FASHION

Squid Game กับ Surrealist Ball แรงบันดาลใจจากงานปาร์ตี้ที่เพี้ยนที่สุดในประวัติศาสตร์

คงไม่มีงานปาร์ตี้ไหนเป็นตำนานแห่งความแปลกประหลาดได้เท่างานปาร์ตี้ของตระกูล Rothschild ในปี 1972 อีกแล้ว

     ช่วงปลายปี 2021 คงไม่มีซีรีส์เรื่องไหนดังกระฉ่อนเท่ากับ Squid Game อีกแล้ว ความยอดเยี่ยมของพลอตเรื่อง รวมถึงการสร้างมิติใหม่ให้กับชิ้นงานบันเทิงแนวเอาตัวรอดแบบนี้ทำให้มันกลายเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ดารานักแสดงหลายคนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งนางแบบสาว Jung Ho Yeon ที่ผันตัวจากนางแบบสุดเก๋บนรันเวย์สู่การเป็นนางเอกในเรื่องนี้ได้อย่างน่าชื่นชม แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือแรงบันดาลใจเบื้องหลังในการสร้างสรรค์ฉากต่างๆ ขึ้น ซึ่งมีฉากหนึ่งที่มีการพูดถึงว่าอิงจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ และมันก็เป็นมากกว่าแค่การเปรียบเทียบฉาก เพราะบริบทในการรังสรรค์ฉากนี้ขึ้นสะท้อนกลับสู่ความอู้ฟู่รุ่งเรืองของเหล่าแขกวีไอพีที่อยู่เหนือทุกอำนาจ

เหล่าวีไอพีในซีรีส์เรื่อง Squid Game ที่สวมสูทมาพร้อมหน้ากากรูปร่างประหลาด ชวนให้เรานึกถึงงาน Surrealist Ball เมื่อปี 1972 / ภาพ: Netflix

     ฉากที่เรากำลังกล่าวถึงคือฉากที่เหล่าวีไอพีสวมหน้ากากรูปร่างประหลาดเพื่อเข้าชมการแข่งขันเอาชีวิต พวกเขาเป็นเหมือนชนชั้นนำทางสังคมที่ต้องการความสนุกแปลกใหม่ในชีวิต ความประหลาดยิ่งดูลึกลับซับซ้อนขึ้นไปเมื่อพวกเขาสวมหน้ากากและแต่งกายอย่างเซอร์เรียลสุดๆ ตรงนี้ทำให้เรานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์ของโลกแฟชั่นและศิลปะอย่างงาน Surrealist Ball ในปี 1972 ที่ตระกูล Rothschild จัดงานเลี้ยงฉลองสุดอลังการที่เต็มไปด้วยแขกระดับวีวีไอพีผู้มาพร้อมหน้ากากและเครื่องแต่งกายที่ไม่เหมือนใคร

Guy และ Marie Hélène de Rothschild ในลุคธีม Black Tie กับเครื่องประดับศีรษะสุดเซอร์เรียล / ภาพ: Courtesy of Rothschild

     คำเชิญจาก Marie Hélène de Rothschild คือเครื่องหมายการันตีสถานะทางสังคมว่าคุณคือคนสำคัญและอยู่ในระดับชั้นอันถือว่าเป็นสังคมสูงสุดของฝรั่งเศส ดีไม่ดีคือของโลกเลยด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่าจะรองรับงานยักษ์ใหญ่เช่นนี้ทุกอย่างจะต้องยิ่งใหญ่และสุดยอดตามสเกล ความยิ่งใหญ่ตรงนี้เป็นเหมือนเข็มค้ำคอที่ไม่มีใครปฏิเสธ และทุกคนก็ต้องการเข้าร่วมงานที่เตรียมพร้อมสำหรับแสดงสถานะทางสังคมทางอ้อมแบบนี้ “black tie, long dresses & surrealist heads” คือนิยามของเดรสโค้ดที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นแขกผู้ชายจึงมาพร้อมทักซิโด้ ส่วนฝั่งผู้หญิงก็มาพร้อมชุดราตรีสุดหรูหรา และทุกคนเตรียมเครื่องประดับศีรษะสุดอลังการมากันอย่างเต็มที่ ซึ่งหากเทียบกับซีรีส์เรื่อง Squid Game เราจะเห็นความละม้ายคล้ายคลึงจนบอกไม่ถูก วิธีการใช้โทนสีเองก็ถอดแบบมาจากงานนี้ราวกับปลุกงานปาร์ตี้ของชนชั้นสูงในปี 1972 ให้กลับมาชีวิตอีกครั้งในซีรีส์



WATCH




บริกร 2 คนถ่ายภาพร่วมกับหุ่นจำลองสำหรับเสิร์ฟอาหารในงาน / ภาพ: Courtesy of Legendary Parties by Prince Jean-Louis De Faucigny-Lucinge

     ความอลังการตามแบบฉบับของรอธส์ไชลด์ไม่ได้หมายถึงแค่ความหรูหรา แต่หมายถึงความแปลกตาด้วย ดังนั้นฉากใน Squid Game ที่มีบริกรแต่งกายเต็มยศ ฉากการเสิร์ฟอาหารลงบนโต๊ะสุดประหลาด การตกแต่งห้องที่ใช้ร่างกายมนุษย์ และอื่นๆ อีกมากมายก็ล้วนพาเรานึกถึงคอนเซ็ปต์งานเลี้ยงในประวัติศาสตร์งานนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตลอดหลายทศวรรษมีการนำแรงบันดาลใจจากงานนี้ไปผลิตเป็นฉากต่างๆ ในภาพยนตร์หลายครั้ง ซึ่ง Squid Game ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สะท้อนบริบทของเหล่าคนชนชั้นสูงของฝรั่งเศสออกมาในรูปแบบของตัวเองได้อย่างน่าสนใจ

ลุคหน้ากากสีโทนร้อนที่เหมือนกับเครื่องแต่งกายของเหล่าแขกวีไอพีในเรื่อง Squid Game / ภาพ: Courtesy of Rothschild

     อะไรที่ทำให้มันเหมือนกันนอกจากฉากและชุดต่างๆ คำตอบคืองานปาร์ตี้ดังกล่าวเป็นเหมือนการปลดปล่อยของผู้คนที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมจนหมดความตื่นเต้นในชีวิต พวกเขาสามารถเขวี้ยงเงินเล่นได้เหมือนเศษกระดาษ คนเหล่านี้ต้องการสถานที่ปลดปล่อยตัวเองออกจากภาพลักษณ์ชนชั้นสูงที่มีคนเกรงอกเกรงใจและนับถือตามลำดับชั้นทางสังคมสมัยนั้นด้วยการปิดบังใบหน้าและสร้างคาแรกเตอร์ในจินตนาการเพื่อสนุกอย่างเต็มที่ จนงานนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นงานปาร์ตี้ที่สุดขั้วที่สุดในประวัติศาสตร์ ตัดกลับมาที่ Squid Game บริบทเหล่านี้ถูกแต่งเติมให้เข้มข้นสอดคล้องไปกับเรื่อง เหล่าแขกวีไอพีต้องการปลดปล่อยและสนุกชนิดไม่มีกรอบสังคมใดมีขีดกั้น พวกเขานำเสนอตัวตนความเหนือสุดในสังคมแบบไม่เปิดเผยอัตลักษณ์ ทุกคนสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าและดูการแสดงฆ่าแกงกันแบบสดๆ ถ้าลองพินิจพิจารณาดูฉากช่วงท้ายของซีรีส์ก็เหมือนกับงานเลี้ยงฉลองของตระกูลรอธส์ไชลด์อย่างไรอย่างนั้น เพียงแต่เคี่ยวให้มันเข้มข้นและรุนแรงขึ้นตามเนื้อเรื่อง หากใครเคยตั้งคำถามว่า “ใครจะรังสรรค์ปาร์ตี้สุดเพี้ยนแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ” ต่อไปนี้ทุกคนก็พร้อมผายมือไปที่ “Surrealist Ball” งานปาร์ตี้ที่เหมือนพาทุกคนหลุดไปในโลกแห่งความเหนือจริงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ (อ่านเรื่องราวงาน Surrealist Ball เพิ่มเติมได้ ที่นี่)

WATCH