FASHION
เปิดเรื่องรัก Versace เมื่อความอัปยศของการเหยียดเพศและอคติทำลายชีวิตแฟนหนุ่มไปตลอดกาล!Gianni Versace กับ Antonio D'Amico แฟนหนุ่มมากเสน่ห์ที่เพียบพร้อมแต่ทั้งคู่ต้องแยกจากกันด้วยความตาย |
เนื้อหาสำคัญ
- ความรักของ Gianni Versace ที่มีต่อ Antonio D’Amico ที่สามารถเรียกว่าเป็นรักแห่งชีวิต
- ความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งระหว่างเพศเดียวกันกับบริบทสังคมยุคก่อนที่ตีตราและลดทอนคุณค่าความสำคัญ
- ความไม่ถูกกันระหว่างคนรักกับคนในครอบครัว ปัญหาที่ดีไซเนอร์ดังต้องเผชิญความอัดอั้นตันใจ
- หลังผู้ก่อตั้ง Versace เสียชีวิต แฟนหนุ่มเขาก็กลายเป็นคนไม่มีตัวตนในสังคมไปโดยปริยาย
________________________________
ถ้าพูดถึงชื่อ Gianni Versace ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Versace เรื่องราวที่โด่งดังที่สุดคงเป็นเรื่องฆาตกรรมชวนขนหัวลุกที่สะท้อนว่าในสังคมหนึ่งมีมนุษย์ผู้สามารถลงมือปลิดชีพคนอื่นได้อย่างโหดเหี้ยม (อ่านบทความย้อนรอยคดีฆาตกรรมได้ ที่นี่) ทว่าอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นเรื่องไม่ลับที่ถูกทำให้ลับของดีไซเนอร์ชื่อดังอย่างเรื่อง “ความรัก” เมื่อชีวิตของเขาเต็มไปด้วยสีสันจากหลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ปาร์ตี้ ศิลปะ เรื่อยไปถึงความรัก แต่เชื่อเลยว่าคนยุคหลังแทบไม่มีใครเคยพูดถึงรักแห่งชีวิตที่จานนีรักษาไว้อย่างมั่นคงตลอดนับสิบปี วันนี้เราจะย้อนพาไปชมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ชื่อของหนุ่มคู่ใจของเขาจึงค่อยๆ ถูกลบเลือนและกลายเป็นความอัปยศด้านการนำเสนอประวัติศาสตร์ที่มีเกย์มาเกี่ยวข้อง
Gianni Versace และ Antonio D'Amico ขณะกำลังรื่นเริงมีความสุขกันกับการเล่นกับสุนัข / ภาพ: laxstyle
ย้อนไปกลับปี 1978 สมัยแบรนด์เริ่มก่อตั้งยุคสมัยนั้นเป็นยุคแห่งศิลปะและไอเดียก็จริงแต่กลับยังมีบรรทัดฐานทางสังคมหลายอย่างที่ปิดกั้นมนุษย์ด้วยกันอยู่ เรื่องเพศเป็นหนึ่งในนั้น เกย์ยังถูกมองว่าเป็นความไม่ปกติของสังคมแม้พวกเขาจะโลดแล่นอยู่ในวงการแฟชั่นอย่างคึกคักก็ตาม ปี 1982 ชื่อ Antonio D’Amico ปรากฏขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์แบรนด์ เขาพบกับจานนีและมีบันทึกว่าเขารับตำแหน่งสำคัญในห้องเสื้อเวอร์ซาเช่ เขาทำงานทั้งในฐานะผู้ออกแบบและนายแบบของแบรนด์ งานนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องพิศวาสที่ทำให้เติบโตด้านหน้าที่การงาน แต่อันโตนิโอปีนป่ายด้วยฝีมือของตัวเองด้วยเหมือนกัน คำสบประมาททั้งหมดถาโถมมาในช่วงแรกและค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อเห็นผลลัพธ์ที่หนุ่มรูปงามทำให้กับแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไลน์เสื้อผ้ากีฬาของเวอร์ซาเช่
ชุดเดรสสไตล์จัดจ้านของ Versace ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในยุคแรก / ภาพ: Flickr
“จานนีเป็นนักเรียกร้องความสนใจแต่ไม่เคยเรียกร้องเรื่องความรัก” เราคงจะบรรยายวิธีการให้ความสำคัญของจานนีได้เป็นอย่างดี เขาเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าเป็นเกย์แต่ไม่เคยเรียกร้องความสนใจให้ใครมาสนใจเพราะเขาไม่ได้อยากเป็นจุดเด่นเรื่องนี้ เขามองว่าการคบกับอันโตนิโอเป็นเรื่องธรรมดา ไม่จำเป็นต้องมีคนมาใส่ใจ แต่สื่อไม่คิดเช่นนั้น ในยุคนั้นพวกสื่อยอมรับในฝีมือการออกแบบและติดตามชีวิตจานนีทุกย่างก้าวก็จริง แต่พวกเขากลับเบะปากให้กับความสัมพันธ์ของทั้งคู่และพยายามทำเหมือนว่าส่วนนี้ในชีวิตของดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียนเป็นดั่งอากาศ...ถึงแม้ว่าจานนีจะเป็นศิลปินผู้รับมือกับสื่อด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ของแบรนด์ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการเรียกความสนใจด้วยชุดแปลกประหลาดให้สื่อวิจารณ์ หรือจะเป็นการนำชุดให้กับเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังสวมใส่ นอกจากนั้นยังมีการเชิญแขกแถวหน้ามาร่วมโชว์ แต่เรื่องความรักของจานนีกลับถูกคนเหล่านั้นมองเป็นมลทินในชีวิตโดยไร้การโต้แย้งไปอย่างหน้าตาเฉย
WATCH
ทั้งคู่มักใช้เวลาอยู่ด้วยกันเพื่อแชร์ประสบการณ์ความสุขอยู่เสมอ / ภาพ: II Giornale
เชื่อไหมว่าตลอด 11 ปีของชีวิตคู่แบบจริงจังตั้งแต่ปี 1986 จนถึง 1997 (จานนีถูกยิงเสียชีวิต) ทั้งคู่ไม่เคยระหองระแหงกันเลยแม้จานนีจะขึ้นชื่อเรื่องการเที่ยวเล่นปาร์ตี้อยู่บ่อยครั้ง ตลอด 6 ปีแรกที่มิลานความสัมพันธ์ทั้งคู่เป็นเหมือนความรักในอุดมคติของเหล่าเกย์ในยุคนั้น พวกเขาครองรักกันแบบไม่สนกระแสสังคมต่อต้านแต่ยังโชคดีที่ยังไม่หนักมากเพราะจานนีมีชื่อเสียงแต่ไม่ดังถึงขั้นระเบิดเปรี้ยงปร้าง พอย้ายมาไมอามีดินแดนชายหาดแห่งข่าวฉาวช่วงปี 1992 จานนีผู้ดูแลแบรนด์ระดับไฮเอนด์กลายเป็นเป้าหมายของสื่อทันที เขาสู้รบปรบมือกับสื่อทุกวิถีทางแต่สิ่งหนึ่งที่เขาดูจะไม่แคร์แต่โดนนำมาเล่นเป็นประเด็นตลอดรวมถึงเพิกเฉยต่อการมีตัวตนของอันโตนิโอคือเรื่องน่าปวดใจที่ทั้งคู่ต้องเผชิญจนวันสุดท้ายของชีวิต
Donatella และ Gianni Versace พี่ชายสุดที่รักผู้ล่วงลับ / ภาพ: The Telegraph
ถึงแม้จานนีจะรับมือด้วยการทำเป็นไม่สนใจคนภายนอกและใส่ใจคนข้างกายมากกว่า แต่ปัญหาไม่ใช่แค่คนนอก เพราะคนในครอบครัวเวอร์ซาเช่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Donatella Versace น้องสาวผู้รับไม้ต่อหลังจานนีสิ้นลมที่ไม่เผาผีกับอันโตนิโอตั้งแต่แรก ชายหนุ่มข้างกายไม่ถูกกับน้องสาวเนื้อเรื่องราวกับบทละครดราม่ายอดฮิตของทุกยุคทุกสมัย จานนีต้องพยายามรักษาความสัมพันธ์ทั้งคู่ไว้ให้มั่นคงที่สุด ดอนนาเทลล่าก็แคร์ อันโตนิโอก็แคร์ ความอึดอัดนี้ถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญอย่างยิ่งสำหรับชายหนุ่มผู้กำลังเดินขึ้นสู่จุดสูงสุดในเส้นทางอาชีพดีไซเนอร์
รอยเลือดของ Gianni Versace หน้าคฤหาสน์ของเขาเอง / ภาพ: CBS Miami
ปั๊ง! เสียงปืนดังขึ้นพร้อมร่างอาบเลือดของจานนี เขาจากโลกนี้ไป...ทิ้งชื่อเสียง แบรนด์ ครอบครัว และอันโตนิโอไว้เบื้องหลัง แต่ต้องบอกว่าจานนีให้ความสำคัญกับคู่รักของเขามากจริงๆ ดีไซเนอร์ผู้ล่วงลับให้สิทธิ์แฟนของเขาอาศัยในบ้านของเขาได้ทุกหลังไม่ว่าจะเป็นหลังในไมอามีหรือมิลานก็ตาม ชีวิตคงดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นถ้าดอนนาเทลล่าไม่เอ่ยคำว่า “ไม่!” เธอปฏิเสธสิทธิ์การเข้าอยู่อาศัยของอันโตนิโอทุกรูปแบบ มีรายงานว่าน้องสาวผู้สืบทอดใช้อำนาจผู้กุมบังเหียนคนใหม่ของบริษัทเวอร์ซาเช่กีดกันอันโตนิโอออกจากบ้านหลังหรูของจานนี เพราะทรัพย์สินทั้งหมดที่ระบุให้แฟนหนุ่มไว้ตามความตั้งใจของจานนีกลับไม่ใช่ทรัพย์สินของเขา แต่เป็นทรัพย์สินของบริษัทนั่นเอง
ความผูกพันของทั้งคู่ที่มีแต่ความตายเท่านั้นที่พรากพวกเขาจากกันได้ / ภาพ: Toni - Pinterest
ความตั้งใจดีของจานนีที่มีต่ออันโตนิโอเหมือนค่อยๆ ถูกลบจากคนรอบตัวและสื่อไปเรื่อยๆ บ้านก็เข้าไปอยู่ไม่ได้ สิทธิ์หลายอย่างในองค์กรก็ลดลงโดยไม่มีหลักอะไรค้ำ เรื่องดีเรื่องเดียวคืออันโตนิโอได้รับเงินจากทรัพย์สินของจานนีเดือนละ 57,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่อย่างอื่นเหมือนเขาจะไม่ได้อะไรเลยทั้งๆ ที่เคียงคู่ชีวิตดีไซเนอร์ดังมานานกว่า 10 ปี บาดแผลของอันโตนิโอเริ่มเหวอะหวะมากขึ้นหลังหวานใจของเขาจากไป เขาต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้านานนับปีและผูกติดจิตใจไว้กับจานนีแบบไม่เสื่อมคลาย เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันรักและผูกพันกับจานนีมามากกว่า 15 ปีตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เหมือนเรายังเชื่อมถึงกันอยู่ตลอด”
มุมน่ารักๆ ที่ทั้งคู่มอบให้กันอยู่เสมอ / ภาพ: Lula.pl
ถ้าจานนีรับรู้เรื่องนี้เขาจะจากไปได้สบายใจจริงหรือ...อันโตนิโอกลายเป็นธาตุอากาศสำหรับทุกคนตั้งแต่คนในครอบครัวยันสื่อที่เพิกเฉยเขามาตลอด ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนในชีวิตของจานนีทั้งๆ ที่หนุ่มอิตาเลียนรักเขาปานจะกลืนกิน ดอนนาเทลล่าเองไม่ชอบอย่างไรก็ไม่ชอบอยู่อย่างนั้น เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันเคารพเขาในฐานะแฟนหนุ่มของพี่ชายนะ แต่โดยส่วนตัวแล้วฉันไม่เคยชอบเขาเลย ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเราจึงเหมือนเดิม” หลังจากจานนีเสียชีวิตมาสักระยะหนึ่งหลายฝ่ายเริ่มทำสารคดีชีวประวัติโปรดักชั่นตั้งแต่สารคดีสั้นไปจนถึงภาพยนตร์ แต่เรื่องน่าเจ็บใจคือความรักอันสวยงามของจานนีถูกลืมเลือนเสมอ อันโตนิโอถูกพูดถึงน้อยครั้งหรือแทบจะไม่เคยถูกพูดถึงเลยทั้งๆ ที่เขาคือกุญแจสำคัญที่เป็นตัวช่วยให้จานนีไขประตูสู่ความสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นเป็นเพราะอะไรอิทธิพลของสื่อ อคติของดอนนาเทลล่า หรือเรื่องรักร่วมเพศกันแน่
การเป็นเกย์ออกสื่อมักถูกต่อต้านจากสังคมสมัยก่อน / ภาพ: People
หากเราวิเคราะห์อย่างจริงจังความรักของจานนีครั้งนี้เปรียบเสมือนหน้าหนังสือประวัติศาสตร์ที่โดนเผาจนมอด เขาจารึกเรื่องราวเองแต่คนอื่นพยายามลบมันออกอย่างน่าเสียดาย ต้องบอกว่ามันไม่ใช่แค่เหตุใดเหตุผลหนึ่งแต่ทุกปัจจัยประกอบกันทำให้อันโตนิโอกลายเป็นอากาศธาตุไปโดยปริยาย ดอนนาเทลล่าไม่เคยพูดถึง(ดีๆ)เพราะเธอไม่ชอบเขา ส่วนเรื่องรักร่วมเพศสื่อก็พยายามไม่จดจำหรือพูดถึงเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนั้น พอตอนนี้คนมาศึกษาประวัติดีไซเนอร์ดังอีกครั้งจึงเห็นว่าความจริงส่วนนี้ปรากฏชัดแต่เหมือนถูกลบไปเสียมากกว่า บางสำนักชอบเรียกอันโตนิโอว่าแฟนเก่าทั้งๆ ที่พวกเขาไม่เคยเลิกกันด้วยซ้ำ เพียงแต่จานนีถูกฆาตกรรมเสียก่อน จากคำสัมภาษณ์ของอันโตนิโอเขาเคยเผยว่า “จานนีไม่เคยปิดบังสิ่งที่เขาเป็น(เกย์)” จุดนี้แสดงให้เห็นว่าเกย์เมื่อหลายสิบปีก่อนไม่ถูกยอมรับและถ้ามีโอกาสคนที่ข้องเกี่ยวกับการบันทึกประวัติศาสตร์ก็พยายามลบให้ประวัติส่วนนี้หายไปมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเมื่อเวลาผ่านไปส่วนเล็กๆ จางๆ ในหน้าประวัติของจานนีอย่างอันโตนิโอก็แทบจะหายไปตลอดกาล
ความรักของ Gianni Versace ตอนนี้กลายเป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่สอนให้เราเข้าใจบริบทความอคติของสังคมยุคเก่าได้เป็นอย่างดี / ภาพ: lapanchinadimariella.forumfree.it
มาถึงวันนี้จานนีอาจยิ้มจากบนสวรรค์ได้สักทีเมื่ออันโตนิโอได้ใช้ชีวิตของตัวเอง โลกเปิดกว้างรับกลุ่ม LGBTQ+ มากขึ้น และแน่นอนความรักอันสวยงามระหว่างเขากับแฟนหนุ่มถูกพูดถึงในแง่บวกอีกครั้ง ไม่มีอคติมาคอยโจมตีเรื่องไร้มูลไร้เหตุผลอย่างการเหยียดเพศอีกต่อไป ถึงแม้เขาจะไม่มีชีวิตอยู่จนวันที่ทุกคนยอมรับเรื่องราวความรักของเขา แต่อย่างน้อยเรื่องราวรักของเขาก็เป็นบทเรียนให้เราได้ศึกษาบริบทของสังคมสมัยก่อน ความซับซ้อนในความรู้สึกระหว่างคนรอบตัว รวมถึงแง่มุมการให้เกียรติต่อความรักของทั้งคู่แม้จะไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ในบริบทสังคมยุคก่อน เราขอไว้อาลัยแด่การจากไปครบรอบ 23 ปีของ “จานนี เวอร์ซาเช่” และร่วมส่งพลังรักให้อันโตนิโอ รักแห่งชีวิตของจานนีได้ใช้ชีวิตและถูกให้ความสำคัญดั่งที่เขาควรจะได้รับตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ข้อมูล: AmoMama, The Guardian, The Telegraph, Making Queer History, Business Insider และ TIME
WATCH