เส้นทางโอลิมปิกของ “ปรีอัญดิ์” นักกีฬาขี่ม้าสาวไทย ที่ย้อนสู่ช่วงเวลาชวนเศร้าในอดีต

     “อาชาผู้เสียสละ” เรื่องราวความประทับใจที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความเศร้าหมองของ “ปรีอัญดิ์-ชนกภรณ์ การุณยธัช” ก่อนถึงโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส เรื่องราวในสนามแข่งม้า ณ พระราชวังแวร์ซายส์นักกีฬาขี่ม้าสาวตัวแทนจากประเทศไทยลงสนามพร้อมกับม้าคู่ใจอย่าง “ทีน่า” ม้าแข่งที่เป็นเหมือนเพื่อนคู่ชีวิตการกีฬาของสาวคนนี้ ทว่าเรื่องราวความผิดหวังเกิดขึ้นกับปรีอัญดิ์ เพราะเธอพลาดโอกาสไปต่อในการแข่งขันขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เพราะแท้จริงแล้วนี่ไม่ใช่ม้าที่เธอวางแผนจะร่วมกรำศึกโอลิมปิกด้วยตั้งแต่แรก โดยเรื่องราวเบื้องหลังเหตุการณ์นี้ชวนเศร้าอย่างยิ่ง

ปรีอัญดิ์ และ ทีน่า ลงซ้อมก่อนเข้าแข่งขันขี่ม้าประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางที่พระราชวังแวร์ซายส์กับเวทีโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส

     วันแข่งขันปรีอัญดิ์ลงสนามพร้อมกับทีน่า หากใครชมถ่ายทอดสดจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าม้ามีรูปร่างค่อนข้างเล็ก และออกท่าทางเหมือนตื่นสนามอยู่ไม่น้อย หากใครไม่ได้ติดตามวงการขี่ม้าอาจไม่ทราบว่าทีน่าคือม้าคู่ใจของนักกีฬาสาวคนนี้ก็จริง แต่ทีน่าอาจไม่ได้พร้อมสำหรับการแข่งขันเข้มข้นระดับรอบสุดท้ายในโอลิมปิก การเริ่มต้นของปรีอัญดิ์ไม่ได้สวยหรูนัก เธอรวมใจกับทีน่ากระโดดไปผ่านพ้นไปได้ถึง 10 เครื่องกีดขวาง ก่อนจะพลาดในเครื่องที่ 11 ซึ่งมีความสูงมากที่สุด (1.65 เมตร) นั่นทำให้เธอล้มเลิกและตัดสินใจไม่แข่งขันต่อเพราะกลัวเกิดอันตรายในช่วงการแข่งขันที่เหลือ ทำให้เธอไม่ผ่านเข้ารอบการแข่งขันขี่ม้าครั้งนี้อย่างน่าเสียใจ

     จากเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเธอและม้าเป็นมากกว่านักกีฬาและอุปกรณ์กีฬา เธอและทีน่าคือเพื่อนร่วมชีวิตที่ฝ่าฟันอุปสรรคมาอย่างยาวนาน รวมถึงการไล่ล่าตั๋วใบสำคัญสู่โอลิมปิก ณ กรุงปารีสด้วย เธอมองทีน่าเป็นดั่งเพื่อนร่วมชีวิตที่ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ชาวเน็ตที่ทราบข่าวดังกล่าวต้องเข้ามาชื่นชมกับการตัดสินใจครั้งนี้ และทำให้โมเมนต์ดังกล่าวกลายเป็นโมเมนต์ประทับใจจากนักกีฬาไทยที่สะท้อนภาพของความผูกพันที่มีค่ายิ่งกว่าการฝืนอุปสรรคเพื่อเอาชนะอันต้องแลกมาด้วยความเสี่ยง “เพราะม้าแข่งไม่ใช่อุปกรณ์การแข่งขัน” วลีนี้อาจบ่งบอกความรู้สึกของปรีอัญดิ์ได้อย่างดีที่สุด

ปรีอัญดิ์ โพสต์อาลัยรักถึงดีไลลาห์ หลังทราบข่าวการจากไปอย่างหน้าใจหายก่อนถึงโอลิมปิก 2024 ไม่ถึงครึ่งปี

     เรื่องราวของปรีอัญดิ์นั้นลึกซึ้งยิ่งกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับทีน่า เพราะหากย้อนกลับไปประมาณ 3 เดือนก่อนเริ่มโอลิมปิก เธอต้องเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนใจ “ดีไลลาห์” คืออาชาคู่ใจที่เธอวางแผนจะมาชิงชัยโอลิมปิกร่วมกัน เพราะนี่คือสุดยอดอาชาที่มีความสามารถกระโดดระดับกรังด์ปรีซ์ (ดีไลลาห์สามารถกระโดดได้ที่ความสูง 1.6 เมตร ส่วนทีน่ากระโดดครั้งแรกได้เพียง 1.3 เมตรเท่านั้น) แม้จะต้องชะตากันตั้งแต่แรกพบทว่าปรีอัญดิ์ต้องรอการอนุมัติจากสปอนเซอร์เพื่อคว้าตัวอาชาดีกรีเยี่ยมมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการขี่ม้า สุดท้ายทั้งคู่ก็ได้โคจรมาพบกันและทำให้เส้นทางสู่โอลิมปิกของปรีอัญดิ์เตรียมพร้อมด้วยคู่หูอย่างดีไลลาห์

     ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นปรีอัญดิ์และดีไลลาห์ลงแข่งรายการ ณ ประเทศกาตาร์เพื่อทดสอบคลาสใหญ่สุดระดับ 5 ดาว เพื่อเก็บสถิติความสามารถม้าและนำทางดีไลลาห์สู่โอลิมปิกร่วมกัน การแข่งขันกำลังจะจบลงเรื่องน่าตกใจก็เกิดขึ้น จังหวะกระโดดเกิดอุบัติเหตุ ปรีอัญดิ์หล่นจากหลังม้าโดยที่ดีไลลาห์ล้มลงอย่างรุนแรง ทว่าการล้มลงของดีไลลาห์ช่วยให้ปรีอัญดิ์บาดเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นักขี่ม้าสาวถูกนำส่งโรงพยาบาล แต่ข่าวร้ายยิ่งกว่าคือคู่หูของเธอบาดเจ็บรุนแรงด้วยอาการขาหนัก อาการสาหัสที่สุดของม้า นั่นทำให้ดีไลลาห์ทุกข์ทรมานและไม่มีทางรักษา ทีมสัตวแพทย์ลงความเห็นว่าการการุณยฆาตคือทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อหยุดความทรมานของม้า ปรีอัญดิ์เองก็ข้อเท้าหักจนบินกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทยก่อนจะทราบว่าดีไลลาห์จากโลกนี้ไปเสียแล้ว...

การเตรียมตัวของปรีอัญดิ์และทีน่าก่อนการแข่งขันขี่ม้าประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เวทีโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีสจะเริ่มขึ้น

     ความโหดร้ายของข่าวการจากไปคือการที่ปรีอัญดิ์ต้องฟื้นตัวเพื่อเริ่มเส้นทางสู่โอลิมปิกพร้อมอารมณ์เศร้าหมอง เธอยังคงอาลัยรักถึงดีไลลาห์ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขบนเส้นทางการแข่งขันมานานนับปี และเธอก็ตั้งใจว่าการแข่งขัน ณ สนามแข่งพระราชวังแวร์ซายส์จะเป็นการรำลึกถึงดีไลลาห์ด้วยความสามารถและการแข่งขันอย่างเต็มที่ จนสุดท้ายเหตุการณ์อันน่าผิดหวังก็เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าคือปรีอัญดิ์ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย เธอและทีน่าออกจากการแข่งขัน แน่นอนว่าความเสียดายและผิดหวังเกิดขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ถ้าเธอเดินหน้าต่อไปโดยไม่คำนึงถึงม้าคู่ใจเหตุการณ์อันน่าเศร้ามีโอกาสเกิดขึ้นอีกครั้ง และเธอคงไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก

     ถึงอย่างนั้นเธอและทีน่าก็สร้างประวัติศาสตร์กับการเข้าแข่งขันขี่ม้าข้ามเครื่องกีดขวางในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกได้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย เธอระบุหลังการถอนตัวว่าทีน่าเริ่มแพนิกหลังจากขาหลังแตะหลังกระโดดพ้นเครื่องน้ำ ทีน่าหลุดโฟกัสและเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว “ขี่ม้าเป็นกีฬาที่มี 2 หัวใจ มันต้องพร้อมทั้งคนและม้า” ปรีอัญดิ์กล่าวถึงการแข่งขันขี่ม้าด้วยความเข้าใจและมองม้าเป็นคู่หูที่ต้องพร้อมฝ่าฟันไปด้วยกัน นี่เป็นโมเมนต์แห่งความผิดหวังของนักกีฬาไทย แต่กลับได้รับกำลังใจล้นหลาม เพราะเธอและม้าคู่ใจกำลังเดินหน้าไปพร้อมกันและใส่ใจกันดั่งคู่ชีวิต(แห่งการแข่งขัน)โดยแท้จริง