Sophie Delafontaine

FASHION

พูดคุยถึงแนวคิดและเบื้องหลังดีไซน์กับ ‘Sophie Delafontaine’ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์แห่ง Longchamp

โว้กประเทศไทยสัมภาษณ์พิเศษกับ ‘Sophie Delafontaine’ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์แห่ง Longchamp เจาะลึกถึงแรงบันดาลใจและมิติที่หลากหลายของแบรนด์

โดย Achiraya Duangkaew
15 ธันวาคม 2568

ความจริงแท้ จริงใจ พลัง และความมุ่งมั่น” ทั้งหมดนี้คือคุณค่าหลักที่ Longchamp ยึดมั่นมานับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ในปี 1948 โดยได้สร้างสรรค์และตีความ French art de vivre หรือศิลปะแห่งการใช้ชีวิตแบบฝรั่งเศสขึ้นมาใหม่ในทุกฤดูกาล ภายใต้การนำของ ‘Sophie Delafontaine’ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ Longchamp และเป็นทายาทรุ่นที่ 3 โดยเธอยังคงสืบสานมรดกอย่างต่อเนื่อง นำเสนอภาพลักษณ์ของหญิงสาวปารีเซียงที่มีความเป็นธรรมชาติ พลิ้วไหว และเปี่ยมไปด้วย joie de vivre หรือความสุขในการใช้ชีวิต เพื่อตอบสนองผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีความร่วมสมัยและมุมมองแบบสากล ซึ่งล่าสุด Longchamp ถ่ายทอดจิตวิญญาณคอลเล็กชั่นใหม่ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2026 ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ โว้กประเทศไทยจึงมีโอกาสได้พูดคุยกับ ‘Sophie Delafontaine’ ถึงแรงบันดาลใจ แนวคิด เบื้องหลังของงานดีไซน์ หรือแม้แต่ศิลปะอันเป็นรากฐานยาวนาน

 

VOGUE: อะไรคือแรงบันดาลใจของคอลเล็กชั่นประจำฤดูกาลนี้ และสิ่งนั้นหล่อหลอมภาพของผู้หญิงในแบบ Longchamp ยุคใหม่อย่างไรบ้าง?

Sophie: Longchamp มีงานฝีมือที่ยอดเยี่ยมและคุณภาพระดับสูง ซึ่งฉันคิดว่านี่คือรากฐานสำคัญ ในทุกฤดูกาลฉันพยายามผสมผสานนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ สีสัน และดีเทลที่เหมาะกับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีความกระฉับกระเฉงและมองโลกในแง่ดี รวมถึงผู้หญิงที่ไม่หวานจนเกินไป ผสานความสปอร์ตและสไตล์แคชชวล เป็นความเฟมินีนที่สามารถกลมกลืนกับในชีวิตประจำวันได้จริงๆ ซึ่งแรงบันดาลใจสำหรับคอลเล็กชั่นฤดูร้อนจะมาจากบรรยากาศของชายทะเลหน้าร้อนและไลฟ์สไตล์เซิร์ฟที่ทำให้รู้สึกสดชื่นเสมือนคลื่นลูกใหม่

 

V: ในมุมมองของคนไทยแล้ว มักเห็น Longchamp เป็นแบรนด์คลาสสิกแต่มีดีเทลที่ดีมาก อยากทราบว่าแรงบันดาลใจครั้งนี้ทำให้ความคลาสสิกนั้นดูโมเดิร์นขึ้นยังไงในมุมมองของคุณ?

S: เราจะเห็นสีสันสดใสแต่งแต้มไปด้วยลายทาง ลายคลื่น และยังมีโลโก้ประจำฤดูกาลที่ออกแบบใหม่ เป็นภาพม้ากำลังโต้คลื่นอยู่หน้าพระอาทิตย์ตก สื่อถึงความรู้สึกราวกับได้อยู่บนชายหาดกับเพื่อนๆ สนุกสนาน เป็นวันสปอร์ตๆ และผ่อนคลายตอนพระอาทิตย์ตก จะให้ความรู้สึกสดใหม่และเท่มากค่ะ

 

V: การทำให้ความคลาสสิกดูร่วมสมัยขึ้น เชื่อมโยงไปถึงกระเป๋าด้วยเช่นกัน

S: ใช่ค่ะ ในคอลเล็กชั่นนี้เรามีกระเป๋าหลากหลายแบบ เช่น Roseau และกระเป๋าอื่นๆ ในสีสันสดใส รวมถึงรุ่นใหม่ชื่อ ‘Loooong’ ในสีฟ้าสกายบลู เขียวพิสตาชิโอ แดงทองกา น้ำตาลม็อคค่า และในคอลเล็กชั่นยังมีสีสด เช่น มิ้นต์ ชมพู หรือม่วง เรามิกซ์โทนสีอบอุ่นและสดใหม่เข้าด้วยกันเพื่อให้เข้าถึงผู้หญิงยุคนี้ง่ายขึ้น รวมถึงแอ็กเซสเซอรี่ด้วย เราตั้งใจทำพาเลทสีที่ลูกค้าสามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ง่าย ให้ผู้หญิงนำไอเท็มชิ้นต่างๆ ไปปรับเป็นสไตล์ของตัวเอง เป็นการนำความสดใหม่เข้ามาผ่านสีและลายพิมพ์โดยที่ไม่ละทิ้งงานฝีมือและความคลาสสิกไว้ดังเดิม

 

V: ในตอนออกแบบ คุณเริ่มจากการวางกลยุทธ์หรือเริ่มจากการสร้างสรรค์?

S: ฉันไม่ใช่สายมาร์เก็ตติ้งค่ะ (หัวเราะ) ฉันเริ่มจากความรู้สึกก่อนเสมอ หลังจากนั้นค่อยหาวิธีปรับให้เข้ากับคอลเล็กชั่น ฉันจะเริ่มจากพาเลตสีประจำฤดูกาล บางฤดูเป็นโทนสีพาสเทล บางฤดูเป็นโทนสีสด บางฤดูเป็นโทนธรรมชาติ พอได้พาเลตแล้วถึงจะคิดต่อว่าความรู้สึกเบื้องหลังคืออะไร เช่น พอเห็นสีสดๆ ก็มักจะนึกถึงทะเล แสงแดด ความสนุกสนาน ซึ่งเป็นอารมณ์ที่เราอยากให้ลูกค้ารู้สึกเช่นกันค่ะ

 

V: ในยุคดิจิทัลแบบนี้ แบรนด์มีการใช้ข้อมูลหรือมีขั้นตอนการทำงานเพิ่มขึ้นไหม?

S: แน่นอนค่ะ ดิจิทัลเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ลูกค้าและเป็นส่วนหนึ่งของระบบการทำงาน เราทำทุกอย่างตั้งแต่การสื่อสาร ร้านค้า โซเชียล เว็บไซต์ แต่ฉันก็ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในร้านอยู่ดี เพราะเสน่ห์ของการเดินเข้ามาในร้านคือการได้ชมงานศิลปะ จิบกาแฟ นั่งโซฟา และตกแต่งกระเป๋าในสไตล์ของคุณ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ดิจิทัลทำให้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นฉันมองว่าทั้งสองอย่างนี้ต้องส่งเสริมกัน

 

V: พูดถึงงานศิลปะ ปัจจุบันนี้หลายแบรนด์ได้มีการทำงานร่วมกับศิลปิน ซึ่งจุดนี้สำคัญกับ Longchamp อย่างไร?

S: ศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอแบรนด์มาตั้งแต่ต้นเลยค่ะ ตั้งแต่ยุคของคุณยายในปี 70s เราทำงานร่วมกับศิลปินมาโดยตลอด ฉันเองก็เริ่มทำตั้งแต่ปี 2004 เรามีศิลปินจากทั่วโลกทั้งไทย แอฟริกา ยุโรป ออสเตรเลีย หรือญี่ปุ่น เราชอบที่จะให้ผู้คนได้ค้นพบศิลปินใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปินหน้าใหม่หรือระดับมาสเตอร์ สำหรับฉัน ศิลปะคือเสรีภาพ ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ และงานฝีมือ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ฝังอยู่ในรากฐานของแบรนด์ Longchamp ซึ่งเชื่อมโยงกับสปิริตของแบรนด์อย่างความอิสระ ความสร้างสรรค์ อารมณ์ และงานฝีมือ เหมือนกับศิลปะนั่นแหละค่ะ กระเป๋าหนึ่งใบเราอาจจะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ แต่เราเพียงแค่อยากได้ ‘อารมณ์ใหม่’ และนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด

 

V: สำหรับสไตล์ของผู้หญิงไทยที่มีความหลากหลายมาก คุณจะออกแบบอย่างไร และอยากแนะนำอะไรให้แก่คนที่นำสไตล์ของ Longchamp มาปรับใช้?

S: ฉันดีใจมากที่ผู้หญิงมีสไตล์ที่หลากหลาย เพราะฉันตั้งใจออกแบบเพื่อผู้หญิงหลากหลายแบบอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงที่ฉันกำลังสื่อสารผ่านงานออกแบบคือผู้หญิงที่กระฉับกระเฉง มั่นใจ มองโลกในแง่ดี และสนุกสนานกับการใช้ชีวิต ในคอลเล็กชั่นนี้ฉันมีคีย์พีซที่แต่ละคนจะสามารถนำไปปรับให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองได้ ฉันไม่ได้ต้องการให้ซื้อทั้งลุค แต่ต้องการให้หยิบสักชิ้นที่จะนำไปมิกซ์แอนด์แมตช์ และมีการพลิกแพลงเล็กน้อยผ่านสี ดีเทล หรือลายพิมพ์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ฉันมีความสุขมากเวลาเห็นผู้หญิงใช้ Longchamp ตามท้องถนน ทุกคนมีสไตล์ที่แตกต่างกันมาก ซึ่งมันคือเสน่ห์ของแฟชั่นค่ะ

 

V: สังเกตว่ามีสีสันบนกระเป๋าคลาสสิกมากขึ้น นี่ถือว่าเป็นการตีความใหม่ไหม?

S: สีเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์เรามาโดยตลอด คุณพ่อของฉันทำกระเป๋าเดินทางสีชมพูตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว แต่ตอนฉันมารับช่วงต่อ ฉันใช้สีนุ่มนวลที่ดูเฟมินีนมากขึ้น โดยที่ยังคงความไร้กาลเวลาและงานฝีมือของแบรนด์ไว้

 

V: สไตล์ของ Longchamp ถูกมองว่ามีความ Effortless จริงไหม?

S: ใช่ค่ะ มีความเป็นปารีเซียงแบบ Effortless นั่นหมายถึงมีความเนี้ยบ มีสไตล์ แต่ไม่ดูพยายามจนเกินไป ผู้หญิงในแบบ Longchamp จะชอบแฟชั่นแต่ไม่ใช่แฟชั่นนิสต้าแบบสุดโต่ง ยังคงเป็นตัวของตัวเองแต่ก็ไม่ตกเทรนด์และยังคลาสสิกใส่ได้เรื่อยๆ

 

V: ตอนนี้หลายคนพยายามค้นหาตัวตนทางแฟชั่น ซึ่งบางครั้งอาจหลุดจากการเป็นตัวเองไปไกล คุณช่วยแนะนำวิธีค้นหาตัวตนผ่านแฟชั่นได้ไหม?

S: หลายคนคงทราบว่าทุกวันนี้ผู้หญิงแต่งตัวเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อใคร ฉันออกแบบโดยคำนึงถึงความสบายที่จะทำให้ผู้หญิงมั่นใจ เช่น รองเท้าส้นสูงของเราจะไม่สูงเกินไป ประมาณ 8-9 เซนติเมตร เราจะยังสามารถเดินได้อย่าสง่าและรู้สึกดี นี่คือหลักการเดียวกับกระเป๋าในคอลเล็กชั่น ฉันอยากให้ผู้หญิงสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกและเป็นตัวเองตลอดทั้งวัน นั่นคือจุดที่ทำให้เกิดความมั่นใจค่ะ

 

V: ถ้าผู้หญิงไทยอยากเริ่มมีสไตล์ Effortless แบบ Longchamp คุณจะแนะนำอย่างไร?

S: ฉันคิดว่าผู้หญิงไทยหลายคนมีสปิริตนี้อยู่ในตัวอยู่แล้วนะคะ ผู้หญิงที่มีความ Working Woman กระฉับกระเฉง ต้องการความสบายแต่ก็ยังสวยและมีสไตล์ นี่คือผู้หญิงในแบบ Longchamp เลย ซึ่งคำว่า Effortless ในความหมายของฉันคือความงดงามเหนือกาลเวลา ผสมผสานเข้ากับความมั่นใจและความสดใสเฉพาะตัว

Photo : Courtesy of Longchamp
TAGS : Longchamp