“ความจริงแท้ จริงใจ พลัง และความมุ่งมั่น” ทั้งหมดนี้คือคุณค่าหลักที่ Longchamp ยึดมั่นมานับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ในปี 1948 โดยได้สร้างสรรค์และตีความ French art de vivre หรือศิลปะแห่งการใช้ชีวิตแบบฝรั่งเศสขึ้นมาใหม่ในทุกฤดูกาล ภายใต้การนำของ ‘Sophie Delafontaine’ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ Longchamp และเป็นทายาทรุ่นที่ 3 โดยเธอยังคงสืบสานมรดกอย่างต่อเนื่อง นำเสนอภาพลักษณ์ของหญิงสาวปารีเซียงที่มีความเป็นธรรมชาติ พลิ้วไหว และเปี่ยมไปด้วย joie de vivre หรือความสุขในการใช้ชีวิต เพื่อตอบสนองผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีความร่วมสมัยและมุมมองแบบสากล ซึ่งล่าสุด Longchamp ถ่ายทอดจิตวิญญาณคอลเล็กชั่นใหม่ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ปี 2026 ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ โว้กประเทศไทยจึงมีโอกาสได้พูดคุยกับ ‘Sophie Delafontaine’ ถึงแรงบันดาลใจ แนวคิด เบื้องหลังของงานดีไซน์ หรือแม้แต่ศิลปะอันเป็นรากฐานยาวนาน
VOGUE: อะไรคือแรงบันดาลใจของคอลเล็กชั่นประจำฤดูกาลนี้ และสิ่งนั้นหล่อหลอมภาพของผู้หญิงในแบบ Longchamp ยุคใหม่อย่างไรบ้าง?
Sophie: Longchamp มีงานฝีมือที่ยอดเยี่ยมและคุณภาพระดับสูง ซึ่งฉันคิดว่านี่คือรากฐานสำคัญ ในทุกฤดูกาลฉันพยายามผสมผสานนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ สีสัน และดีเทลที่เหมาะกับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีความกระฉับกระเฉงและมองโลกในแง่ดี รวมถึงผู้หญิงที่ไม่หวานจนเกินไป ผสานความสปอร์ตและสไตล์แคชชวล เป็นความเฟมินีนที่สามารถกลมกลืนกับในชีวิตประจำวันได้จริงๆ ซึ่งแรงบันดาลใจสำหรับคอลเล็กชั่นฤดูร้อนจะมาจากบรรยากาศของชายทะเลหน้าร้อนและไลฟ์สไตล์เซิร์ฟที่ทำให้รู้สึกสดชื่นเสมือนคลื่นลูกใหม่
V: ในมุมมองของคนไทยแล้ว มักเห็น Longchamp เป็นแบรนด์คลาสสิกแต่มีดีเทลที่ดีมาก อยากทราบว่าแรงบันดาลใจครั้งนี้ทำให้ความคลาสสิกนั้นดูโมเดิร์นขึ้นยังไงในมุมมองของคุณ?
S: เราจะเห็นสีสันสดใสแต่งแต้มไปด้วยลายทาง ลายคลื่น และยังมีโลโก้ประจำฤดูกาลที่ออกแบบใหม่ เป็นภาพม้ากำลังโต้คลื่นอยู่หน้าพระอาทิตย์ตก สื่อถึงความรู้สึกราวกับได้อยู่บนชายหาดกับเพื่อนๆ สนุกสนาน เป็นวันสปอร์ตๆ และผ่อนคลายตอนพระอาทิตย์ตก จะให้ความรู้สึกสดใหม่และเท่มากค่ะ
V: การทำให้ความคลาสสิกดูร่วมสมัยขึ้น เชื่อมโยงไปถึงกระเป๋าด้วยเช่นกัน
S: ใช่ค่ะ ในคอลเล็กชั่นนี้เรามีกระเป๋าหลากหลายแบบ เช่น Roseau และกระเป๋าอื่นๆ ในสีสันสดใส รวมถึงรุ่นใหม่ชื่อ ‘Loooong’ ในสีฟ้าสกายบลู เขียวพิสตาชิโอ แดงทองกา น้ำตาลม็อคค่า และในคอลเล็กชั่นยังมีสีสด เช่น มิ้นต์ ชมพู หรือม่วง เรามิกซ์โทนสีอบอุ่นและสดใหม่เข้าด้วยกันเพื่อให้เข้าถึงผู้หญิงยุคนี้ง่ายขึ้น รวมถึงแอ็กเซสเซอรี่ด้วย เราตั้งใจทำพาเลทสีที่ลูกค้าสามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ง่าย ให้ผู้หญิงนำไอเท็มชิ้นต่างๆ ไปปรับเป็นสไตล์ของตัวเอง เป็นการนำความสดใหม่เข้ามาผ่านสีและลายพิมพ์โดยที่ไม่ละทิ้งงานฝีมือและความคลาสสิกไว้ดังเดิม
V: ในตอนออกแบบ คุณเริ่มจากการวางกลยุทธ์หรือเริ่มจากการสร้างสรรค์?
S: ฉันไม่ใช่สายมาร์เก็ตติ้งค่ะ (หัวเราะ) ฉันเริ่มจากความรู้สึกก่อนเสมอ หลังจากนั้นค่อยหาวิธีปรับให้เข้ากับคอลเล็กชั่น ฉันจะเริ่มจากพาเลตสีประจำฤดูกาล บางฤดูเป็นโทนสีพาสเทล บางฤดูเป็นโทนสีสด บางฤดูเป็นโทนธรรมชาติ พอได้พาเลตแล้วถึงจะคิดต่อว่าความรู้สึกเบื้องหลังคืออะไร เช่น พอเห็นสีสดๆ ก็มักจะนึกถึงทะเล แสงแดด ความสนุกสนาน ซึ่งเป็นอารมณ์ที่เราอยากให้ลูกค้ารู้สึกเช่นกันค่ะ
V: ในยุคดิจิทัลแบบนี้ แบรนด์มีการใช้ข้อมูลหรือมีขั้นตอนการทำงานเพิ่มขึ้นไหม?
S: แน่นอนค่ะ ดิจิทัลเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ลูกค้าและเป็นส่วนหนึ่งของระบบการทำงาน เราทำทุกอย่างตั้งแต่การสื่อสาร ร้านค้า โซเชียล เว็บไซต์ แต่ฉันก็ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในร้านอยู่ดี เพราะเสน่ห์ของการเดินเข้ามาในร้านคือการได้ชมงานศิลปะ จิบกาแฟ นั่งโซฟา และตกแต่งกระเป๋าในสไตล์ของคุณ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ดิจิทัลทำให้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นฉันมองว่าทั้งสองอย่างนี้ต้องส่งเสริมกัน
V: พูดถึงงานศิลปะ ปัจจุบันนี้หลายแบรนด์ได้มีการทำงานร่วมกับศิลปิน ซึ่งจุดนี้สำคัญกับ Longchamp อย่างไร?
S: ศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอแบรนด์มาตั้งแต่ต้นเลยค่ะ ตั้งแต่ยุคของคุณยายในปี 70s เราทำงานร่วมกับศิลปินมาโดยตลอด ฉันเองก็เริ่มทำตั้งแต่ปี 2004 เรามีศิลปินจากทั่วโลกทั้งไทย แอฟริกา ยุโรป ออสเตรเลีย หรือญี่ปุ่น เราชอบที่จะให้ผู้คนได้ค้นพบศิลปินใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปินหน้าใหม่หรือระดับมาสเตอร์ สำหรับฉัน ศิลปะคือเสรีภาพ ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ และงานฝีมือ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ฝังอยู่ในรากฐานของแบรนด์ Longchamp ซึ่งเชื่อมโยงกับสปิริตของแบรนด์อย่างความอิสระ ความสร้างสรรค์ อารมณ์ และงานฝีมือ เหมือนกับศิลปะนั่นแหละค่ะ กระเป๋าหนึ่งใบเราอาจจะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ แต่เราเพียงแค่อยากได้ ‘อารมณ์ใหม่’ และนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด
V: สำหรับสไตล์ของผู้หญิงไทยที่มีความหลากหลายมาก คุณจะออกแบบอย่างไร และอยากแนะนำอะไรให้แก่คนที่นำสไตล์ของ Longchamp มาปรับใช้?
S: ฉันดีใจมากที่ผู้หญิงมีสไตล์ที่หลากหลาย เพราะฉันตั้งใจออกแบบเพื่อผู้หญิงหลากหลายแบบอยู่แล้ว แต่ผู้หญิงที่ฉันกำลังสื่อสารผ่านงานออกแบบคือผู้หญิงที่กระฉับกระเฉง มั่นใจ มองโลกในแง่ดี และสนุกสนานกับการใช้ชีวิต ในคอลเล็กชั่นนี้ฉันมีคีย์พีซที่แต่ละคนจะสามารถนำไปปรับให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองได้ ฉันไม่ได้ต้องการให้ซื้อทั้งลุค แต่ต้องการให้หยิบสักชิ้นที่จะนำไปมิกซ์แอนด์แมตช์ และมีการพลิกแพลงเล็กน้อยผ่านสี ดีเทล หรือลายพิมพ์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ฉันมีความสุขมากเวลาเห็นผู้หญิงใช้ Longchamp ตามท้องถนน ทุกคนมีสไตล์ที่แตกต่างกันมาก ซึ่งมันคือเสน่ห์ของแฟชั่นค่ะ
V: สังเกตว่ามีสีสันบนกระเป๋าคลาสสิกมากขึ้น นี่ถือว่าเป็นการตีความใหม่ไหม?
S: สีเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์เรามาโดยตลอด คุณพ่อของฉันทำกระเป๋าเดินทางสีชมพูตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว แต่ตอนฉันมารับช่วงต่อ ฉันใช้สีนุ่มนวลที่ดูเฟมินีนมากขึ้น โดยที่ยังคงความไร้กาลเวลาและงานฝีมือของแบรนด์ไว้
V: สไตล์ของ Longchamp ถูกมองว่ามีความ Effortless จริงไหม?
S: ใช่ค่ะ มีความเป็นปารีเซียงแบบ Effortless นั่นหมายถึงมีความเนี้ยบ มีสไตล์ แต่ไม่ดูพยายามจนเกินไป ผู้หญิงในแบบ Longchamp จะชอบแฟชั่นแต่ไม่ใช่แฟชั่นนิสต้าแบบสุดโต่ง ยังคงเป็นตัวของตัวเองแต่ก็ไม่ตกเทรนด์และยังคลาสสิกใส่ได้เรื่อยๆ
V: ตอนนี้หลายคนพยายามค้นหาตัวตนทางแฟชั่น ซึ่งบางครั้งอาจหลุดจากการเป็นตัวเองไปไกล คุณช่วยแนะนำวิธีค้นหาตัวตนผ่านแฟชั่นได้ไหม?
S: หลายคนคงทราบว่าทุกวันนี้ผู้หญิงแต่งตัวเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อใคร ฉันออกแบบโดยคำนึงถึงความสบายที่จะทำให้ผู้หญิงมั่นใจ เช่น รองเท้าส้นสูงของเราจะไม่สูงเกินไป ประมาณ 8-9 เซนติเมตร เราจะยังสามารถเดินได้อย่าสง่าและรู้สึกดี นี่คือหลักการเดียวกับกระเป๋าในคอลเล็กชั่น ฉันอยากให้ผู้หญิงสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกและเป็นตัวเองตลอดทั้งวัน นั่นคือจุดที่ทำให้เกิดความมั่นใจค่ะ
V: ถ้าผู้หญิงไทยอยากเริ่มมีสไตล์ Effortless แบบ Longchamp คุณจะแนะนำอย่างไร?
S: ฉันคิดว่าผู้หญิงไทยหลายคนมีสปิริตนี้อยู่ในตัวอยู่แล้วนะคะ ผู้หญิงที่มีความ Working Woman กระฉับกระเฉง ต้องการความสบายแต่ก็ยังสวยและมีสไตล์ นี่คือผู้หญิงในแบบ Longchamp เลย ซึ่งคำว่า Effortless ในความหมายของฉันคือความงดงามเหนือกาลเวลา ผสมผสานเข้ากับความมั่นใจและความสดใสเฉพาะตัว

‘ฟรีน–สโรชา’ นำทัพพรีวิวคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2026 จาก Longchamp ก่อนใคร

เปิดบทสัมภาษณ์พิเศษ 'Alexander Wang' ผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์แห่งแบรนด์ Alexander Wang

Longchamp x Constantin คอลเล็กชั่นที่ร้อยเรียงงานฝีมือ และจิตวิญญาณแห่งกรุงปารีสไว้ด้วยกัน













