เหรียญแรกของประเทศเกาะเล็กๆ...2 นักกรีฑาจารึกประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองเป็นครั้งแรก
นักกรีฑาจากเซนต์ลูเซียและโดมินิกาสร้างโมเมนต์แห่งความทรงจำด้วยการคว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศชาติ
สำหรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เป็นประจำทุกครั้งที่เราจะเห็นชาติยักษ์ใหญ่อย่าง สหรัฐอเมริกา จีน ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และประเทศพัฒนาแล้วอีกหลากหลายประเทศชิงชัยเหรียญรางวัลกันอย่างเข้มข้น โอกาสสำหรับชาติเล็กๆ ในรายการแข่งขันสำคัญนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ใช่สำหรับโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส กับการแข่งขันกรีฑาทั้งประเภทลู่และลาน เพราะครั้งนี้มีเหรียญทองจากประเทศหน้าใหม่ และตัวแทนของประเทศยังสร้างประวัติศาสตร์อันน่าประทับใจจากดินแดนที่มีประชากรเพียงไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ของประเทศมหาอำนาจทางการกีฬาทั้งหลายเลยด้วยซ้ำ
โมเมนต์การเข้าเส้นชัยในฐานะเหรียญทองโอลิมปิกของ Julien Alfred (คนที่ 2 จากซ้าย) / ภาพ: Stabroek News
เริ่มกันที่การแข่งขันกรีฑาประเภทลู่ระยะ 100 เมตรหญิง ตัวเต็งอย่าง Sha’Carri Richardson จากทีมชาติสหรัฐอเมริกาคือดาวดังที่ทุกคนจับตามองและเชื่อว่าจะคว้าเหรียญทองไปได้ตามหน้าเสื่อ ทว่าผลการแข่งขันกลับพลิกล็อกเมื่อ Julien Alfred สาวนักสปรินต์จากเซนต์ลูเซียคว้าชัยไปครองแบบเหนือความคาดหมาย สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาจากเซนต์ลูเซียคนแรกที่ได้เหรียญโอลิมปิก ซึ่งเหรียญดังกล่าวเป็นเหรียญทองในการแข่งขันกรีฑาระดับไฮไลต์ที่ทั่วโลกจับจ้อง หากจะพูดว่านี่คือการพลิกล็อกระดับโลกก็ไม่ผิดนัก แต่ในอีกมุมหนึ่งจูเลียนก็เป็นนักกรีฑาฝีเท้าจัดที่สั่งสมประสบการณ์มาไม่น้อยเช่นกัน
ความสำเร็จของจูเลียนคือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่เป็นดั่งความภาคภูมิใจของเซนต์ลูเซีย เพราะจำนวนประชากรคาดการณ์ของประเทศอยู่ที่ระดับประมาณ 170,000 คนเท่านั้น และหนึ่งในนั้นคือแชมป์โอลิมปิกในรายการที่ยิ่งใหญ่และมีตัวเต็งของรายการหวังแชมป์อยู่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกแสงสปอตไลต์จับจ้องไปที่นักสปรินต์ชาวอเมริกัน แต่จูเลียนก็สร้างปรากฏการณ์กดเต็มสปีดสร้างสถิติที่ดีที่สุดของตัวเองด้วยเวลา 10.72 วินาที ขึ้นโพเดียมในฐานะผู้ชนะและสามารถโบกธงเซนต์ลูเซียให้เป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งโลก
โมเมนต์การฉลองชัยชนะของ Thea LaFond หลังคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ในการแข่งขันเขย่งก้าวกระโดด / ภาพ: World Athletics
ก้าวข้ามจากประเภทลู่มาประเภทลาน อีกหนึ่งกีฬาที่อาจเป็นพระรองของกรีฑาคือเขย่งก้าวกระโดด รายการนี้ไม่ได้มีตัวเต็งระดับซูเปอร์สตาร์ค้ำหน้าลิสต์รายชื่อการแข่งขัน ทุกคนล้วนมีศักยภาพดีพอจะคว้าเหรียญรางวัลกลับบ้าน แต่ถ้าให้จับตามองก็คงต้องมองถึง Leyanis Pérez และ Shanieka Ricketts นักกรีฑาผู้เข้ารอบชิงด้วยสถิติอันยอดเยี่ยม 2 อันดับแรก และยังมี Jasmine Moore จากสหรัฐอเมริกา ชาติมหาอำนาจด้านกรีฑาไล่เข้ามาติดๆ ถึงจุดนี้หลายคนก็ค่อนข้างมั่นใจว่าการชิงชัยเหรียญทองคงหนีไม่พ้น 3 คนนี้
แต่แล้วเมื่อการแข่งขันรอบชิงชนะเหรียญทองเริ่มขึ้นเลยานิสจากคิวบาก็ขึ้นนำด้วยสถิติ 14.62 เมตร สร้างมาตรฐานสูงให้คนอื่นไล่ตาม ก่อนจะมีเซอร์ไพรส์ในการกระโดดครั้งที่ 2 เมื่อ Thea LaFond แชมป์โลกจากการแข่งขันกรีฑาในร่มปี 2024 กระโดดได้ระยะ 15.02 เมตร สร้างสถิติที่ดีที่สุดของตัวเอง เปิดโอกาสการคว้าเหรียญทอง ซึ่งคนอื่นก็พยายามสร้างระยะให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายแต่ก็ไม่มีใครทำสำเร็จ เธอาคว้าเหรียญทองไปได้แบบลุ้นตัวโก่งกับการกระโดด 4 รอบที่เหลือ (กติกากระโดด 6 รอบ เธอากระโดดรอบ 2 ได้ดีที่สุด) สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญโอลิมปิกเหรียญแรกให้ประเทศโดมินิกา ดินแดนเล็กๆ ในแถบแคริบเบียน ที่มีประชากรราว 70,000 คนเท่านั้น นับเป็นโมเมนต์แห่งความยิ่งใหญ่ประจำวงการกีฬาที่เกิดขึ้นในโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส โมเมนต์ที่ชาติเล็กๆ ทั้ง 2 ชาติถูกจารึกลงในหน้าบันทึกสถิติโอลิมปิกเพิ่มเข้ามาอย่างเป็นทางการด้วยเหรียญรางวัลของผู้ชนะระดับแชมเปี้ยน
WATCH
WATCH