FASHION

ครั้งแรกในไทย! True ตอกย้ำภาพผู้นำเทคโนโลยีที่คิดอย่างอัจฉริยะและยั่งยืนผ่านยูนิฟอร์มดิจิทัลรักษ์โลก

สะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์อัจฉริยะ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนกับการเป็นเครือข่ายแรกที่เนรมิตยูนิฟอร์ม Eco-Friendly 100%

ไม่ใช่แค่ "คิด" ว่าจะรักษ์โลกหากทรูลงมือ “ทำ” เป็นเจ้าแรกของประเทศไทย เมื่อยูนิฟอร์มโฉมใหม่ของพนักงานทรูคือการรวบรวมทั้งเอกลักษณ์ของแบรนด์หลอมรวมเข้ากับความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม จึงกลายมาเป็นยูนิฟอร์มภายใต้แนวคิดในแบบ “From waste to wear” ด้วยเส้นใยที่ทอขึ้นจากขวดพลาสติกรีไซเคิล (PET) ถูกนำมาทำเป็นเสื้อทีเชิ้ตที่ผสมผสานด้วยคอตตอนเส้นใยธรรมชาติที่เรียกว่าเป็น 100% Eco friendly รังสรรค์และออกแบบแฟชั่นพีซชิ้นนี้อย่างประณีตเฉียบคมผ่านงานฝีมือของ แบงก์-ปรีดากร เมธเกรียงชัย ดีไซเนอร์มืออาชีพจากแบรนด์ RAMS(Creative & Styling Service) สำหรับโว้กแล้วนี่คือสิ่งที่เรียกว่าพรีเมียมแฟชั่น เพราะแฟชั่นที่ดีไม่ใช่แค่สวมใส่แล้วสวย แต่ต้องสร้างผลประโยชน์และคุณค่าให้กับทั้งตัวเราและที่สำคัญกับโลกได้ด้วยเช่นกัน

ในมุมมองของแบรนด์ "ทรู" ใส่ใจเรื่องของความยั่งยืนมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเช่นเดียวกัน เพราะยูนิฟอร์มชุดใหม่นี้ซุกซ่อนลูกเล่นที่ผสมผสานเข้ากับนวัตกรรม AR อัจฉริยะที่เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นสำคัญในการใช้เป็นสื่อกลางระหว่างพนักงานที่ให้ข้อมูล คำปรึกษา หรือสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้านั่นเอง ทั้งงานด้านดีไซน์และคราฟต์แมนชิปรวมไปถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมสุดอัจฉริยะ ทำให้ยูนิฟอร์มที่ออกมานั้นนอกจากหน้าตาจะร่วมสมัยแล้วยังเป็นการตอกย้ำความยั่งยืนที่แบรนด์ตั้งปณิธานไว้เป็นหลักอีกด้วย

โอลิเวอร์-กิตติพงษ์ วีระเตชะ (หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น)

เมื่อโว้กเห็นปรากฏการณ์อัจฉริยะจากทรูในครั้งนี้ ทำให้ทีงานต้องย้อนเวลากลับไปเมื่อราว 2 ทศวรรษก่อน เพื่ออธิบายให้ฟังว่าแฟชั่นถูกนำไปผูกโยงกับความฟุ่มเฟือย หรือการใช้ทรัพยากรเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่กระแสโลกร้อนได้เข้ามามีส่วนสำคัญและเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมแฟชั่นไปตลอดกาล เมื่อแบรนด์แฟชั่นทั้งเล็กและใหญ่ต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับคอนเซปต์และกระบวนการผลิตที่เน้นสิ่งแวดล้อมเป็นหัวใจสำคัญ แบรนด์ที่เป็นหัวหอกของแฟชั่นเพื่อความยั่งยืนเห็นจะเป็น Stella McCartney ดีไซเนอร์สาวชาวอังกฤษที่ถือได้ว่าเป็นผู้นำของโลกในด้านนี้ ตามมาด้วย Gabriela Hearst และเหล่าแบรนด์ยักษ์ที่หันมาปรับเปลี่ยนกระบวนการหลายอย่างเพื่อตอบรับกับกระแส #Sustainability ไล่ตั้งแต่แบรนด์ Chanel ที่ประกาศเลิกใช้หนังจระเข้ หนังงู และเฟอร์ ไปจนถึง Louis Vuitton, Gucci, Jimmy Choo, Michael Kors หรือแม้แต่ Burberry ที่ประกาศเลิกใช้เฟอร์เช่นกัน หรือแม้แต่วงการสื่อแฟชั่นอย่างโว้กทั่วโลกเองที่ก็หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนจึงเกิดเป็น #VogueValue ขึ้นมา ทั้งหมดนี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของความยั่งยืนในอุตสาหกรรมแฟชั่นซึ่งกำลังแพร่หลายไปทั่วโลกเท่านั้น 



WATCH




ในมุมมองของโลกของแฟชั่นทุกคนย่อมรู้ดีว่าอุตสาหกรรมนี้ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อนสูงเป็นลำดับที่ 2 ของโลก ในจังหวะที่โลกแฟชั่นพยายามที่จะปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ยังมีอีกหลายอุตสาหกรรมที่ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการมองเห็นถึงความยั่งยืนด้วย หนึ่งในนั้นคือธุรกิจแบบ Tech Company อย่างแบรนด์ระดับโลก Intel ที่ตั้งเป้าในการฟื้นฟูการใช้น้ำถึงขนาดตั้งองค์กรอนุรักษ์น้ำขึ้นมาโดยเฉพาะ หรือจะแบรนด์ AutoDesk ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ระดับโลกที่เข้าใจถึงปัญหานี้ก็ร่วมมือกับ Volkswagen Group จัดทำยานพาหนะเทคนิคไฟฟ้า หรือจะเป็นแบรนด์ Apple ที่หันมาใช้พลังงานหมุนเวียนมากถึง 96% ก็ตาม ยังรวมไปถึง Samsung, Dell, HP และอีกมากมายที่ตบเท้าเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของความยั่งยืนอีกด้วย

สำหรับภาค Tech Company ในประเทศไทยเองก็มีเจ้าแรกที่เคลื่อนไหวก่อนใครอื่นอย่าง “True 5G” แบรนด์ผู้นำด้านเครือข่ายระดับประเทศที่พร้อมโชว์ศักยภาพให้เห็นแล้วว่าไม่ใช่แค่การเป็นผู้นำด้านสื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมเท่านั้น แต่ทรูเองก็จะเดินหน้าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ด้วยการเปลี่ยนชุด “ยูนิฟอร์ม” ให้รักษ์โลกมากขึ้น 

โอลิเวอร์-กิตติพงษ์ วีระเตชะ และ แบงก์-ปรีดากร เมธเกรียงชัย 

นอกจากฟังก์ชั่นการใช้งานตามแบบฉบับผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่างทรูแล้ว ในด้านดีไซน์ที่โดดเด่นไม่แพ้กันโดยฝีมือของดีไซเนอร์แบงก์ยังกล่าวไว้ว่า “เราทดลองค่อนข้างเยอะว่าผ้าที่ทำจากรีไซเคิลต้องผสมกับอะไรถึงจะได้เท็กซ์เจอร์อย่างที่เราต้องการ ที่สำคัญคือเรื่องคุณภาพเพราะยูนิฟอร์มเราใส่ทุกวันมันจะแตกต่างกับเสื้อผ้าแฟชั่นที่เราใส่แค่เดือนละครั้งสองครั้ง ดังนั้นมันต้องมีคุณภาพดีมากๆ”

บวกรวมผสมผสานไปกับดีเอ็นเอของแบรนด์ทรูอย่างการเน้นความหลากหลายของสีสันบนโลโก้ที่ไม่ได้มีแค่สีแดงอีกต่อไป

"หากความหลากสีนี้สะท้อนถึงความลื่นไหล รวดเร็ว และการเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุดนิ่งเช่นเดียวกับแบรนด์ที่คอยมอบเทคโนโลยีและเครือข่ายเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา"

ทุกเฉดสี ทุกเส้นสาย นำเสนอความเป็นผู้นำและความก้าวหน้าของทรูเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน

เหล่าโมเดลกับชุดยูนิฟอร์มโฉมใหม่

แม้จะเป็นผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจร แต่ทรูเองก็ยังก้าวทันไปพร้อมๆ กับการช่วยเหลือโลกและสังคมอย่างยั่งยืนได้เช่นเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จึงถือเป็นการประกาศกร้าวครั้งยิ่งใหญ่ว่าทรูเองก็มีส่วนช่วยในการพัฒนาและต่อยอดแบรนด์ของตัวเองให้ไปในทิศทางที่รักษ์โลกได้มากขึ้น และถ้าเส้นชัยของทรูคือการเป็นผู้นำที่จะช่วยกระตุ้นให้อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้หันกลับมาลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมบ้าง งั้นวันนี้เราพูดได้อย่างเต็มปากว่าทรูใกล้ความสำเร็จนั้นมากแล้ว และทั้งหมดนี้คือการถ่ายทอดโปรเจกต์รักษ์โลกของแบรนด์ทรู แบรนด์ของผู้นำที่คำนึงถึงความยั่งยืน และกล้าที่จะก้าวออกจากรูปแบบเดิมๆ โดยผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และงานด้านดีไซน์ จึงไม่แปลกที่จะทำให้ทรูกลายมาเป็น Tech Company ที่โดดเด่นและก้าวนำผู้อื่นในประเทศไทย   

บรรยากาศภายในงานเปิดตัวยูนิฟอร์มโฉมใหม่ภายใต้แนวคิดแบบ “From waste to wear”

WATCH