่าทึ่ง เช่น กระเป๋าไข่มุกและรองเท้าส้นไข่มุก พร้อมเผยถึงความประทับใจในกรุงปารีสที่เบ็คกี้อยากจะซื้อบ้านที่นี่สักหลัง นอกจากเหนือจากประสบการณ์ความประทับใจส่วนตัวแล้ว เบ็คกี้ยังเป็นดั่งแขกคนสำคัญที่ได้รับการจับตามองจากคนทั่วโลกทั้งในงานและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เธอกลายเป็นดาวเด่นจากประเทศไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของลิสต์แขกคนสำคัญ และถูกเลือกโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มหลักของชาเนล โมเมนต์ในโชว์ครั้งนี้จึงเหมือนเครื่องหมายการันตีว่า เบ็คกี้คือสมาชิกคนสำคัญของแบรนด์ที่สามารถสะท้อนภาพของสาวชาเนลออกมาได้อย่างโดดเด่น
le19M - Lesage
นอกเหนือจากโมเมนต์การชมโชว์แล้วเบ็คกี้ยังเดินทางสู่ 'le 19M' ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทั้งเป็นที่ทำงานและการถ่ายทอดความรู้ในกรุงปารีส เป็นสถานที่พิเศษที่มีทั้งเวิร์กช็อป โรงเรียน และพื้นที่แกลเลอรีที่เปิดให้เข้าชมเพื่อเป้าประสงค์ด้านการนำเสนอประสบการณ์แสนพิเศษและเรื่องราวเบื้องหลังโลกแฟชั่นอันยิ่งใหญ่ของชาเนล อีกทั้งที่แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นจากความคิดริเริ่มของชาเนลที่จะพัฒนาเส้นทางแฟชั่นให้ครอบคลุมและถ่ายทอดเบื้องหน้าไปพร้อมกับเบื้องหลัง ทั้งยังเสริมสร้างสายใยของการผสมผสานงานฝีมือให้ปรากฏเด่นชัดท่ามกลางความสวยงามของผลผลิตเบื้องหน้าที่สร้างความประทับใจให้สาวกแฟชั่นเสมอมา การเดินทางของเบ็คกี้ครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการเจาะลึกกับประสบการณ์การสัมผัสวิถีการรังสรรค์งานจากช่างฝีมืองานปักตกแต่ง Lesage ที่เป็นผู้สรรสร้างงานปักสุดวิจิตรและผ้าทวีดสุดแสนจะซับซ้อน สัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมซงชาเนลมาโดยตลอด ซึ่งนอกจากจะนำเสนอวิธีการเนรมิตงานฝีมือคุณภาพระดับสูงแล้ว เลอซาจยังเก็บสะสมในคลังงานเก่าไว้มากถึง 75,000 ชิ้น ย้อนรากลึกถึงเบื้องหลังการผลิตผลงานกูตูร์ดั้งเดิมมาอย่าวยาวนาน และเป็นดั่งเมซงที่สร้างชีวิตให้กับงานดีไซน์ของ Karl Lagerfeld ตั้งแต่ปี 1983 เป็นต้นมา ซึ่งเรื่องราวของเลอซาจยังย้อนอดีตกลับไปนานเกินหลักศตวรรษ ตั้งแต่สมัย Marie-Louise Lesage เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนวิถีแห่งโลกกูตูร์มาอย่างยาวนาน ก่อนจะเริ่มก่อตั้งเมซงพร้อม Albert Lesage และพัฒนาเทคนิคเรื่อยมาตั้งแต่ปี 1924 และได้รับการสานต่อจาก François Lesage เส้นทางอันสง่างามนี้ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน พร้อมหมุดบันทึกทางประวัติศาสตร์ร่วมกับชาเนลมากมาย ทั้งการนำเสนอผลงานผ้าทวีดอันเนี้ยบประณีตให้กับชาเนลมาตั้งแต่ปี 1998 และตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมาก็สรรสร้างผลงานทวีดรูปแบบใหม่เสิร์ฟให้กับแฟชั่นเฮาส์แห่งนี้ สะท้อนภาพความละเอียดอ่อนและละเมียดละไมในการสรรสร้างผลงานแฟชั่นที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและงานฝีมือได้อย่างสมบูรณ์
le19M - Goossens
เส้นทางของเบ็คกี้ ณ le 19M ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเธอเดินทางท่องโลกเบื้องหลังของชาเนลต่อเนื่องไปถึงเมซงอย่าง Goossens ที่สะท้อนภาพความโดดเด่นด้านการรังสรรค์จิวเวลรีของชาเนลได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด และมีประวัติศาสตร์เชื่อมโยงกับ Coco Chanel ผู้ก่อตั้งแบรนด์มาตั้งแต่กลางยุค 1950s จากการพบกันของดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ชาเนล และ Robert Goossens สร้างรากฐานการเนรมิตจิวเวลรีของชาเนลที่ได้รับแรงบันดาลใจความสวยงามแบบโบราณดั้งเดิม ยกตัวอย่างเช่นไบแซนไทน์ และอียิปต์โบราณ เป็นต้น นอกจากนี้มิติการสร้างสรรค์โดยใช้วัสดุที่หลากหลายตั้งแต่ทองคำ เงิน คริสตัล ไม้ และแผ่นกระจก ยังถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้จิวเวลรีของชาเนลมีความลื่นไหลตามดีไซน์ได้ดั่งใจผู้ออกแบบ ซึ่งคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์เคยให้เมซงแห่งนี้สรรสร้างผลงานจิวเวลรีสำหรับคอลเล็กชั่น Métiers d'Art 2018/2019 ณ มหานครนิวยอร์กมาแล้ว เบ็คกี้ได้มีโอกาสสัมผัสกับเบื้องหลังอันเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์และเป็นสถานที่แห่งการสรรสร้างองค์ประกอบแฟชั่นที่ทำให้โลกของชาเนลครบถ้วนสมบูรณ์แบบมาตลอดหลายทศวรรษ ก่อนจะเป็นส่วนหนึ่งของ Fashion Métiers d'Art อย่างเป็นทางการในปี 2005 และได้รับการสานต่อจากลูกชายของตระกูลอย่าง Patrick Goossens ที่พร้อมพัฒนาและสรรสร้างผลงานชั้นยอดร่วมกับชาเนลต่อไปนับจากนี้
ภาพ : Courtesy of CHANEL
WATCH