เปิดตาคนทั้งโลก! Stephen Shames ช่างภาพสารคดีที่ถ่ายทอดสังคมอันโหดร้ายที่โลกอาจลืมเลือน
เขาคือช่างภาพแนวสารคดีที่นำเสนอแง่มุมความโหดร้ายและแตกต่างระหว่างมนุษย์ด้วยกัน โดยเฉพาะเด็กที่แทบไม่มีทางเลือกในชีวิต
ว่ากันว่าภาพถ่ายเปรียบเหมือนสมบัติล้ำค่าที่สะท้อนสภาพสังคมในช่วงเวลาต่างๆ ได้ดีที่สุด เนื่องจากสมัยก่อนการถ่ายวิดีโอนั้นซับซ้อนและน้อยคนจะเข้าถึง ดังนั้นภาพถ่ายจึงกลายเป็นของชิ้นล้ำค่าเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้บันทึกเรื่องราวต่างๆ ในบริบทสังคมที่แตกต่างกันไป สำหรับ Stephen Shames เขาเป็นเหมือนนักเคลื่อนไหวและนักบันทึกประวัติศาสตร์ในเวลาเดียวกัน เพราะผลงานของเขาแสดงให้เห็นการเดินหน้าของสังคม ในขณะเดียวกันก็แสดงรอยแยกระหว่างคุณภาพชีวิตอันสุขสมของเด็กจากพื้นที่หนึ่ง กับความโหดร้ายของเด็กจากอีกพื้นที่
อ่านเรื่องราวแนวทางความคิดของช่างภาพระดับตำนานอย่าง Bill Cunningham ได้ที่ vogue.co.th/fashion/article/billcunninghamphilosophy
ผลงานภาพถ่าย Max Kisses Vanessa จากโปรเจกต์ OUTSIDE THE DREAM: CHILD POVERTY IN AMERICA
สตีเฟ่นเป็นช่างภาพหนุ่มจากเมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาคือบุคคลต้นแบบที่เน้นย้ำเรื่องการใช้ภาพถ่ายสะท้อนปัญหาสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเกี่ยวกับความยากเข็ญของเด็ก รวมถึงการแบ่งแยกเรื่องชาติพันธุ์อันเป็นปัญหาสุดหฤโหดที่ยากจะแก้ไข สตีเฟ่นเริ่มเส้นทางการถ่ายภาพเพื่อถ่ายทอดความยากลำบากเหล่านี้ตั้งแต่ช่วงยุค ‘80s เขาได้รับการสนับสนุนจาก Children’s Defense และ Alicia Patterson Foundation จึงมีโอกาสเดินทางไปทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อเก็บภาพความยากลำบากของเด็กที่อยู่ต่ำกว่าระดับเกณฑ์ยากจนทั่วประเทศ ต่อมาก็ทำงานให้กับหนังสือพิมพ์ชื่อดังหลายฉบับและผลงานก็ได้รับการเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง
ผลงานภาพถ่ายจากโปรเจกต์ BRONX BOYS
ความน่าสนใจของผลงานฝีมือสตีเฟ่นคือแง่มุมความจริง ทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เขาคือชายผู้ทำให้ทั้งประเทศเห็นความยากจนอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดนานนับทศวรรษเขาได้รับการสนับสนุนให้เผยแพร่ภาพความน่าเศร้าเพื่อสร้างความตระหนักรู้ว่าแม้ในสังคมประเทศที่พร่ำบอกว่าเต็มไปด้วยความศิวิไลซ์ยังมีหลากซอกมุมที่เต็มไปด้วยความหม่นหมองทางสังคม ภาพที่คนทั่วไปพูดถึงอาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เนื่องจากแง่มุมอันดำมืดอาจไม่ใช่สิ่งที่ใครใคร่นำเสนอมากนัก ดังนั้นการเปิดโลกของสตีเฟ่นจึงมีความสำคัญด้านการตระหนักรู้และเริ่มใส่ใจคนในสังคมรองมากขึ้น
WATCH
ผลงานภาพถ่าย Free Breakfast จากโปรเจกต์ BLACK PANTHER PARTY
นอกจากงานในประเทศแล้วในปี 2006 สตีเฟ่นยังพัฒนาฝีมือพร้อมก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรชื่อ L.E.A.D. Uganda เพื่อช่วยเหลือเด็กยากไร้ในประเทศแถบทวีปแอฟริกา สตีเฟ่นมุ่งมั่นเสาะหาเหล่าเด็กด้อยโอกาสผู้ถูกลืม พวกเขามักเป็นเด็กกำพร้าไร้โอกาสในชีวิต ไม่ว่าจะจากปัญหาโรคระบาด สงคราม การใช้แรงงานเด็ก เรื่อยไปจนถึงเด็กในค่ายของเด็กเร่รอน งานนี้ช่างภาพสารคดีคนนี้จึงค่อยๆ ประสานให้เกิดช่องทางการศึกษาและพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้น เขาสานต่อโปรเจกต์ที่ตัวเองริเริ่มนานถึง 6 ปี ก่อนจะวางมือในปี 2012 และเดินหน้ากลับสู่ชีวิตช่างภาพเต็มตัวอีกครั้ง
ผลงานภาพถ่ายจากโปรเจกต์ CHILDHOOD & YOUTH
โปรเจกต์เด่นๆ ที่ทำให้เรารู้จักสตีเฟ่นอย่างจริงจังคือโปรเจกต์เก่าที่เขาเลือกนำกลับมาเล่าใหม่ ช่างภาพคนนี้รวบรวมผลงานคอลเล็กชั่นดั้งเดิมเพื่อแสดงให้เห็นผลงานที่เขาตั้งใจถ่ายทอดมุมมองสุดพิเศษเกี่ยวกับมนุษย์บนโลกใบนี้ ภาพเชิงสารคดีที่สอดแทรกไปด้วยความสวยงาม อารมณ์ความรู้สึก และกระตุกต่อมการตระหนักรู้ของผู้คน อย่างใน “Childhood & Youth” เขานำเสนอชีวิตของเด็กจากหลายพื้นที่ ซึ่งมันทำให้เราเห็นว่าความแตกต่างในเรื่องคุณภาพชีวิตและสภาพสังคมนั้นสำคัญต่อการหล่อหลอมชีวิตเด็กคนหนึ่งให้เติบโตขึ้น และนี่คือตัวตนของสตีเฟ่นที่เขาภูมิใจสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายสารคดีมาทั้งชีวิต
ผลงานภาพถ่าย Philippines จากโปรเจกต์ STREET KIDS
ความโดดเด่นของภาพถ่ายฝีมือสตีเฟ่นถือเป็นงานศิลปะชิ้นสำคัญของมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ภาพถ่ายหลายใบถูกนำไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ชื่อดังหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Metropolitan Museum of Art, Museum of Modern Art, National Portrait Gallery และอีกหลายต่อหลายแห่ง นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลจากองค์กรธุรกิจถ่ายภาพทั้ง Kodak และ Leica อีกด้วย มากไปกว่านั้นเขายังได้รับการขนานนามว่าเป็นช่างภาพ 1 ใน 15 ช่างภาพ “Underrated” ที่สุดในโลก เรื่องราวและภาพถ่ายทั้งหมดของเขาคือคุณค่าทางศิลปะและประวัติศาสตร์ที่ควรถูกจารึกให้คนทุกรุ่นได้เห็น แม้โลกพัฒนาไปแต่หลายสังคมยังคงเผชิญความยากลำบาก การที่โลกค่อยๆ สวยงามขึ้นเป็นฉากหน้าที่ทำให้คนสนใจความยากไร้ได้ยากขึ้นเช่นกัน หากไม่มีช่างภาพแบบเขาขึ้นมา ไม่แน่พวกเขาอาจจะถูกลืมไปแบบไม่มีใครนึกถึงไปตลอดกาล
ภาพ: Stephen Shames
WATCH